ความขัดแย้งซุ่มซ่อน
ความขัดแย้งซุ่มซ่อน
@เหมือนคลื่นลมการเมืองจะสงบลงชั่วคราว แม้เมื่อวานครบ 15 ปี รัฐประหาร มีอีเวนต์ของม็อบและมีเหตุตูมต้ามหลายจุด คู่ขนานไปกับ “รัฐบาล3ป.”ที่ยังเหลือวาระอีกปีกว่า ในจังหวะอยู่ในห้วงศึกการบ้าน“โควิดขาลง”ที่ยอดติดเชื้อ “ลดสอบลง”สอดรับกับจังหวะการเข้าใกล้โซน “เปิดประเทศ”ที่ “นายกฯลุงตู่”เคยตั้งเป้าไว้120วัน ในการฉีดวัคซีนให้ได้มากกว่า70% โดยคาด การณ์ว่าอยู่ในช่วงเดือนต.ค. ทำให้ทุกฟังก์ชันขานรับ กับการประเมินผลการคลายล็อกดาวน์ จังหวะสีแดงเข้ม รวมถึงกรุงเทพฯ เปิดให้ธุรกิจขยับ ผู้คนเริ่มออกมาทำกิจกรรม มีการจับจ่ายใช้สอย และนำไปสู่การคลายตัวของมาตรการกฎหมายการเคอร์ฟิว พรก.ฉุกเฉิน ของศบค.
แต่ก็ยังมีบางฝ่ายห่วง การจัดการหากเกิด คลัสเตอร์จากผล การคลายล็อก จนทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการหารายได้อาจดูไปคนละทางกับหน่วยงานเจ้าถิ่น เช่น กรณี “กรุงเทพแซนด์บ็อกซ์”ที่เอกชนขานรับ เป็น “ไม้สอง”จาก “ภูเก็ต”หวัง ว่าไตรมาสสุดท้ายจะโกยเงินเข้าประเทศได้ หากแต่ฝั่ง กทม.หรือรัฐบาลก็ต้องการความรัดกุม จนต้องรีบปัดข่าว “เปิดกรุงฯ”ห้วงกลางเดือนต.ค.แบบเอาชัวร์ไว้ก่อน
@ที่ทำให้ “โหมดการเมือง”ดูเพลาลง แม้กระทั่ง จากท่าทีที่จะมีการเคลื่อนไหวของ สว. ยื่นตีความร่างรัฐธรรมนูญ ก็มี “สัญญาณ”ว่าจะปล่อยมือปล่อยให้ ส.ส.ว่ากันไป แต่ที่หลายฝ่ายจับตาให้ความสนใจติดตาม คือ ปฏิกิริยา ความเคลื่อนไหว รวมถึงท่าที ระหว่าง “2ป.”คือ “ป.ประวิตร”กับ “ป.ประยุทธ์” ที่ถูกมองว่า “พี่ใหญ่”ยังคงงอน”น้องเล็ก”และรอบนี้ดู “เป็นเรื่องเป็นราว”กับ “การยกระดับ”ความ”กินใจ” ไปสู่ “อนาคตการเมือง”ของ “3ป.”และอนาคตทางการเมืองในตำแหน่งนายกฯของ “บิ๊กตู่” หลังการเลือกตั้งครั้งหน้าที่เริ่มมีผู้ประสงค์ดีโยนชื่อนายกฯอย่าง “นายหัวชวน”ประธานรัฐสภา มาให้ผู้คนเลือกแต่หัววันแล้ว
@ที่แม้ “จังหวะเปลี่ยนการเมือง”ผ่านไปแล้วหลัง “ศึกซักฟอก” แต่ก็ยังมีจังหวะของ “การปรับครม.”แทน “2ช.”ที่ถูก “นายกฯลุงตู่”ปลดออกเพราะเหตุแหล่งข่าวปฏิบัติการโค่นนายกฯจากศึกซักฟอก ที่นำมาสู่ ภาพ “การไม่ยอมจบ”และ “การปกป้อง”รวมไปถึง การ “ควบกระชับฐานที่มั่น”ทั้งการ “เปลี่ยนประธานยุทธศาสตร์”จาก”สมศักดิ์ เทพสุทิน”เป็น “พล.อ.วิชญ์”ทั้งการประกาศ “สรจับลายกลุ่มมุ้ง”กลางประชุมพรรคพลังประชารัฐ
@โดยเฉพาะร่องรอยที่แสดงผ่าน ภาษากาย และ การเคลื่อนไหวของ “น้องเล็ก”และ “พี่ใหญ่”ที่ถูกจับจ้องว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมากอดกันอีกเหมือนวันก่อนประชุมพรรค พปชร. ที่วันนี้(20ก.ย.) “พล.อ.ประวิตร”ปรากฏกายคู่ กับ “น้องรอง”พล.อ.อนุพงษ์ ในการ ประชุม คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) ที่ “พล.อ.ประวิตร”รองนายกฯเป็นประธาน พร้อมด้วย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ที่ทำเนียบฯ ในขณะที่ “นายกฯลุงตู่” ประชุมกับ คณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ผ่านระบบVideo Conference ที่ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เหมือนกัน
@แต่ที่ถูกจับจ้องคือ ภาพการเร่งเดินสาย ที่แสดงถึงนัยความสัมพันธ์กับ “นักการเมือง”ของ “นายกฯลุงตู่”ตั้งแต่ ไป สมุทรปราการ, ชัยนาท หรือ ชลบุรี ที่เชื่อมโยงกับ “เสธตึกไทย” รวมถึงข่าวที่จะไปสุโขทัย พื้นที่ของ “สมศักดิ์”วันมะรืน(22ก.ย.)ที่พอถูกจับตา เลยมีการเปลี่ยนไป จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ของ พปชร.แทน ที่ด้านหนึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามแก้โจทย์ความใกล้ชิดกับนักการเมือง พรรค พปชร.ของนายกฯแต่อีกด้าน ถูกมองในด้านที่กำลังสร้างพื้นที่ในพรรคพปชร. ผ่าน รัฐมนตรีที่คุมโซนกลุ่มในพรรค อันไปสอดคล้องกับข่าวปล่อยก่อนหน้าเรื่องการมานั่งหัวหน้าพรรคแทน “พี่ใหญ่”
@ที่ทั้งหมดถูกจับตาว่ายังคงมีร่องรอยความไม่ลงตัวของ “ศูนย์อำนาจ3ป.” กับการบริหารจัดการอำนาจการเมืองหลังจากนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news