คืนหมาหอน-คนละครึ่ง
เข้าสู่โค้งสุดท้ายหักศอกก่อนคืนหมาหอนพรุ่งนี้(15ม.ค.)สำหรับศึกเลือกตั้งซ่อมส.ส.จ.สงขลาและจ.ชุมพรที่จะมีการหย่อนบัตรเลือกตั้งวันอาทิตย์(16ม.ค.)ที่งวดนี้ส่งสัญญาณมาจากทุกป้อมค่ายว่าจัดหนักจัดเต็มเกกันหมดหน้าตักทั้งกระสุนดินดำและการใช้กระบวนท่า แบบที่ “ผู้ใหญ่ฝั่งพรรคปชป.”ออกมาตอบโต้ด้วยการแฉบางพรรครัฐบาลใช้กลไกอำนาจรัฐในเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเคส “เสธ ต.”ใช้ทหารนับร้อยเข้ามาในพื้นที่ชุมพรหรือการใช้อำนาจรัฐผ่านหน่วยราชการบางหน่วยเข้าไปตรวจสอบบางสถานประกอบการในพื้นที่เกี่ยวกับด้านที่ดินแรงงานต่างด้าวโดยพุ่งเป้าเชื่อมโยงคนปชป.
รวมถึงการออกมาของหัวหน้าพรรคปชป.เองที่ออกมาแฉบางพรรคหาเสียงโดยการเคลม “โครงการคนละครึ่ง”ทั้งที่เป็นของรัฐบาลชุดนี้ที่ปชป.อยู่ร่วมด้วย จน “หัวหน้าป้อม”ต้องรีบออกมาเคลียร์คัตส่งสัญญาณให้ “ทีมผู้กองนัส” ที่กำลังปฏิบัติการในพื้นที่แบบทะลุทะลวงจนไปโดนเพื่อน ไม่นับรวมที่ไปพูดทั้งสงขลาเรื่อง “ผู้แทนเป๋าตุง” ให้ระมัดระวังการถูกนำมาขยายผลจนส่งผลกระทบแบบที่ ถูกผู้สมัครส.ส.ก้าวไกลไปยื่นร้องกกต. ที่ยังไม่นับรวมข่าวสอดคล้องการเตรียมอัดกระสุนดินดำเพิ่มและเกทับกัน
เรียกว่าขนาดเป็น “ภาพเปิด”ที่ยังไม่รวม “ภาพทับซ้อน”ในสายสัมพันธ์ของคนปชป.และอดีตคนปชป.รวมถึงคนกปปส.ที่มีหลายสถานะเชื่อมต่อกับ “ศูนย์อำนาจเดียวกัน”ที่หนนี้ต้องมาแข่งกันเองในพื้นที่ ที่ฝ่ายหนึ่งหวังจะรักษาที่มั่นตัวเองที่เคยเป็น“เสาไฟฟ้า”ชาวบ้านก็เลือกและแต่งตัวเพื่อเตรียมเป็นตัวเลือกในการรับบทบาทแทน “พรรคหลัก”แห่ง “ศูนย์อำนาจปัจจุบัน”ที่ถูกมองว่าแกนกลางอย่าง “นายกฯลุงตู่”กำลัง “ขาลง”เรตติ้งตกจนเกิดการแตกภายในกลายเป็นปัญหาเสถียรภาพรัฐบาลนำมาสู่ภาวะไม่แน่นอนที่จะเกิดอุบัติเหตุการเมือง”แม้ทุกคนยังไม่อยากให้มีการกดปุ่มยุบสภาโดยมีการดึงเชิง ทั้งการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งเป็นตัวประกันก็อาจไม่เป็นผล ขณะ อีกฝ่ายหนึ่งหวังเจาะทะลวงเพื่อ “ตัดแต้ม”บางพรรคร่วมในสมการ”เก้าอี้ดนตรี”หลังจากนี้
ที่ทั้งหมดมาทรงเดียวกันกับ การเลือกตั้งซ่อมหลักสี่กรุงเทพ ที่จะมีการหย่อนบัตรกันปลายเดือน 30ม.ค.ที่กำลังมีการเปิดศึก จากบรรดาอดีตคนกันเองกับ “ศูนย์อำนาจ” ระหว่าง “อรรถวิชช์”ผู้สมัครพรรคกล้า กับ “ผู้สมัคร พปชร.”อย่าง “เจ๊หลี”ภริยา “สิระ”ถึงขั้นดำเนินคดีต่อกัน ที่ปรากฎการณ์นี้ เริ่มมีการจับสัญญาณความสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของ “อดีตกองหนุน”ที่เคยบอกว่ายังคงหนุน “นายกฯลุงตู่”อย่าง “หมอเหรียญทอง”คู่ปรับเก่า “สิระ”ที่เดิมก็มาแนวสนับสนุน พรรคไทยภักดี ของ “หมอวรงค์”ที่ถูกมองเป็นพรรคฝ่ายอนุรักษ์ ไม่เอาโทนี่ ไม่เอาม็อบเด็กสามนิ้ว ที่เริ่มออกมาแสดงอาการ “ไม่ปลื้ม”เช่นกันกับการที่ พปชร.ส่ง “เจ๊หลี”สมัคร ในพื้นที่หลักสี่ จนออกมาประกาศจะไม่สนับสนุนพปชร.แล้ว โดยให้คนหลักสี่สนับสนุนผู้สมัครไทยภักดีเพื่อช่วย “นายกฯลุงตู่” ในจังหวะที่อีกด้าน ก็มีการมองบริบทของ “พรรคกล้า” ของ “กรณ์”ว่ากำลังชิงฐานมวลชน “คนเคยรักลุง”ในกรุงเทพฯ
ที่ทั้งหมดถูกประเมินถึงภาพใหญ่การเมือง ในความปะเหมาะเจาะมาในจังหวะ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวทิ้งทุ่นออกมาหลังจากเคยเกิดข่าว3ป.แตกเพราะ “ศึกผู้กอง”นำไปสู่การตั้ง “พรรคปลัดฉิ่ง”และหาพรรคเก่าอีกหลายหัวมาตั้งใหม่ ของ “2ป.”มาถึงข่าวทำนองจะมีการยุบ3พรรคใหญ่ และการออกมายืนยันของ “พรรคไทยภักดี”ที่ยังหนุน “ลุงตู่”เป็นนายกฯ กระทั่งมาถึงข่าวล่าสุดที่เชื่อมไปถึงการเปรยดังในคลับเฮาส์ของ “พี่โทนี่”จากอยากกลับบ้าน มาถึงจะกลับบ้าน และข่าวปล่อยจากหลายฝ่ายถึงการบินไปคุยกับโทนี่ของนักการเมืองและทุนเจ้าใหญ่ จนมาสู่ข่าว “ดีลทักษิณ”กลับมาสู่หน้าปัดอีกครั้งจากที่เคยถูก “หมอวรงค์”ติดป้ายคัตเอาต์ใหญ่ประจานริมทางด่วนแจ้งวัฒนะ โดยถูก “นักข่าว”นำมาถาม “บิ๊กป้อม”วันนี้(14ม.ค.)ที่ยังคงปฏิเสธโดยด้วยการไม่พูดแต่ใช้ภาษากายแบบอาการตาขวางกับนักข่าวเป็นคำตอบ หลังจากที่หลายวันที่ผ่านมาพูดตอบโต้แบบไม่หนี ที่ทั้งหมดไม่นับรวมข่าวคอนเซปต์ “คนละครึ่ง”อาจจะถูกนำมาใช้ผ่านภาพ ศึกเลือกตั้ง 2 จังหวัดปักษ์ใต้ วันอาทิตย์นี้ด้วยเช่นกัน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews