โจทย์สถานการณ์”การเมือง”กำลังออกอาการมาเป็น”ทรงเดียว”กับการแก้โจทย์ “การบ้าน”สงครามโควิด ที่ทุกอย่างมากองคาอยู่ที่ “นายกฯลุงตู่”ที่ถนัดการบริหารแบบ “ซิงเกิ้ลคอมมานด์”ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว จน”เป็นเรื่อง”และถูก “ฝ่ายค้าน”นำไป “ซักฟอก”ถึงความผิดพลาดล้มเหลวก่อให้เกิดผลกระทบชีวิตผู้คน ที่แม้เมื่อวาน(5ต.ค.)จะดูประคองเกมการ“ไปต่อ”แบบตีโต้เล็กๆในที แสร้งยอมตามขู่เดิมๆทรง “ตบจูบ” พลิกกลับ คำสั่งนายกฯชั่วเวลาแค่ข้ามสัปดาห์ คืน 4 กรม ในกระทรวงเกษตรฯ ที่เพิ่งให้ “บิ๊กป้อม”ไปดูแบบที่มีข่าวว่ากำชับไม่ให้ “ผู้กองนัส”มาช่วยแล้ว คืนกลับให้ พรรคประชาธิปัตย์ และให้ “โฆษกรัฐบาล”ออกมาส่งสัญญาณการ”ไปต่อ” ทำนอง “ยินดีและขอบคุณ ที่ พปชร. จะเสนอชื่อชิงนายกฯ เลือกตั้งสมัยหน้าออกตัว แล้วแต่ประชาชน โดยย้ำอีกครั้ง ยังไม่ปรับ ครม. พร้อมขอบคุณ ครม.ที่ทำงานร่วมกัน 2 ปี 3 เดือน ยืนยันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลยังทำงานร่วมกันเพื่อแก้โควิด น้ำท่วม และความยากจน ทำนองจะอยู่ยาว จนครบเทอมโดยยังไม่คิดยุบสภา”
เรียกว่าแทบจะเป็นการย้ำรายวันไปแล้วทั้งเรื่องการปรับครม.และการยุบสภาที่”นายกฯลุงตู่”ใน “ทุกช่องทาง”เพื่อสื่อสาร ตั้งแต่ ยังไม่ปรับ ยังไม่ยุบ มาจนถึง ไม่ปรับ ไม่ยุบ ทั้งที่ตัว “นายกฯลุงตู่”และ”รองนายกฯบิ๊กป้อม”ดูเหมือนจะเป็นผู้ “ส่งสัญญาน”ปี่กลอง “การเลือกตั้ง”เชิดรัวจนทุกพรรคทั้งรัฐบาลฝ่ายค้านทุกฝ่าย ร่วม“โหมโรง”ตาม พากันเปิดหน้า “ว่าที่นายกฯ”ที่แต่ละพรรคจะเสนอในการเลือกตั้งไม่นับรวมความสอดรับจาก กกต.ที่ประกาศให้ทุกพรรคเตรียมพร้อมใน “กติกาเลือกตั้งใหม่บัตรสองใบ”ที่กำลังอยู่ในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ตอนนี้ขั้นตอนมาคาค้างอยู่ที่มือของ “นายกฯลุงตู่”มาได้ 6 วันแล้วโดยมีเวลาที่จะต้องทูลเกล้าเหลืออีก20วัน ที่ก็ว่ากันว่าเหตุที่ “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเลือกตั้งบัตร2ใบ”ที่ยังคามือ “นายกฯลุงตู่”แม้ว่าพรรคพปชร.จะ “ได้เปรียบ”ก็เพราะต้องมีการประเมิน “ความเสี่ยงใหม่”
โดยเฉพาะ “ความเสี่ยง”ที่จะทำให้หลังเลือกตั้งทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม แม้วันนี้(6ต.ค.)จะมีการย้ำจากปาก”หัวหน้าป้อม” ว่า พปชร.จะยังเสนอชื่อ “บิ๊กตู่”เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะ “ปัจจัยขัดแย้งภายใน”ของ “พรรคพลังประชารัฐ”และความขัดแย้งของ “ศูนย์อำนาจ3ป.”ระหว่าง “น้องเล็ก”กับ”พี่ใหญ่”เองโดยมี “ตัวแปร”อย่าง”ผู้กองนัส”เลขาธิการพรรคแม่ทัพเลือกตั้ง ไม่นับรวม “ประธานยุทธศาสตร์”อย่าง”บิ๊กน้อย” จนเป็นที่มาของข่าว“พรรคปลัดฉิ่ง”ที่ถูกทิ้งทุ่นออกมาโดย “ผู้การชาติ”เพื่อนตท.12ของ “นายกฯ” และ 13 ส.ส.ใต้ ที่จะมารองรับการเสนอชื่อ “นายกฯลุงตู่”และตามมาด้วยแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงชื่อนายกฯของพปชร.ที่เป็นข่าวสองสัปดาห์ก่อน
ทั้งหมดถูกมองว่า กลายมาเป็นอาการแกว่งไกวแบบมีนัยยะ “ประคองตัว”ของ “นายกฯลุงตู่”แบบไม่พยายามให้เกิดคลื่นใต้น้ำเพิ่มไม่ว่าจากทั้งในและนอกพรรคร่วมรัฐบาลผ่านฉากการคืน 4กรม และรวมถึงการ “ประวิงเวลา”ดูจังหวะการปรับครม.จากเดิมที่มีข่าวก่อนหน้าจะดัน “ปลัดฉิ่ง-บิ๊กเล็ก”เสียบรัฐมนตรีแทนที่ “ผู้กองนัส-อ.แหม่ม”ห้วงกลางเดือนนี้ เพื่อ ปูฐาน-ปั่นแต้ม ไปสู่การยุบสภาเลือกตั้ง ที่ทุกอย่างถูกวางจังหวะที่ต้องระวัง กับดักการเมืองในสภา ข้างหน้าหากมีการเปิดสภาพิจารณากฎหมายสำคัญที่นายกฯต้องรับผิดชอบหากเสียงโหวตส.ส.ไม่ผ่าน
อย่างที่น่าสนใจพิจารณาตามที่ “ไพศาล”“อดีตกุนซือรองนายกฯ”วิเคราะห์วันนี้ ที่ ให้จับตา ว่าจะยุบสภาหรือเลือกตั้งแบบไหน? โดยบอกว่า รื่องที่เชื่อถือคำพูดใครไม่ได้มี 4เรื่อง คือ การประกาศสงคราม การลดค่าเงินบาท การรัฐประหาร และการยุบสภา และชี้เป้า ว่า ร่างรัฐธรรมนูญ มาถึงนายกรัฐมนตรีพ้น5 วันแล้วยังไม่ทูลเกล้า และนายกกำลังใช้สิทธิ์ ซื้อเวลากอดร่างรัฐธรรมนูญอีก 20 วันถึงวันที่17นี้ แล้วจะกอดไว้ทำไม??? เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องสำคัญเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง! ดังนั้นยังต้องจับตาดูการยุบสภา และการเลือกตั้งด้วยบัตรกี่ใบกันต่อไปเพราะ ยิ่งออกอาการซื้อเวลาเท่าใด นักการเมืองก็อ่านหน้าไพ่ชัดขึ้นเท่านั้นว่าเป็นอย่างไรเขาจึงบังคับขับใส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป!โดยไม่มีใครสนใจบ้านเมืองและราษฎรที่เดือดร้อนเสียหายกันถ้วนหน้าน่าเวทนายิ่งนัก!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news