หาเสียงแจกจนถังแตก
หาเสียงแจกจนถังแตก
@ถึงกับเปรยดังดักคอ จะหาเสียง อะไรนึกถึง งบประมาณ นึกถึง รัฐบาลใหม่ด้วยว่ามีพอมั้ยเขาก็ต้องรับผิดชอบโดยเตือนทุกกระทรวงให้ของขวัญปีใหม่ ประชาชนก็ต้อง ดูว่า มีงบฯพอมั้ย ถ้างบฯไม่มี ก็ทำไม่ได้ โดยบอกข่าวที่บอกว่ารัฐบาลจะให้ของขวัญปีใหม่ให้โน่นให้นี่ ก็อย่าเพึ่งไปฟัง เพราะตอนนี้เป็นข่าวออกมาในสื่อแล้ว เพราะหากประกาศอะไรไปก็ตาม แต่ถ้างบประมาณไม่มี ก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว อย่าให้ต้องเป็นภาระกันต่อไป ซึ่งตนเป็นห่วงถ้าวันหน้า มีรัฐบาลใหม่ ขึ้นมา เขาก็ต้องรับผิดชอบตรงนี้ด้วย ทุกอย่างจะตัองไม่เป็นภาระ ซึ่งกันและกันด้วยเหตุและผล และความจำเป็นที่ต้องทำ ในตอนนี้ ด้วยเหตุและผลในการบริหารงบประมาณเข้าใจนะไม่อย่างนั้น ก็แตกกันไปหมดถ้าทุกคนพูดเฉพาะแต่เรื่องของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงคนอื่นด้วยมันก็ไปไม่ได้ ไม่ว่าจะการหาเสียงหรืออะไรในโอกาสต่อไปก็แล้วแต่ ขอให้นึกถึงภาระงบประมาณด้วย ขอให้ประชาชนเข้าใจตรงนี้
@เรียกว่าเหมือนจะยอมรับในทีว่า ช่วงนี้เข้าฤดูเลือกตั้ง โดยเฉพาะวันอาทิตย์(28พ.ย.)ก็จะมีเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่จะเป็นการ “ชิมลาง”ไปสู่สนามเลือกตั้งใหญ่ ทำให้หลายพรรคมีการลงพื้นที่ หาเสียงกันคึกคักแม้กระทั่งพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เอง ก็แบบ “หัวหน้าป้อม”นำทัพไปหาเสียงเหนือใต้ มีการประชุมส.ส.พรรคสำรวจเรตติ้ง โดยที่ฮือฮาจุดพลุจนต้องรีบบอกแค่ยังเป็นไอเดียยังไม่ได้หาเสียงคือ กาสรแจกบัตรเครดิตครอบครัวละ5หมื่น ประชารัฐตำบลละ20ล้าน ที่ไม่นับรวมพรรคร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยที่ลงพื้นที่ปั่นเรตติ้งโชว์ผลงาน
@อย่างนโยบายประกันราคาข้าว ที่กลายเป็น “ติ่ง”ให้คนในรัฐบาลด้วยกันโดยเฉพาะในพปชร.อัดทั้งในและนอกสภาฯว่าสร้างภาระการใช้จ่ายให้กับรัฐ ที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นความหมายเดียวกันกับอาการ”เข่าอ่อน”ถึง3ครั้งของ “นายกฯลุงตู่”ที่ตอนนี้กำลังเร่งให้ รัฐมนตรี“สุพัฒนพงษ์”ช่วยหาเงินแบบที่ต้องเตรียม “ขยายเพดานหนี้”กันอีกรอบ เพื่อมาโปะกับภาระที่เกิดขึ้นจากนโยบายของบางพรรคหรือไม่
@อย่างที่ “อดีตกุนซือรองนายกฯ” “ไพศาล”ชี้เป้าผ่านเฟสบุ๊ค ว่า การประกันราคาข้าวอาจไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาราคาข้าว เงินค่าประกันที่จ่ายเป็นค่าช่วยเหลือชาวนา เนื่องจากราคาข้าวตกต่ำเป็นจำนวนเท่าใดเป็นการเอาภาษีของประชาชนทั้งประเทศไปช่วยชาวนาและเป็นทางให้นักการเมืองเอาไปหาเสียง
ซึ่งชาวนาต้องทำความเข้าใจว่า เงินทุกบาทที่ได้รับค่าประกันราคานั้นเป็นหยาดเหงื่อภาษีของพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ใบบุญใดๆของนักการเมืองหรือรัฐบาลเงินทุกบาทที่นำไปจ่ายค่าประกันราคานั้น คือหลักฐานที่พิสูจน์ว่า ราคาข้าวที่รัฐบาลรับรองนั้นผิดพลาดหรือไม่สามารถส่งออกข้าวได้เกินราคาที่รับรองไว้ จึงทำให้ราคาข้าวตกต่ำ
จึงกล่าวได้ว่า ยิ่งจ่ายค่าประกันราคาข้าวมากเท่าใด ก็คือความล้มเหลวของการบริหารหรือการส่งออกข้าวเท่านั้น
@ทั้งหมดทั้งมวลยังต้องติดตามต่อกับนโยบายที่เหล่าบรรดาพรรคการเมืองเริ่มลงพื้นที่หาเสียงกับประชาชนในแต่ละคอนเซ็ปต์ที่แตกต่าง ในท่ามกลาง ความเป็นจริงสถานการณ์ เงินหน้าตัก ที่รัฐบาลปัจจุบันของ “นายกฯลุงตู่”บริหารมา7ปี ที่เกิดเป็นภาระหนี้ผูกพันมหาศาล อันเกิดจากการใช้ทั้งที่มีการไปหาเสียงไว้ และทั้งที่ “นายกฯลุงตู่”มีการแจกบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนยุคโควิด ที่ข้าวยากหมากแพง คนตกงาน ว่า ถึงเวลาเอาเข้าจริงจะเป็นอย่างที่ “นายกฯลุงตู่”ที่เห็นงบประมาณที่เหลือตรงหน้าและในอนาคต ในฐานะนายกฯ ว่าไว้หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news