เลิกพรก.-คืนความสุข
@แม้จะยังมีร่องรอย อาการ “มึนตึง”ทางการเมืองกันอยู่บ้างระหว่าง “คู่ไม่จิ้น”ระหว่าง”นายกฯลุงตู่”กับ “ผู้กองนัส”จากปรากฏการณ์ใน “ศึกซักฟอกรัฐบาล”ที่พุ่งเป้าไปที่ “นายกฯลุงตู่”และ5รัฐมนตรี จากความล้มเหลวการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่ส่งผลกระทบประชาชนทั้งมิติชีวิตสุขภาพและความเป็นอยู่ ที่ทำให้เปิดทำการกลับมา “ลุงตู่”และคณะ วางโหมดการเมืองความขัดแย้งภายใน พปชร.ที่ “พี่ใหญ่”รับไปจัดการตามสภาพ ที่จะล้อไปกับการประชุมวาระ3แก้รัฐธรรมนูญวันที่ 10ก.ย…
โดย”นายกฯลุงตู่”ที่วันพรุ่งนี้(9ก.ย.)ถือว่าเป็นนายกฯประเทศไทยมาแล้ว 7 ปีเต็มตั้งแต่ปี2557 กลับมาในโหมด “การบ้าน” เปิดทำเนียบฯมา เร่งมาตรการเยียวยาผู้ประกันตน และเทคแอ็คชันกับภาคธุรกิจนักลงทุน พร้อมลุยลงพื้นที่โรงพยาบาลปิยเวชดูการรักษาผู้ป่วยIUC โควิด
@ที่นายกฯก่อนหน้านี้มีการ“ส่งสัญญาณบวก”ขนานไปกับแนวทางNewNomalแบบ”ทำใจต้องอยู่กับโควิดให้ได้”กับ”ชุดตัวเลขโควิด”ที่ ศบค.-สธ. กดลงมาตั้งแต่ก่อนวันซักฟอกจาก2หมื่นกว่าเหลือหมื่นกว่า แต่ “ตัวเลขตาย”ยังกดไม่ลงจาก200กว่า ที่แม้ “หมอทวีศิลป์”จะบอกเมื่อวานว่าห่วง เดือนตุลา ที่จะแสดงผลหลังการ “คลายล็อก”แต่ “ศบค.ชุดเล็ก”ก็มีการประเมินว่าปลายสัปดาห์นี้ “ผู้ติดเชื้อ”น่าจะลดลงเหลือหมื่นต้นๆ ส่วนตัวเลขเสียชีวิตยังคงระดับไปอีกสัปดาห์
@แต่ที่ น่าสนใจติดตาม คือช่วงปลายสัปดาห์นี้ ในจังหวะที่ ฝ่ายการเมืองรอลุ้นว่า “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ”บัตรเลือกตั้ง2ใบจะถูกคว่ำในวาระ3 หรือไม่ในวันที่10ก.ย. ยังมีรายงาน ว่า วันเดียวกัน ศบค.ชุดใหญ่ ก็จะเคาะว่า จะเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะให้สิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ และ มาตรา 9 ซึ่งใช้ออกข้อกำหนดต่างๆ โดยกลับไปใช้กฎหมายปกติ อย่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แทน ซึ่งจะส่งผลให้ ศบค. สิ้นสภาพไปโดยปริยายและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบตามหน้าที่ปกติ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไปหรือไม่
@ที่แม้ด้านหนึ่งจากสัญญาณผ่าน อ.วิษณุ จะยังก้ำกึ่งถึงแนวโน้มการยังคง พรก.ฉุกเฉิน ต่อไป โดยอ้างถึง ร่างแก้ไข พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ ที่ยังไปไม่ถึงสภาฯที่กำลังจะปิดสมัยประชุมในสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังน่าพิจารณาถึง “ไทม์มิ่ง”ที่ “นายกฯลุงตู่”เคยประกาศไว้ ว่า 15 ต.ค. ครบ 120วัน “เปิดประเทศ”เพราะฉีดวัคซีนโควิด ได้ตามเป้า แม้เอาเข้าจริงจะมีภาพ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกส์”ให้แสลงใจ แต่ “สัญญาณทางเศรษฐกิจ”นี้ก็ส่งผลทำให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะ “กลุ่มทุนใหญ่” มีการขยับการลงทุนเปิดสาขา ในช่วงปลายปีให้เห็นในช่วง2วันที่ผ่านมา
แม้ฝ่ายการเมือง-ความมั่นคง จะประเมินว่า “นายกฯลุงตู่”และ “ศูนย์อำนาจ3ป.” น่าจะยังไม่อยากปล่อยมือจากอาวุธวิเศษ “พรก.ฉุกเฉิน” ที่ถูกนำมาใช้ในทางการเมือง แต่ก็ประเมินถึง อาการชั่งใจ จาก “เอฟเฟกต์”ที่เกิดขึ้นผ่านเนื้อหาใน “ศึกซักฟอก”ที่โหมใส่ “นายกฯลุงตู่”ในประเด็น “รวบอำนาจ”แบบข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวนั่งหัวโต๊ะ ศบค.สู้โควิด ที่ละลอกล่าสุด เกิดความเสียหายอย่างหนักแบบ ประชาชนตายหมื่นเจ็บป่วยกว่าล้าน ส่งผลกระทบเศรษฐกิจ กับการตกเป็นเป้า “ตำบลกระสุนตก”และมีแนวโน้มว่าจะต้องรับผิดชอบเดี่ยวๆแบบยาวไป
@โดยเฉพาะ ข้อครหา ประสิทธิภาพการรวมศูนย์ที่ศบค.นำมาสู่ความผิดพลาดต่อเนื่องทั้งประเด็นการจัดหาวัคซีนวัสดุอุปกรณ์การแพทย์การจัดหาชุดตรวจกระบวนการรักษา กระบวนการใช้ยา ปัญหาการใช้จ่ายเงินงบประมาณหลายโครงการ อย่างที่ ปปช.ออกมากระตุกเตือน กระทั่งมีข่าวการเตรียม ออก พรก.นิรโทษกรรมโควิด กำหนดมิให้ฟ้องร้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องกับวิกฤตโควิดที่ขยายรวมไปจนถึงผู้รับผิดชอบในการจัดหาและบริหารจัดการเรื่องวัคซีน แต่ถูกสังคมคัดค้านจนต้อง “เฟดหลบ”ไปเสนอในร่างพรบ.ควบคุมโรคระบาด ที่ทั้งหมดยังไม่รวมถึงความเสียหายกับ ผู้ประกอบการประชาชนที่กิจการต่าง ๆ ที่ล้มละลาย ปิดกิจการ เลิกจ้าง ผู้คนตกงานมาเกือบ2 ปี ที่ห้วงก่อนวันซักฟอกมีนักการเมืองพาพวกเขาไปฟ้องร้องต่อศาล
@ที่ทุกสิ่งอย่างแม้ว่าบางอย่างจะไม่ได้ไปเกี่ยว แต่ก็ถูก “มัดรวม” ให้เกี่ยวในฐานะ “ผู้นำแบบซิงเกิ้ลคอมมานด์” จน กลายเป็นความไม่พอใจที่ส่งผลกระทบไปยังคะแนนความนิยมใน“นายกฯลุงตู่”และไหลรวมกลายเป็นปัจจัยทางการเมืองแบบที่เกิดขึ้นใน “ศึกใน”ที่ต้องการ “เปลี่ยนตัวนายกฯ”หลัง “ศึกซักฟอก” ที่เกจิการเมืองประเมินว่าหากยังเป็นเช่นนี้ผลที่สุดอันตรายจะตกกับ “นายกฯลุงตู่”รวมถึง “ศูนย์อำนาจ3ป.”เองที่ปัจจัยดังกล่าวนำมาสู่แนวคิดการเลิกพรก.ยุบศบค.ที่ถือเป็นการปรับกลับสู่โหมดบริหารราชการปกติ ที่ตรงกับที่ “นายกฯลุงตู่”เคยสัญญาเมื่อ7ปีว่าจะคืนความสุขให้ประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news