Home
|
ข่าว

อุบัติเหตุ-ล้มนายกฯตู่

@วันนี้ ร่องรอย และ “แรงกระเพื่อม” ทางการเมือง ยังดำเนินคู่ไปกับ บรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯลุงตู่” ”หมอหนู” และ 4 รัฐมนตรี เป็นวันที่ 3 อย่างมีเค้าลางเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งผ่านท่าที่ผู้คนที่อยู่ในวงในอำนาจ รอบๆ “ศูนย์อำนาจการเมือง” ที่ “ขยายผล” มาจาก “ภาษากาย” การส่งสารของ “นายกฯลุงตู่” เองที่วันนี้ (2ก.ย.) ก็ยังตอบแบบไม่ถึงกับมั่นใจว่า ส.ส. จะโหวต “ไว้วางใจ” ให้แค่ไหนในวันที่ 4 ก.ย. ขณะที่ ในพี่น้อง 3 ป. ทั้ง ”พี่ใหญ่” และ ”น้องรอง” เอง ไม่แต่ “พี่ใหญ่” ในบท ”หัวหน้าป้อม” ที่วันก่อนนำสารจาก ”น้องเล็ก” ที่ส่งสัญญาณความถี่ ตั้งคำถาม เหมือน เตือนมาแจ้งกลางวงประชุม บรรดารัฐมนตรี และ ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กำชับให้ ลงคะแนน “ไว้วางใจ” รัฐมนตรี ไปในทิศทางเดียวกัน หลังเกิดข่าวลือข่าวปล่อยมากมายออกมาถึง “ดีลข้ามขั้ว” ของพรรคใหญ่ และก่อเป็นท่าที ไม่พอใจ “นายกฯลุงตู่” ที่ไม่ใกล้ชิด ส.ส.ของพรรค จากผู้คนใน พรรค พปชร. ที่มีเงาของ ”ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส ถูกจับตา ถึงข่าวที่ตามมาเรื่องการปรับ ครม.หลัง “ศึกซักฟอก” และมีการพูดถึงบทบาท มท.1 ของ “พี่รอง” ”บิ๊กป๊อก”

 

 

@ที่แรงกระเพื่อมดังกล่าวทำให้ “นายกฯลุงตู่” ออกมาปรามเมื่อวานอีกรอบ โดย ที่ฮือฮาคือ การออกมาพูดเองของนายกฯที่นอกจากจะยืนยันไม่มีการปรับ ครม. ไม่มีการยุบสภาฯ ยัง เตือนและปรามไปถึงคนปล่อยข่าวอย่าแอบอ้างเบื้องสูงเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยยืนยันว่าไม่มี และมีตัวเองคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสเข้าเฝ้าถวายงาน ที่เท่ากับ “นายกฯลุงตู่” เป็นคน “ขยายผล” ข่าวที่พูดกันวงกว้างดังกล่าว ในขณะที่เมื่อวาน (1ก.ย.) ก็ยังคงมี ภาพการเคลื่อนตัวของ ”ผู้กองนัส” เมื่อวาน (1ก.ย.) ที่จู่ๆ มีการตั้งโพเดียมแถลงที่สภาฯ ว่า ถูกเสี้ยมว่าอยู่เบื้องหลังแผนโค่นนายกฯ ในศึกซักฟอกโดยการโหวต และปูดข้อมูล ว่า มีข่าวที่ได้ยินมาจาก ส.ส. ที่โทรศัพท์ มาหา บอกว่า มีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคเล็กคนหนึ่ง เสนอรับเงิน 10 ล้านบาท เพื่อต่างตอบแทน  และร้ายไปกว่านั้นมี “รัฐมนตรีในพรรค พปชร.” รับงานมาล็อบบี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรค พปชร. ในการโหวตสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ต้องถามว่าคนเป็นรัฐมนตรี สมควรทำอย่างนั้นหรือไม่ เพราะควรเห็นแก่ประโยชน์ของชาติบ้านเมือง โดยยังระบุถึงกลุ่ม 4 ช.ด้วยว่า “ไม่ต้องใคร 4 ช.ที่ว่ากัน ฝากไปบอกเขาด้วยว่า ทำอะไรเพื่อบ้านเพื่อเมืองบ้าง อย่าเห็นผลประโยชน์ส่วนตัว นี่คือ คำตอบของตน”

@น่าสนใจว่าถัดจาก “ผู้กองนัส” ออกมาดังกล่าว มีเซียนการเมืองระดับ “กุนซือ” ออกมาส่งสัญญาณเตือนไปยัง “นายกฯลุงตู่” ให้อย่าเพิ่งวางใจเสียงของฝ่ายโค่นล้มที่มีมากกว่า 30 เสียงกับเงินพันล้านโดยพูดถึงท่าที “คนสำคัญ” ที่ไม่สนใจคำขู่ของนายกฯ ที่ คำเตือนนี้ “ไพศาล พืชมงคล” อดีตกุนซือรองนายกฯขยายผลใน FB ว่า ข่าวนี้อาจมีน้ำหนักฟังได้ ว่ามีความขัดแย้งที่ใหญ่โตในพรรคร่วมรัฐบาลจริง และถ้าหากขณะนี้รวมเสียงไม่ไว้วางใจมากกว่าถึง 30 เสียงตามที่เซียนการเมืองว่าไว้ เวลาลงคะแนนจริง เสียงที่ลังเลอีก 40 เสียงจะเทมาร่วมด้วย ซึ่ง กองหนลุงคงต้องผวาแน่!! ทีสภาพการณ์ดังว่า ยังบังเอิญสอดรับในจังหวะที่  “มือกฎหมายรัฐบาล” “อ.วิษณุ”เมื่อวาน (1ก.ย.) จู่ๆ มีการตอบคำถามนักข่าว ถึงกระแสข่าวกดดันนายกฯให้ปรับ ครม. ภายหลังศึกซักฟอก หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจะเป็นอย่างไร ว่า ไม่ทราบ แต่หากเกิดเหตุการณ์ เช่นกรณีเสียงไว้วางใจของนายกรัฐมนตรีไม่ถึงครึ่งหนึ่งตามที่มีข่าว นายกฯก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไป รัฐบาลก็ต้องล้มทั้งหมด

@ที่ในประเด็น “อุบัติเหตุการเมือง” นั้นเมื่อไปพลิกรัฐธรรมนูญดูถึงผลการซักฟอก ระบุ ว่าการลงมติไม่ไว้วางใจต้องใช้ ส.ส. จำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งของสภา หรือ ส.ส. 251 คน  โดยระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาไม่ได้ เว้นแต่มีการถอนญัตติ หรือลงมติไม่ไว้วางใจไม่สำเร็จ และตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (3) เมื่อสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ ความเป็นรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลง และการ

มติไม่ไว้วางใจจะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร โดยทั่วไปคือเท่ากับหรือเกินกว่า 251 เสียง หากสภาลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีผู้นั้นจะต้องพ้นจากตำแหน่งทันทีตามมาตรา 170 และ นายกรัฐมนตรีถือว่ามีสถานภาพเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งที่อาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ หากนายกรัฐมนตรีถูกลงมติไม่ไว้วางใจ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 167

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube