ลงพื้นที่เมืองคอนฯวันวาน นอกจากส่งสัญญาณ ”เลิฟยู”รักจังฮู้ แล้ว “นายกฯลุงตู่”ยังขอ 2 เพลง ที่มีเนื้อหาถึงความ”สามัคคี” คือ “เพลงชาติ”และ”สามัคคีชุมนุม”โดย “ขอให้ชาวบ้านสัญญาว่าจะเป็นกำลังใจให้นายกฯและคณะเพื่อทำงานให้ประชาชนให้ดีที่สุด
ทุกอย่างต้องใช้เวลาและต้องแก้ไขทั้งหมด คิดว่าใน 5 ปีข้างหน้าหลายอย่างต้องดีขึ้นจากโครงสร้างที่ทำใหม่ทั้งหมด เหลือเพียงว่าคนจะเข้าถึงได้อย่างไร” ที่นอกจากจะถูกฝ่ายการเมือง “ตีความ”ว่าเหมือน“ส่งซิกอยู่ต่อ5 ปี”แล้ว ยังเหมือนจะบอกกับตัวเอง และ กับทุกฝ่าย ตั้งแต่ “ศูนย์อำนาจ3ป.”ลงไปถึง ครม. พรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล กับร่องรอยความขัดแย้งที่ปรากฏแรงชัดหลัง “ศึกซักฟอก”ที่เกิดเหตุการณ์ “กบฏเงียบโค่นลุง”แต่ก็เคลียร์ไปได้ก่อน
ที่ตามมาด้วย “ปฐมบท”แห่งความไม่สงบ จากการตัดสินใจปลด “2รัฐมนตรี” “ผู้กองนัส-อ.แหม่ม” 2 ลูกเลิฟ “หัวหน้าป้อม”ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ “6รัฐมนตรี”ที่ถูกฝ่ายค้านซักฟอก จนเป็นที่มาของประโยค “เจ็บจำนาน”ที่เคยลั่นว่า “เป็นเส้นเลือดใหญ่เลี้ยงหัวใจรัฐบาล”ที่ทำให้ “พี่ใหญ่”ยังคงต้องดึง “ผู้กองนัส”ไว้ให้ยังอยู่ข้างตัว และยังคง “บทบาท”การเป็น “เลขาธิการพรรค”จัดทัพเลือกตั้ง
โดยหลังเกิด “ฟันหลอ”รัฐมนตรี 2 ที่นั่ง ก็นำมาซึ่งแรงดึงดูดทีทำเนียบให้เกิดความใกล้ชิดระหว่าง “ศูนย์อำนาจ3ป.”โดยเฉพาะ “นายกฯลุงตู่”กับ “นักการเมือง พปชร.”มากหน้าหลายตา โดยเฉพาะจาก “กลุ่มสามมิตร” ที่ภาพฉายชัดผ่านปรากฏการณ์ลงพื้นที่แบบไปคนละทางของ “2ป.” “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ที่แผงหลังฝั่งหนึ่งพรึ่บด้วยรัฐมนตรี อีกฝั่งหนึ่งแน่นด้วยส.ส.นักการเมือง จนถูกมองว่าเป็นการ “วัดกำลัง”
กระทั่งมาสู่ข่าวสอดรับการปรับครม.สร้างฐานปูทางไปสู่ “พรรคใหม่”ที่ “ปลัดฉิ่ง”และ”บิ๊กทหาร”ศบค.ที่เกษียณ30ก.ย.จะมานั่งใน “2ที่นั่งว่าง”จนกระเพื่อมมาสู่ความเคลื่อนไหวมากมายที่โฟกัสที่ “ศูนย์อำนาจ2ป.”จนมาสู่ “สัญญาณ”เลือกตั้งในปีหน้า ที่ถูกส่งออกมาจากทั้ง “บิ๊กป้อม”และ”ผู้กองนัส”ที่ตามมาด้วยข่าวการเสนอชื่อ”นายกฯ”ของพรรคพปชร.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่ตามมาด้วยข่าว”พรรคฉิ่ง”ที่ “เพื่อนตท.12”เตรียมไว้
สำหรับ”พล.อ.ประยุทธ์”แต่ก็ซาไป จน”หัวหน้าป้อม”ต้องออกมาย้ำถึง2ครั้ง3คราว่า”ลุงตู่”ยังเป็น”แคนดิเดต”กระทั่งมาสู่ปมอาการยึกยัก 4กรม ก.เกษตร ที่มีการพูดถึงปรับไปนั่งควบเก้าอี้ มท.1 ของ”บิ๊กป้อม”แลกกับ “2โควตา”ที่ถูกปลด ที่ทั้งปม4กรม และ มท.1 ล้วนโยงไปถึง “มือทำงาน”อย่าง”ผู้กองนัส”ที่ “บิ๊กป้อม”จะใช้งานโดยเชื่อมถึงมิติการเตรียมเลือกตั้งข้างหน้า
น่าสนใจว่าปม 4 กรม ที่เป็นงานเดิมของ “ผู้กองนัส”ครั้งเป็นรมช.เกษตร ที่นำมาสู่ความเคลื่อนไหวของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่มี รมว.เกษตรดูแล จน”ลุงตู่”ต้องเซนต์คำสั่งอีกครั้ง นั้นถูกมองเป็นอีกเนื้อหาหนึ่งที่เกี่ยวข้องในมิติการเมืองทั้ง “ภายใน”และ”ภายนอก”ที่ทำให้ “3ป.”เองต้องกลับมา แพคตัวกลับมาสามัคคีพี่น้องรักกัน
เพราะทำท่าว่าความขัดแย้งจากการแบ่งพื้นที่อำนาจที่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก”ธรรมนัสเอฟเฟกต์”กำลังปลิ้นออกไปสู่ความบานปลาย แบบที่เคยเกิดสมัย “สมคิด”4กุมาร กับ “สามมิตร” หรือครั้งที่ พปชร.ชนะเลือกตั้งและเกิด “ศึกเก้าอี้ดนตรี”จนปลิ้นออกมานอกพรรคและนำไปสู่ 2พรรคร่วมรัฐบาล ปชป.และภูมิใจไทย
ที่ไม่แปลกว่าทั้งการดึงจังหวะการปรับครม. การทูลเกล้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตรสองใบ ของนายกฯลุงตู่ จะเป็นการประเมินถึงผลกระทบแรงกระเพื่อมที่จะเกิดขึ้นระยะสั้นและยาว ที่ย่อมส่งผลต่อไปถึงในสภาฯ โดยเฉพาะเมื่อถึงช่วงการพิจารณากฎหมายสำคัญระดับพรก.การเงินความมั่นคง ที่นายกฯต้องรับผิดชอบลาออกหรือยุบสภา หากไม่ผ่านอย่างที่ “อ.วิษณุ”เคยเตือน และไม่แปลกที่แม้จะ “สามัคคีกันชั่วคราว
แต่ก็ยังมีการจับตาทุกความเคลื่อนไหวของ “2ป.”ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ หรือ การเรียกใครมาพบ อย่างที่วันนี้ “บิ๊กตู่”เรียกปปช.มาพบและลือกันไปถึงคดีปปช.ที่มีทั้งคนใกล้ชิดและรวมถึงคนที่เพิ่งสั่งปลดไป เช่นเดียวกับ”บิ๊กป้อม”ที่วันก่อนเพิ่งเชิญ “ผู้ว่าหมูป่า”มาคุยเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมปทุม จนถูกมองไปว่าเชิญมาดูตัว เพราะเคยถูกยกย่องว่าทำงานเก่งน่าจะเป็นนายกฯได้ จากครั้งเหตุการณ์ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news