ใครใจร้าย-ล้มรัฐบาล
ผ่านไปได้แบบฉลุยวันนี้(9พ.ย.64)กับการประชุมร่วมกันรัฐสภา ลงมติ ผ่านร่างพรบ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่ค้างมาจากการประชุมร่วมกันรัฐสภาครั้งที่ 7 ในสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ครั้งนั้นประธานฯสั่งให้สมาชิกกดบัตรแสดงตน แต่ยังไม่ทันได้แสดงตนเสร็จก็เป็นเหตุต้องสั่งปิดการประชุมซะก่อน ที่ครั้งนั้นว่ากันมาจากเอฟเฟกต์เหตุการณ์ 8ก.ย. ที่มีการปลด2รัฐมนตรี “ผู้กองนัส-อ.แหม่ม”ที่ไม่ได้ถูก “ซักฟอก” หากแต่มีความเกี่ยวข้องกับข่าว ขบวนการกบฎโค่นล้ม “นายกฯลุงตู่” ผ่านผลการลงมติในสภากับ“ศึกซักฟอก”ที่ “นายกฯลุงตู่”ได้คะแนนไว้วางใจรองบ๊วย ทีกรณีดังกล่าวกลายเป็นร่องรอยปริแตกภายในรัฐบาลจากพรรคหลัก “พลังประชารัฐ”(พปชร.)ถึง ทำเนียบรัฐบาล ระหว่าง “นายพลกับผู้กอง”และลามถึงอาการงอนง้อในศูนย์อำนาจ3ป.ระหว่าง “พี่ใหญ่” “น้องเล็ก”ที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับผลัดกันยอม ผ่านปรากฎการณ์กระเพื่อมในพปชร.จนมาถึงวันนี้
ที่แม้ภาพจะปรากฎในลักษณะคล้ายมีการ“สงบศึกในชั่วคราว”เพราะเหตุ “ศึกนอก”กำลังก่อตัว โดยการตั้ง “นิโรธ”ที่ถูกมองว่า “นายกฯลุงตู่”ไว้ใจ และเป็นส.ส.สายเหนือนที่อยู่ในกลุ่ม “ผู้กองนัส”มาเป็น “ประธานวิปรัฐบาล”แทน “วิรัช รัตนเศรษฐ”และภริยารวมถึงน้องภริยา 3 ส.ส. พปชร.ที่ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่เพราะเหตุศาลการเมืองรับคดีฟุตซอลพิจารณา แถมยังมีการย้ายการประชุมวิปรัฐบาลไปอยู่ที่ทำเนียบใกล้หูใกล้ตานายกฯตามต้องการเริ่มประชุมกันเมื่อวานแบบยังไม่ค่อยครบ แต่ภาพนับตั้งแต่เปิดสภาสมัยประชุมนี้ก็ถูกสะท้อนถึงสัญญานชัดว่า“ประธานวิปคนใหม่”รวมถึง “นายกฯลุงตู่”น่าจะเหนื่อย เพราะเพียงแค่เริ่มจุดสตาร์ท ก็มี เหตุสภาล่ม หรือเหตุที่ส.ส.ฝ่ายค้านป่วน และมีการประจานรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้เรื่องที่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อน ที่กำลังถูกเชื่อมโยงไปถึง “นายกฯลุงตู่”แบบที่ “หมอชลน่าน”ประเดิมจี้ให้ “นายกฯลุงตู่” ต้องมาตอบกระทู้ถาม ส.ส.ฝ่ายค้านในที่ประชุมสภาฯ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 150 ของรัฐธรรมนูญ รวมถึงที่ฝ่ายค้านเองก็เตรียมรอจังหวะยื่นอภิปรายแบบไม่ลงมติหลังจากนี้ และไม่นับรวมข่าวก่อนหน้าว่าสมัยประชุมนี้มีความสุ่มเสี่ยงที่กฎหมายสำคัญจะถูกคว่ำจนมีผลให้เกิด “อุบัติเหตุการเมือง”กับ “นายกฯลุงตู่”และรัฐบาล
ที่อาการดังว่าเป็นเหตุผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง “ประธานวิปรัฐบาล”และย้ายที่ประชุมไปทำเนียบฯ แม้ว่า เอาเข้าจริงถึงเวลาหน้างานในสภาฯเมื่อถึงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม ส.ส.พปชร. ที่ว่ากันว่าส่วนใหญ่ อยู่ในการจัดการรายเดือนที่“บ้านป่ารอยต่อ”ของ “หัวหน้าป้อม”ที่ประกาศทุกเวทีว่า “ใจถึงพึ่งได้”เลิกกลุ่มก๊วนมีอะไรมาหา “หัวหน้าป้อม”ที่ยังคงมีมือขวาเป็น “ผู้กองนัส” จะเป็นไปตามทิศทางจาก “วิปรัฐบาล”หรืฟอไม่ ก็ยังน่าพิจารณา ที่ปมนี้ยังเป็น “ติ่งคาใจ”ให้ “นายกฯลุงตู่”ยังมาคลายกังวล แบบที่เมื่อวาน(8พ.ย.)เปรยดังว่ามีคนคิดล้มกฎหมายในสภา เพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็น “คนใจร้าย”กับประชาชน เมื่อนักข่าวถามถึงการเปลี่ยน “ประธานวิป”เป็น “นิโรธ”แล้วสบายใจขึ้นมั้ย ว่า วิปทุกพรรคต้องร่วมมือกัน ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของความยากลำบาก โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายที่จำเป็นและสำคัญ เรื่องที่ต้องปฏิรูป มากกว่าเอามาเป็นความขัดแย้งกันที่ไม่เกิดประโยชน์อะไร อย่าลืมว่าตนควบคุมสภาไม่ได้ ไม่ได้คุม “ทั้งวิปฝ่ายรัฐบาล วิปฝ่ายค้านต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เรื่องไหนสำคัญ เรื่องไหนจำเป็นต้องออก กฎหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถเศรษฐกิจ และสังคม สิ่งแวดล้อม หรือการศึกษา รวมทั้งการปฏิรูป มันต้องออก ไม่ใช่ไม่ออกเพื่อให้รัฐบาลล้ม ตนว่าใจร้ายเกินไป ใจร้ายกับประเทศเกินไป และปฏิเสธข่าวการยกหูเคลียร์กับ “ผู้กองนัส”แล้ว ว่ายังไม่ได้คุยแค่เคยคุยกันไปครั้งหนึ่งตอนแรกๆก็ดีก็คุยกัน ส่วน พปชร.เป็นปึกแผ่นมากขึ้นหรือไม่ “นายกฯลุงตู่”ย้อนว่า “ถ้าไม่มีใครคอยยุแยงตะแคงรั่ว ก็จะดีอยู่มั้ง” และตอบกรณี โหรสว. “วันชัย” ทำนายฟันธง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รัฐบาลจะแตกกันในปีหน้า และใกล้ที่จะเลือกตั้ง ว่า“ก็นี่ไงเปลี่ยนตัวประธานวิปไง”
เรียกว่าเป็นอีกช็อตที่สะท้อนข้ออ่อน ที่แม้ว่า “นายกฯลุงตู่”ซึ่งถือเป็น ผู้นำฝ่ายบริหาร ซึ่งอยู่ในกลไกถ่วงวดุลใน 3 อำนาจกับฝ่ายนิติบัญญัติ และ ฝ่ายตุลาการ รวมถึงองค์กรอิสระ จะแหยงที่จะเข้ามาอยู่ในโซนอันตรายที่ “ฝ่ายบริหาร”ซึ่งมีหน้าที่ จะต้องถูกตรวจสอบจาก “ฝ่ายนิติบัญญัติ”ในการบริหารบ้านเมือง แบบที่มีกระบวนการให้ส.ส.ซึ่งเป็นผู้แทนราษฎรตั้งกระทู้ถามหรืออภิปรายตรวจสอบนโยบายทั้งการอภิปรายทั่วไปและอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ในทางการเมือง“นายกฯลุงตู่”ย่อมได้รับการปกป้องจากส.ส.รัฐบาล ผ่านวิปรัฐบาล หากแต่นับตั้งแต่8ก.ย.ที่มีใครใจร้ายไม่จบกับใครบางคนที่ประกาศหลังจากนั้นว่า”เป็นคนเจ็บจำนาน” ได้ทำให้การปกป้องนายกฯในโซนสภาฯที่เคยเป็นเปลี่ยนไปแบบพร้อมจะเกิดภาพ “คนใจร้าย”กับ“นายกฯลุงตู่”แบบที่พูดลอยลมไปถึง ได้ทุกเมื่อเช่นกัน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news