ยื้อยุทธ์ยิ่งทรุดนะจ๊ะ สื่อแซวแรงตั้งฉายาประจำปี “รัฐบาลยื้อยุทธ์”
จิกกัดแสบๆคันพอหอมปากหอมคอ แบบที่คอการเมืองพยักหน้าหงึกๆ กับ บทบาทองค์กร และตัวละคร สายทำเนียบฯ-สภา ผ่าน “ฉายาประจำปี”เป็นประเพณีที่ “นักข่าว”ลงมติตั้งให้ โดยรอบนี้ ไล่ตั้งแต่ “สภาอับปาง”จากปรากฎการณ์สภาล่มเป็นอาจิณ และการทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร มาจนถึง “รัฐบาลยื้อยุทธ์” โดยนกข่าวให้เห็ตผล ว่า เพราะไม่ว่า จะเกิดอะไรจะต้องทำทุกอย่างเพื่อยื้อให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ ต่อไป “ภาพของรัฐบาล ที่ยื้อแย่งกันเอง ทั้งในส่วนของอำนาจ และ ตำแหน่ง โดยไม่สนใจประชาชน การเดินหน้าประเทศ ถูกมองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า ส่วนรวม มองการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำรัฐบาล จะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อยื้อให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อไป ไม่ว่าจะมีการชุมนุมขับไล่ไสส่ง อย่างไร ใครไม่อยู่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ “
ที่ก็มีความพ้องไปกับ ฉายา “นายกฯลุงตู่”“ชำรุดยุทธ์โทรม” และ วาทะแห่งปี “นะจ๊ะ”
ถูกนำมาจับมา “มัดรวม” เป็น สภาพการณ์ปัญหาของรัฐบาลในการบริหารประเทศภายใต้การนำของ “นายกฯลุงตู่”ที่อยู่มา 7 ปี ตั้งแต่สมัยยึดอำนาจจาก “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” น้องสาว “ทักษิณ”จนมาเป็นนายกฯจากกระบวนการเลือกตั้งปี 2562 ที่ “บิ๊กตู่”ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกโดยพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่ถูกประเมินว่าล้มเหลว โดยเฉพาะในการบริหารจัดการในภาวะวิกฤติประเทศที่พ่ายแพ้ให้กับ “สงครามโควิด”และ “ศึกเศรษฐกิจ”ปากท้องประชาชน จนสร้างผลกระทบกับชีวิตสุขภาพความเป็นอยู่ประชาชน แม้กระทั่งเรื่องการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน ในจังหวะจะโคนความเหมาะสม ก็ยังถูกประเมินว่ามีปัญหา ดังการพูด “นะจ๊ะ”ติดปากในท่ามกลางวิกฤติโควิดที่มีประชาชนเจ็บป่วยเสียชีวิตจำนวนมาก จนถูกกลายเป็น “ตำบลกระสุนตำ”และนำมาซึ่งอาการเรตติ้งตก แม้กระนั้นปัญหาเรื่องการสื่อสารระยะหลังก็ยังเกิดขึ้นจากเคส เลี้ยงไก่สองตัว คุยกับปู จน “นายกฯลุงตู่”งอนสื่อไม่ให้สัมภาษณ์หลายวัน
ที่อาการดังว่านำมาสู่ผลกระทบทางการเมืองที่ “ฝ่ายการเมือง”ในพรรคพปชร.ของ “หัวหน้าป้อม
“ผู้กองนัส” “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า”ที่เพิ่งถูกโชว์ภาพในงานเลี้ยงพูดคุยกับ “หมอชลน่าน”ในงานเลี้ยงของนักข่าวสภา แต่ถูกบิดเบือนว่าเป็นงานเลี้ยงของพรรคเพื่อไทย และโจมตี ว่า “ไส้ศึก” จนเจ้าตัวต้องรีบออกมาอธิบายว่าไม่เป็นความจริง โดยที่ “ผู้กองนัส”เองถูกมองว่าเป็น “คู่ขัดแย้ง”ใน “ศึกนายพลกับผู้กอง” กับ “นายกฯลุงตู่”นับตั้งแต่เหตุการณ์ “กบฏ”ในการโหวตเสียงใน “ศึกซักฟอก”ที่ทำให้ “นายกฯลุงตู่”ได้ “รองบ๊วย”จนทำให้ต่อมาทั้ง “ผู้กองนัส”และ “อ.แหม่ม”ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรี ก่อนจะตามมาด้วยการจ่อปลดจากตำแหน่งเลขาธิการ และ เหรัญญิกพรรค พปชร.ที่แม้จะมีความพยายามประสานให้มีการเคลียร์ใจจาก “หัวหน้าป้อม”แต่ก็ไม่มีโอกาสสักครั้ง จนนำมาสู่ความบานปลายความขัดแย้งระหว่าง “พี่ใหญ่-น้องเล็ก”และ กลุ่มก๊วนในพรรค พปชร. ก่อนจะลุกลามไปยังพรรคร่วมรัฐบาลประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย จากปมการแบ่งงานก่อนหน้านี้
ที่ทั้งหมดถูกมองความสอดคล้องปรากฎการณ์ฝั่งสภาจากเหตุสภาล่ม ไปสู่ ปัญหา “เสถียรภาพรัฐบาล”จากเสียงส.ส.ที่มี “ผู้กองนัส”เป็นคนคุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ว่า
มีโอกาสที่จะเกิด “อุบัติเหตุการเมือง”ได้ทุกเมื่อกับรัฐบาลในสมัยประชุมนี้ที่ยังมีกฎหมายสำคัญต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภา ที่หากกฎหมายเหล่านั้นไม่ผ่าน จะส่งผลต่อสถานะของนายกฯต้องยุบสภาหรือลาออก ไม่นับรวมท่จะโดนอภิปรายโดยไม่ลงมติ ที่ “นายกฯลุงตู่”ก็เคยออกอาการยอมรับในทีว่ากังวลปมนี้ ดังการสะท้อนผ่านอาการคิดเหม่อลอยจนเผลอสะดุดขาอ่อนจะล้มหลายครั้งก่อนหน้านี้จนออกตัวว่าเพราะมีหลายเรื่องให้ต้องคิดจนเผลอ
ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมเรื่อง “การบ้าน”การจัดการหน้างานโควิด ที่ แม้จะประกาศเปิดประเทศหวังโกยเงินฝรั่งปลายปี
แต่มาเจอกับ “โอไมครอน”ที่ทำให้ต้องรีบเคลียร์คัต “ปิดประเทศชั่วคราว”ในการไม่รับนักท่องเที่ยวเพิ่มจาก 2 แสนคน ที่เริ่มมีสัญญาณว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้นำมาเชื้อมาระบาดในหลายคลัสเตอร์ต่างจังหวัดอีสาน ที่แน่นอนย่อมส่งผลไปสู่ ความเสี่ยงกับเทศกาลปีใหม่ ที่รัฐบาลยังไม่กล้าประกาศห้าม “เคาต์ดาวน์”ในจังหวะนี้ แม้จะมีคำเตือนจาก “หมอหน้างาน”ว่า มีโอกาสที่หลังหยุดปีใหม่7-14วัน ตัวเลขจะกลับมาพุ่งแรง ที่ถึงเวลานั้น หลายฝ่ายประเมินว่า ถนนทุกสายความไม่พอใจ ย่อมพุ่งเป้าไปที่ “นายกฯลุงตู่”ให้ ยิ่งติดลบ“หมดหน้าตัก” และยิ่ง “ชำรุดยุทธ์โทรม”มากขึ้นจากที่ประกาศเคยไว้ว่า”จะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”เช่นเคย.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews