“น้องเล็ก”อย่าง “นายกฯลุงตู่” ไม่อยู่ไปซาอุฯ“พี่ใหญ่” “บิ๊กป้อม”นั่งนายกฯรักษาการแทน ได้จังหวะออกมาประกาศยืนยันชัดเจนว่า “มันจบแล้ว” กับความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)
“น้องเล็ก”อย่าง “นายกฯลุงตู่” ไม่อยู่ไปซาอุฯ“พี่ใหญ่” “บิ๊กป้อม”นั่งนายกฯรักษาการแทนได้จังหวะออกมาประกาศยืนยันชัดเจนว่า“มันจบแล้ว” กับความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล อย่างที่ “ประธานวิปรัฐบาล” “นิโรธ”ออกมาเปรยดังเป็นห่วงเกิดวิกฤติสภาฯ ในขณะที่ยังมีความพยายาม “ไม่จบ”ให้ส.ส.บางรายออกมาขอให้พรรคพปชร.ทบทวนมติ ปม “ปฏิบัติการลั่นไกตัวเอง”ของ “ผู้กองนัส”และ21ส.ส. เพื่อคงสถานะ ส.ส. แต่เปลี่ยนสถานะ “หอกข้างแคร่นายพล”ไปเป็น “พรรคร่วมรัฐบาล”พรรคใหม่ อย่างพรรคเศรษฐกิจไทย “ของบิ๊กน้อย”และ “บิ๊กป๊อด”รวมถึง “ผู้กองนัส” น้องเลิฟและน้องในไส้ และมือขวา ของ “โดยยืนยัน เสียงรัฐบาล จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง!! และพรรคใหม่ จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนรัฐบาลไม่ต้องห่วง ยืนยัน กรณี 21 ส.ส.จบแล้ว ไปอยู่พรรคใหม่ไม่กระทบองค์ประชุมอย่างที่ ประธานวิปรัฐบาล “นิโรธ”ห่วงเกิดวิกฤตเสียงในสภา
โดยลุงป้อมย้อนสื่อด้วยว่า “จะฟัง ปธ.วิป รัฐบาลหรือฟังตน”ที่ก็สอดรับกับที่“ลุงป้อม”ให้สัมภาษณ์เมื่อวาน(24ม.ค.)ระหว่างลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้ “เจ๊หลี”ผู้สมัครพปชร.ที่เขตหลักสี่โดยยอมรับว่าได้พูด“พล.อ.ประยุทธ์” หลังเหตุการณ์ขับ 21 ส.ส.ออกจากพรรคพลังประชารัฐแถมคุยกันตลอดทุกวันกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่เป็นไรไม่มีอะไรต้องรับมือเพราะเป็นพรรคของตนทั้งนั้น ท่ามกลางการประเมินจากหลายฝ่ายว่าที่สุดแล้ว “พรรคพปชร.”ก็เป็น “พรรคเฉพาะกิจ”ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการสืบทอดอำนาจคสช.โดย“ศูนย์อำนาจ3ป.”ที่กวาดต้อน“นักการเมือง”เข้ามาร่วม ที่เมื่อผ่านเวลามาจะครบ2สมัย8ปี การบริหารโดยการนำของ”บิ๊กตู่”ไม่ตอบโจทย์ ในยามวิกฤติประเทศจากโควิดและเศรษฐกิจ ดังสะท้อนผ่านเรตติ้งที่โพลนิด้าเคยสำรวจก่อนหน้า จนมาเกิดเหตุ “โพลลับ”ในพปชร.ที่มีการสำรวจและนำมาสู่ปฏิบัติการ “กบฏโค่นนายพล”
ที่ต่อมาลุกลามหลัง “ผู้กองนัส”ถูกปลดจากรัฐมนตรีจนเจ้าตัวลั่นว่า “เจ็บจำนาน”ก่อนจะตามมาด้วยการที่ใครบางคน “ไม่ยอมจบ”ผ่าน “ศึก6รัฐมนตรี”สายตรง “คนตึกไทย”กับความพยามจัดการ “ผู้กองนัส”จากบทบาทบริหารในพปชร.กระทั่งมาถึงจุดสิ้นสุดที่การชำระคดี“ศึกเลือกตั้งซ่อมสงขลาชุมพร”ที่ “ผู้กองนัส”มีการพลิกเกมโต้กับแผน “กองกำลัง21ส.ส.”ยอมออกจากพปชร.สมใจคนไล่ แต่ เปลี่ยนสถานะจาก “หอกข้างแคร่”ในพปชร.เป็น “พรรคร่วมรัฐบาล”ที่มีอำนาจต่อรอง เพราะพร้อมสวิชต์ไป “ฝ่ายค้าน”ได้ทุกเมื่อหากไม่พอใจ
ที่แผนนี้ยิ่งมาในจังหวะที่ “นายกฯลุงตู่”เรตติ้งตกอย่ามีนัยยะสำคัญ จากทั้งก่อนและหลังศึกเลือกตั้งซ่อมชุมพรสงขลา ที่กลายมาโทษ “ผู้กองนัส”และ กำลังมาอยู่ในโหมด “วัดเรตติ้ง”อีกครั้งกับคนกรุงฯ เพื่อเตรียมการสำหรับศึกเลือกตั้งถัดไปหากจะเกิด “อุบัติเหตุการเมือง”ในทุกเมื่อก่อนครบวาระเดือนสิงหาคม อย่างที่เกิดเหตุสภาล่มถี่ยิบ กับการวัดผลผ่าน “เลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่”ในปลายสัปดาห์นี้ ที่โจทย์รอบนี้ทุกฝ่ายทุกพรรคเว้น “ไทยภักดี”ของ “หมอวรงค์” แม้กระทั่ง พปชร.เองไม่นับรวม “หัวหน้าป้อม” ก็ล้วนมองข้ามไปจาก “แคนดิเดตนายกฯ”คนเดิมอย่าง “ลุงตู่” อย่างที่เริ่มไม่เห็นการหาเสียงที่ชู “คนเก่า”หรือแม้แต่ ป้ายเชียร์ที่ให้ชาวบ้านถือก็กลายเป็นเชียร์ “ลุงป้อม”
ที่ทั้งหมดมีการวิเคราะห์จากกูรูหลายฝ่าย ถึง การออกมาว่า “จบแล้ว”ของ “ลุงป้อม”อาจหมายถึงการจบ แบบที่ “หัวหน้าป้อม”รับเคลียร์ กับการประคองจังหวะ ให้รัฐบาลภายใต้ “นายกฯลุงตู่” ที่เอาเข้าจริงยังไม่มีใครอยากให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แต่ด้วยสภาพการณ์ที่ไม่แน่นอนจากเสถียรภาพรัฐบาลจากพรรคหลัก พปชร.ทำให้ต้องพร้อมไว้ก่อนที่ “ลุงป้อม”ที่คุยกับ”น้องเล็ก”ต้องทำให้รัฐบาลไปถึงฝั่งครบวาระและมีการลงจากหลังเสือแบบไม่ถูกเสือกัด แบบที่ต้องเคลียร์กันลงตัวทั้ง”เก้าอี้ดนตรี”และทิศทางอนาคตระหว่าง “คู่ขัดแย้งหลัก”อย่างน้อยก็ทำให้มีเวลาเตรียมตัวเก็บกระสุนดินดำกันอีกพักใหญ่.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews