กลิ่นรัฐประหาร
จังหวะ “นายกฯลุงตู่”กลับมาประเทศไทยกักตัวเองตามมาตรการโควิดทำให้ไม่ได้ไปงาน “จักรดาว”พรุ่งนี้(27ม.ค.)โดยให้ “บิ๊กป้อม”ไปแทน โดยเจ้าตัว โพสFB ยาวเหยียด ประกาศข่าวดีเป็นอีกหนึ่งผลงานสำคัญในความสำเร็จ9ด้าน กับการเยือนประเทศซาอุดิอารเบีย ที่สามารถฟื้นความสัมพันธ์การฑูตในรอบ30ปี อันส่งผลดีกับประเทศไทยในหลายมิติทั้งการเมืองความมั่นคง เศรษฐกิจ โดยมีการกราบบังคมทูลเชิญ มกุฎราชกุมารฯ แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเสด็จฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อม ตั้ง เอกอัครราชทูต ซึ่ง ซาอุเป็นอิสลามสายกลาง ที่มีอิทธิพลสูงในOIC ซึ่งไทยหวังว่าจะมีบทบาทช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ตามแนวทางสันติสุข ร่วมมือกันด้านข้อมูลข่าวสารความมั่นคง ต่อต้านการก่อการร้าย ด้านการเมืองในประเทศ
เรียกว่าแม้จะถูกวิจารณ์ก่อนหน้านี้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังการประสานงานที่ต้องแลกมาแบบของฟรีไม่มีในโลก แต่โดยรวมก็ถือเป็นผลบวกกับประเทศไทยที่ยามนี้ โหมดการเมือง ยังคู่ขนานไปกับปัญหาวิกฤติประเทศทั้งโควิด เศรษฐกิจ ของรัฐบาล “นายกฯลุงตู่” ที่กำลังสาละวนกับ“ศึกใน”และ “ศึกนอก”ที่รุมเร้าแบบพุ่งเป้าไปที่ “ลุงตู่” โดยเฉพาะ “ศึกนายพลกับผู้กอง”ที่ลุกลามมาจนถึงจุดแตกหัก กับปรากฏการณ์ “หอกข้างแคร่แยกวง”ที่ “ผู้กองนัส”ขอให้ “หัวหน้าป้อม”ใช้มติพรรคขับพร้อม21ส.ส.พลังประชารัฐ(พปชร.)เปลี่ยนสถานะเป็น “พรรคร่วมรัฐบาล”กับข่าวการจะเข้าไปสังกัด “พรรคเศรษฐกิจไทย”ที่มีชื่อ “บิ๊กน้อย”และ “บิ๊กป๊อด”น้องรักกับ “น้องในไส้”ของ “บิ๊กป้อม”ล่าสุดแบบที่ “บิ๊กป้อม”ทียืนยันตลอดแบบถี่ๆในทางเดียวกับ “น้องเล็ก”ว่าไม่ได้ขัดแย้งหรือทะเลาะกันและพูดคุยกันทุกวัน เช่นเดียวกับที่ยืนยันว่า “21ส.ส.”และ “ผู้กองนัส”ที่ออกไปไม่กระทบเสถียรภาพหรือทำให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำในสภาฯสุ่มเสี่ยงต่อการพิจารณากฎหมายสำคัญและศึกซักฟอกรัฐบาลแบบลงมติที่จะเปิดสมัยเดือนพ.ค.65 เพราะกลุ่ม21ส.ส.จะสนับสนุนรัฐบาล แต่ก็หลุดปากยอมรับว่าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีการเอ่ยถึงรวมถึงพปชร.ล้วนเป็นพรรคตนเองทั้งนั้น
เรียกว่าโดยทิศทางการเมืองที่ออกมาดอกนี้ ทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า หนทางเลือกของ “นายกฯลุงตู่”จะเลือกคือการจะยอมปรับครม.ตามแรงบีบหรือปล่อยสถานการณ์ไหลไปสู่เกมสภา ถูกบีบให้กดปุ่ม ยุบสภา หรือ ลาออก ในขณะที่หลายฝ่ายก็ประเมินว่าด้วยบุคลิกยอมหักไม่ยอมงอแบบ“นายกฯลุงตู่”ย่อมไม่ยอม และสถานการณ์อาจไหลไปสู่ “ทางตัน”หรือไม่ อย่างที่ “หมอชลน่าน”หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจู่ๆก็ออกมาย้ำในฐานะนักการเมืองมีเรดาห์จับสัญญานการเมือง ว่า “ได้กลิ่นรัฐประหาร”โดยประเมินว่าด้วยปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาลที่กระทบต่อการบริหารประเทศเนื่องจากกฎหมายไม่สามารถผ่านสภาฯ “นายกฯลุงตู่”มีทางเลือกยุบสภาหรือลาออกเพื่อรับผิดชอบความเสียหายส่วนอีกทางคือเกิดการรัฐประหารโดยมองว่าหากเกิดการรัฐประหารจะเป็นการสืบทอดอำนาจโดยเบ็ดเสร็จ วิธีการอื่นใช้ไม่ได้ เพราะยุบสภาก็ไม่กล้ายุบ เลือกตั้งแล้วประชาชนเป็นผู้ตัดสิน จะปรับ ครม.ก็อาย ไม่กล้า ประเภทยอมหักไม่ยอมงอ ตัวเองตาย ประเทศชาติตาย เขาทำแบบนี้ ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดการประนีประนอมเป็นไปได้ยาก ฉะนั้น การยึดอำนาจคือวิธีการเบ็ดเสร็จส่วนมูลเหตุที่ใช้เป็นข้ออ้างก็สามารถบริหารจัดการและทำให้เกิดเหตุการณ์ได้ตลอดเวลา
ดังนั้นขอภาวนาและขอร้องอย่าได้คิดใช้วิธีการนี้คืนอำนาจให้ประชาชนดีที่สุดและว่า“ถ้ามีการยึดอำนาจรัฐประหารเมื่อไหร่ สภาวะทุกอย่างที่ย่ำแย่จะแย่ไปกว่าเดิม เพราะประเทศกำลังวิกฤติหลายด้าน ซึ่งจะเกิดผลกระทบรุนแรงมากขึ้นจากการที่ ประชาชนขาดความเชื่อมั่น และอาจมีการลุกฮือต่อต้าน เกิดจลาจล และความวุ่นวายได้.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews