ศึกเลือกตั้งซ่อม-รัฐบาลร้าว
ชักเริ่มออกอาการ “ทางใครทางมัน”ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พลังประชารัฐ กับ ประชาธิปัตย์ รวมถึงพรรคฝ่ายค้านที่จัดหนักจัดเต็มทั้ง ทัพหลวง ทัพเสริม พญาเหยียบเมือง พรรค พปชร.แบบ “หัวหน้าป้อม”รวมถึง “ผู้กองนัส-อ.แหม่ม”มาเอง เช่นเดียวกับฝั่ง พรรคปชป. ที่ ทั้งอู้ดด้าและเลขาสลับกันลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครถี่ยิบช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อม ชุมพรสงขลาที่จะหย่อนบัตรวันอาทิตย์นี้(16ม.ค.)จนมีเสียงแซวจาก “นายกฯลุงตู่”ว่าปัญหา หมูติดโรค ไก่ ไข่แพง สินค้าพาเหรด จน “ฝ่ายค้าน”นำมาโจมตีว่า “หมูล้มรัฐบาล”อาจเพราะรัฐมนตรีเหนื่อยทั้งการบ้านและลงพื้นที่หาเสียง ที่พื้นที่ภูธร มีบรรยากาศมาคุเช่นเดียวกับ กับพื้นที่เลือกตั้งซ่อม เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ที่ขนาดยังไม่รู้ว่า “นายกฯลุงตู่”จะกดปุ่มยุบสภาหรือไม่เมื่อไหร่ก็เล่นกันแรงทั้งอดีตคนกันเอง และฝ่ายตรงข้าม กับ ข้อครหา พรรคใหญ่อัดกระสุนดินดำหัวละ 1,500-3,000บาท ไม่นับรวม การขึ้นเวทีหาเสียงแบบก้ำกึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ ฝั่งผู้สมัครก้าวไกลไปร้อง กกต.
เรียกว่าหลายฝ่ายประเมินจากการดูทรงความเข้มข้นเอาจริงเอาจังของ “ทัพหลวง”พรรค พปชร.ที่ส่งเข้าไปเสริมช่วยทีมที่ “นายกฯลุงตู่”จัดให้ “หัวหน้าป้อม”ส่งลงพื้นที่ก่อนหน้านี้แบบที่มีสัญญาณตั้งเป้าต้องกวาดชัยชนะทั้ง3สนามศึก แม้จะมี “สัญญาณ”ว่าอีกไม่ช้านานจะเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปว่านอกจากประเด็นที่โยงไปถึงสมการเก้าอี้รัฐมนตรี ยังหมายรวมไปถึงการ “วัดเรตติ้ง”ไปสู่สนามใหญ่ แบบที่ “หัวหน้าป้อม”พล.อ.ประวิตร”ต้องออกมายืนยันวันนี้ ว่า พรรคร่วมขับเคี่ยวชิงเลือกตั้งซ่อม ไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล เป็นการสู้กันแล้วทุกอย่างจบ โดยในส่วนของ พปชร.ไปไหนกระแสตอบรับดีทุกที่ ยืนยัน พปชร.ไม่
มีแจกเงินซื้อเสียง หลังทั้งเพื่อไทย และ พรรคกล้า ออกมาปิดข่าวมีการซื้อคะแนนเสียงชาวบ้านหัวละพันห้าถึงสามพันเช่นเดียวกับการออกตัวของ “นายกฯลุงตู่”ในฐานะ รมว.กลาโหม ที่ สั่ง เหล่าทัพ วางตัวเป็นกลาง ทางการเมืองสนับสนุน เลือกตั้งซ่อม ด้วยความเป็นธรรม กับผู้สมัครทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน ให้เปิดให้ผู้สมัครเข้าไปหาเสียงในพื้นที่ทหาร ได้ หากมีการร้องขอ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คนของพรรค ปชป.ออกมาโวย ว่า “เสธ.ต.”นำกำลังทหารเข้าไปยุ่งกับการเลือกตั้งซ่อมชุมพร แล้วก็เงียบ!! และพรรค เพื่อไทย ออกมาซ้ำว่า ทหารมีการเคลื่อนไหวเข้ามาเกี่ยวข้องการเลือกตั้ง
เรียกว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ที่ยอมรับเองจาก “หัวหน้าป้อม”ว่าเป็นการสู้กันของทุกพรรคแม้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลนอกจากจะติดปลายนวมว่าด้วยการเดิมพันฝีมือ ทีม“ผู้กองนัส”ที่เข้ามาเติม “ทัพหลวง”ที่ส่งมาลงพื้นที่ก่อนหน้าแต่กระแสแผ่วและเป็นการ “วัดเรตติ้ง”เพื่อประเมินสนามศึกต่อไปทั้งเลือกตั้งผู้ว่ากทม.และเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ด้านหนึ่งในสถานการณ์ “คู่ขนาน”ถึงสะท้อนภาพเปรียบเทียบผลงานในบทบาทที่เป็นมรรคเป็นผลกับทิศทางอนาคตการเมืองรัฐบาล ระหว่าง “นายพล”กับ”ผู้กอง”ที่ยังคาราคาซังความขัดแย้งแบบบ่งชัดว่าน่าจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้โดยเฉพาะในจังหวะที่ “นายพล”กำลังถูกประเมินว่า “ขาลง”เรตติ้งตก มาตั้งแต่ “โควิด”ถึง”วิกฤติเศรษฐกิจ”และยังมาโดนดอกล่าสุดจาก “หมูล้มรัฐบาล” ทั้งมิติโรคระบาด และมิติ ค่าครองชีพพุ่งสูงประชาชนเดือดร้อน ที่สะท้อนปัญหาการบริหารจัดการของรัฐบาลที่มี “นายกฯลุงตู่”เป็นผู้นำที่ในปีนี้ก็ยังก้ำกึ่งเช่นกันว่าเดือนสิงหาคมจะครบ 2 เทอม 8 ปีตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่ทั้งหมดจะถูกมัดรวมเป็นเหตุเป็นผล อย่างที่ทั้ง “หัวหน้าป้อม”และ “ผู้กองนัส”เคยบอกว่า “แคนดิเดตนายกฯ”ที่ พปชร.จะเสนอครั้งต่อไปไม่ได้มีเพียง “ลุงตู่”แค่ชื่อเดียว.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews