หมูไก่ไข่แพงซ้ำลุงอมโรค
หมูไก่ไข่แพงซ้ำลุงอมโรค
@ มาเป็นชุดใหญ่กับกระแส “แพงทั้งแผ่นดิน” เปิดปีเสือมาจากเสือลำบากมาสู่ “เสือหิว”เพราะไม่ถึงครึ่งเดือนสารพัดปัญหาที่หมกซุกมากว่า 2 ปี จากปัญหาโรคอหิวาต์ระบาดในหมู ที่ถูกครหาจากชาวบ้านคนเลี้ยงหมูที่พากันเจ๊งถ้วนหน้าว่าฝ่ายราชการที่รับผิดชอบสังกัดกระทรวงเกษตรของ “รัฐมนตรีต่อ”มีการปกปิดบางชุดข้อมูล จนส่งผลมาสู่ปัญหาหมูขาดตลาด “หมูแพง” ที่กำลังลามมาสู่ไก่ไข่และอาหารแพง มัดรวมกลายเป็น “ปัญหาค่าครองชีพคนไทย” ที่ปรับขึ้นแบบที่คนสมัยก่อนเรียก “ยุคข้าวยากหมากแพง”ที่ ปะทุขึ้นมาฟ้องผู้คนที่จ่ายตลาดแม้จะอยู่ในความรับผิดชอบของ “รมต.อู้ดด้า” แต่ ก็เป็นบูมเมอแรงกลับไปยัง ภาพใหญ่ของรัฐบาล
@ โดยเฉพาะ“นายกฯลุงตู่”ที่ยังตึงมือกับภาวะ “อมโรค” โควิดโอไมครอน ที่ยังไม่ทันอะไรจะกลายพันธุ์เปลี่ยนชื่อเป็น “เดลตาครอน” แล้วที่ “หมอใหญ่” ทีมที่ปรึกษา “นายกฯลุงตู่” เตือนโควิดไทยจะแตะหมื่นสัปดาห์ที่แล้วทำให้ “หมอหนู” และ ”ลุงตู่” สั่ง “จัดเต็ม” ระบบสาธารณสุข ของสธ.และศบค.เสนอเลื่อนเปิดเมืองที่ “ลุงตู่” อุสาเสี่ยงเปิดประเทศรับ “ฝรั่งเที่ยวไทย” 2 แสนคน แต่จำต้องปรับแนว TEST&GO ไปก่อน พร้อมยกระดับมาตรการจาก3เป็น4และให้เข้มกับร้านอาหารกึ่งผับที่จำหน่ายแอลกอฮอล์ อันเป็นการส่ง “สัญญาณระบาดละลอกใหม่” แม้ภาพในต่างประเทศในกลุ่มยุโรปอเมริกาที่พีคหนักวันละแสนถึงล้านจาก “โอไมครอน” จะเริ่มเซาลงแล้ว
@ เรียกว่าปัญหาการบริหารจัดการสถานการณ์ของประชาชน ทั้ง “ของแพง” ข้าวของยกทัพขึ้นราคา “โควิด” ที่คาราคาซังกับความไม่แน่นอนในผลกระทบแบบ “เจ็บไม่รู้จบ” กลับมาถูก “ขมวดรวม” โจมตี “นายกฯลุงตู่” แบบที่ “ฝ่ายค้าน” พรรคเพื่อไทย เตรียมยื่นญัตติด่วนตรวจสอบ ในทางการเมือง ไม่นับรวม ที่ “นายกฯลุงตู่”ยังมีไข้รุมๆกับปัญหา “ศึกใน” “นายพลกับผู้กอง” จนต้องพยายามทางช่องระบายไปยัง “พรรคกองหนุน” ที่มาคอนเซปต์เดียวกันคือ “ไม่เอาลุงโทนี่” ไม่เอา “เด็กสามนิ้ว” แบบพรรคของ “หมอวรงค์” ที่ใช้จังหวะ“เลือกตั้งซ่อมหลักสี่” วันก่อน ส่งสัญญาณยังชู “ลุงตู่” เป็นนายกฯต่อไป
@ และยิ่งประเด็น “ยุคลุงตู่ข้าวยากหมากแพง” มาโผล่ในจังหวะ ปี่กลองการเลือกตั้งกำลังดัง กับบรรยากาศเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้งชุมพร สงขลา และ หลักสี่ ที่อาทิตย์นี้ 16 ม.ค.คนชุมพรสงขลาจะกาบัตรเลือกผู้แทน ก่อนที่ “คนหลักสี่”จะไปลงคะแนนอาทิตย์ที่30ม.ค.ก็ยิ่งต้องเคลียร์ให้ชัดแบบที่อัดงบลงมาให้กระทรวงเกี่ยวข้องไปจัดการเรื่องหมู รวมถึงเรื่องไข่ ไก่ และปัญหาค่าครองชีพโดยรวม โดยให้ “โฆษกแด๊ก” “ธนกร”รีบออกมาอธิบายแบบ “โลกล้อมประเทศ” ว่า ของแพงขึ้นเพราะเป็นไปตามกลไกตลาดอาหารโลก ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีราคาอาหารโลก FAO Food Price Index: FFPI) ที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานของปี 2564 ไว้ โดยค่าเฉลี่ยของราคาสินค้าอยู่ในระดับสูงสุด นับตั้งแต่เมื่อปี 2554 ส่วนราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดที่สูงขึ้น เช่น เนื้อหมู เป็นผลกระทบจากต้นทุนการเลี้ยง (อาหารสัตว์ ยารักษาโรค) เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาโรคระบาดในสุกรในหลายประเทศและมาตรการลดความเสี่ยงโดยการจำกัดจำนวนการเลี้ยงที่ทำให้ปริมาณสุกรในระบบลดลง
@ ซึ่งรัฐบาลก็ยอมรับว่าจะส่งผลให้ราคาสินค้าที่บริโภคทดแทนกันได้ เช่น ไข่ ไก่ ปลา จะมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นในอนาคตได้ “นายกฯลุงตู่” จึงสั่งการให้ทุกกระทรวงประเมินสถานการณ์ วางแนวทางและมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลประชาชนทั้งระยะสั้นยาว ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ผลิตสินค้า และประชาชนผู้บริโภค รวมทั้งเน้นย้ำให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมดูแลให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้งและยังกำชับกระทรวงพาณิชย์ให้ดูและเรื่องราคาไข่และไก่ที่กำลังปรับขึ้นไม่ให้พ่อค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หากมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าในรายการใดก็สามารถทำเรื่องมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็น ไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อยจากการกดราคาทางนโยบาย และเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาดอีก
@ เรียกว่าต้องชิงจังหวะรีบเคลียร์คัตว่าใครรัฐมนตรีพรรคไหนในพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้อง “รับหน้าเสื่อ” ส่วนจะฟังขึ้นในอารมณ์แบบชาวบ้านที่ไปจ่ายตลาดเจอของจริง จนบ่นกันทุกวันหรือไม่ต้องติดตามต่อไปผ่านการวัดเรตติ้งทั้ง “โพลปกติ” ที่ไม่ใช่ “โพลเชียร์” หรืออาจวัดแรงสะท้อนได้ จากผลการเลือกตั้งซ่อมชุมพรสงขลาที่กำลังดำเนินอยู่ในสัปดาห์นี้และ ผลเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ปลายเดือนนี้อีกครั้ง.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews