หลังประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ และออกมาประกาศย้ำถึงความพร้อมในการ “เปิดประเทศ” ตามที่ได้แถลงการณ์บอกประชาชนไปก่อนเมื่อวันจันทร์(11ต.ค.)
โดย “นายกฯลุงตู่”ยอมรับว่าเชิญหลายฝ่ายมาร่วมหารือการเตรียมมาตรการรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว ซึ่งทุกฝ่ายต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ทันกำหนดที่เหลือเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนโชว์วรรคทองเพิ่มความมั่นใจว่า “เวลาที่คนไทยร่วมมือกันเราจะทำ สิ่งที่เหนือความคาดหมายได้เสมอ” ที่แน่นอน ผลประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้(14ต.ค.) ย่อมออกมาทรงเดียวกับนายกฯ ที่โดนวิจารณ์ก่อนหน้าว่า “รู้ว่าเสี่ยงแต่ขอลอง” เพราะ ยังไม่ทันจัดการ “โควิดขาลง”ให้สะเด็ดน้ำยอดคนติดเชื้อยังหลักหมื่นแต่ด้วยเพราะรับปากไว้ 120 วันต้องทำได้จึงชิงประกาศ
ทำให้ ศบค.วันนี้ ทำได้ แค่ คลายล็อกอีกนิด ไฟเขียวปรับลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00 – 03.00 น. และ ปรับพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 23 จังหวัด แต่ ศบค.ก็ไม่ลืมยืนยันว่า พร้อมเดินหน้าเปิดประเทศ โดยการปรับลดมาตรการคุมเข้มต่างๆ โดยเริ่มมีผล 16 ต.ค.นี้
ที่แม้จะยังไม่มีประเด็นรายละเอียดชัด ๆ ในกระบวนการขั้นตอน เพราะ ศบค.ยังไม่มีมีการตกผลึกแต่ก็เหมือนต้องเปิดไปก่อนค่อยว่ากัน ดังที่“หมอทวีศิลป์” อธิบาย ว่า ที่ผอ.ศบค.ออกแถลงการณ์กรณีเปิดประเทศให้คนเดินทางเข้ามาประเทศไทย 1 พ.ย.นี้ ไม่ได้รับทุกประเทศ และมีการเอ่ยชื่อ 5 ประเทศ คือ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรมัน สิงคโปร์ จีน เพราะเข้าข่ายประเทศติดเชื้อที่ควบคุมได้ดี การเปิดประเทศวันที่ 1-30 พ.ย.นี้ถือเป็นระยะที่ 1 ให้ดำเนินการตามแผน จากนั้นประเมินการดำเนินงาน ทั้งนี้ ในการพิจารณาไม่กักตัวไม่จำกัดพื้นที่ต้องเป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอ ส่วนประเทศไหนเข้ามายังไม่มีการบอกเพิ่มเติม โดยจะมีการประชุม ศปก.ศบค.ประชุมอีกครั้ง เมื่อมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
เรียกว่าประเด็น เปิดประเทศ คอการเมือง ดูทรงแล้วน่าจะมีความสัมพันธ์ “คู่ขนาน”กับ ไทม์มิ่งการเมือง เพราะถือเป็นการแก้คำกล่าวหาที่โดนถล่มกลางศึกซักฟอกว่า ล้มเหลว ทุกมิติในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด ทั้งเรื่องชีวิตสุขภาพ เศรษฐกิจ ที่เกิดความเสียหาย จนเรตติ้งฮวบ และเกือบถูกโค่นจากเสียงในสภาของส.ส.รัฐบาลเอง
กระทั่งนำไปสู่การ “ปราบกบฏ”ภายใน ด้วยการ ปลด 2 รัฐมนตรี ที่ไม่ได้อยู่ใน 6 รมต.ที่โดนซักฟอก อย่าง “ผู้กองนัส-อ.แหม่ม”ที่ทำให้ปมขัดแย้งยิ่งขยายลามสู่ “ศูนย์อำนาจ3ป.”จนต้องคุยกันหลายยกเพื่อเคลียร์ใจพี่น้อง และก็ส่อว่ายังไม่เคลียร์ไปทั้งหมดแบบสะเด็ดน้ำ กลายเป็น ทุกปมมากระจุกอยู่ที่ “นายกฯลุงตู่”ทั้งการ “ปรับครม.ฟันหลอ”แทน “2 รัฐมนตรี” ทั้งการทูลเกล้าร่างแก้รัฐธรรมนูญ บัตรสองใบ ที่เพิ่งทูลเกล้าขึ้นไปวันก่อน ที่ผูกโยงความไม่ลงตัว
ทำให้ภาพการประชุมกับหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง “หัวหน้าป้อม” “เสี่ยหนู”และ “จุรินทร์”เมื่อวาน(13 ต.ค.)รวมถึง ภาษากายจาก “นายกฯลุงตู่”ตั้งแต่เมื่อวานที่โชว์ความปึ้กควงแขนกับ “พี่ใหญ่”จน วันนี้(14ต.ค.)ถูกจับตาความคืบหน้าถัดไปที่จะเกิดขึ้นกับการปรับครม.ที่คาไว้ที่ “ลุงตู่”เป็นแรมเดือนว่าน่าจะเคาะกันแล้วผ่านการพูดคุยสั้นๆเมื่อวาน แม้คนในวงจะไม่แพลมว่าคุยอะไรนอกจากย้ำเรื่องไม่ยุบสภา อย่างที่ “นายกฯลุงตู่” วันนี้ ก็ยังคงย้ำว่าไม่ยุบสภา โดยเตือนความจำนักข่าวว่าพูดย้ำไปหลายรอบแล้วว่าไม่มี ก่อน “องค์ลง”เดินหนีขึ้นตึกทันที เมื่อถูกถามโดนใจ ปมคนในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)รับน้อง “พีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค”ที่ “นายกฯลุงตู่”ส่งเข้าไปเป็นที่ปรึกษา “หัวหน้าป้อม”พร้อม “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่ยังเป็นปมในใจ ที่จะต้องจัดการอย่างไรถัดไปในความเสี่ยงไม่ต่างจากการเปิดประเทศ กับบรรดา “คนการเมือง” โดยเฉพาะในพรรคหลักอย่าง พปชร. ที่น่าจะขยับตัว ในวันที่ 1พ.ย. ที่สภาฯจะเปิดสมัยประชุมเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
