“พระรามตู่” จะจบยังไง
@ ในจังหวะ “โควิด” กลับมาพีค กับยอดวันนี้ ที่พุ่งไปหลักหมื่น แบบที่หากนับรวมยอดตรวจ ATK ด้วยก็กว่า 3 หมื่น จนเริ่มเกิดการวนลูป กลับมาของปัญหาการรองรับการรักษาไม่ทันกับยอดที่พุ่งรายวันจากคลัสเตอร์ใหม่ๆ เริ่มมีภาพ “เตียงไม่พอ” ประชาชน“รอเตียง”นอนรอข้างถนนกลับมาหลอนอีกครั้ง แบบไม่ตอกย้ำกับ “ข้อมูล” ที่ฝ่ายค้านนำมากล่าวหารัฐบาลพุ่งไปที่ “นายกฯลุงตู่” ว่าล้มเหลวในการบริหารแก้ปัญหาโควิดเดลต้าวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ที่ภาพรวมออกมาแม้จะเป็น“ข้อมูลชุดเดิม”ของ“ฝ่ายค้าน”แต่ “นายกฯลุงตู่” ในสถานการณ์นี้ถูกประเมินว่า “คำชี้แจง” ไม่โอเคกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ยิ่งขนาด “ฉายซ้ำ” แต่ข้อมูลชี้แจงกลับยังมีบางส่วนไม่ตรงคำถาม
@ ยิ่งมีบางประเด็นที่ถูกนำมา “ขยายผล” อย่าง ปม “คดีค้ามนุษย์โรฮิงญา” ที่เคยเป็นข่าวดังเมื่อปี 2558 ที่ “พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์” หัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนคดีนี้กลับถูกโยกย้าย ถูกข่มขู่ จนต้องลี้ภัยไปออสเตรเลียที่ ที่โยงใยข้าราชการทหารตำรวจพลเรือน 153 ราย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษไปแล้ว 75 รายรวมถึง “พล.ท.มนัส คงแป้น” ที่ต่อมาเสียชีวิตปริศนาในเรือนจำ ซึ่ง “รังสิมันต์โรม”จากพรรคก้าวไกล พยายามโยงไปจนถึง “ศูนย์อำนาจ” ในรัฐบาล หรือประเด็น “เหมืองทองอัครา”ที่ “ฝ่ายค้าน”บอกว่าคำตอบก็ยังไม่เคลียร์กับข้อเท็จจริงที่กำลังปรากฏ หรือแม้กระทั่งประเด็น ปกปิดข้อมูล“อหิวาต์หมู” ที่เป็นปมที่เพิ่งเกิดขึ้น ที่ฝ่ายค้านจ่อไปยื่นต่อปปช.
@ ในขณะที่โพลสำรวจไม่นับรวม “ซูเปอร์โพล” ที่บอกว่า “นายกฯลุงตู่” ชี้แจงโอเคเรื่องค้ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นนิด้าโพล หรือ สวนดุสิตโพลต่างออกมาในท่วงทำนองเดียวกันกับการประเมินทิศทางหลังศึกซักฟอกครั้งนี้ ว่าประชาชน ส่วนใหญ่ 58.79% อยากให้นายกฯ “ยุบสภา” เร็วที่สุด เหตุรัฐบาลไม่มีความมั่นคงเลย ขณะที่“สวนดุสิตโพล” สำรวจพิษเศรษฐกิจประชาชนเชื่อว่าอาจมีการ “ยุบสภา” เพื่อเลือกตั้งใหม่ก่อนรัฐบาลครบเทอม
@ เรียกว่าแม้ “นายกฯลุงตู่” วันนี้ จะร้องขอให้จบๆกันไป เพราะอภิปรายกันไปแล้ว 2 วัน ให้เพลาๆกันหน่อยเรื่องการเมือง โดยบอกว่า “จะดีไม่ดี จะใช่ไม่ใช่ ก็ไม่รู้แต่ที่ตนพูดชี้แจงไป ไม่โกหกใคร เพราะพูดในข้อเท็จจริงสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์อะไรที่ยังไม่เรียบร้อย ก็จะเอามาแก้ไขพิจารณา ในอำนาจในกรอบกฎหมายที่มีอยู่ขอให้ทุกคนช่วยๆกันเพราะวันนี้ประเทศชาติ กำลังมีปัญหาอยู่” หากแต่ ผลจาก ศึกซักฟอกย่อย ที่ย้ำหัวตะปูกับสถานการณ์ที่ผ่านมา รวมถึงสถานการณ์โควิดเศรษฐกิจที่ยังมีปัญหา กลายเป็น “บูมเมอร์แรง” ย้อนกลับไปสู่ความกดดันทางการเมืองทั้งจาก “ภายใน” และ “ภายนอก” รัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อเปลี่ยนตัว “คนใหม่”เข้ามาแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นการยุบสภา หรือ การลาออกที่ “นายกฯลุงตู่”จะกดปุ่มเมื่อจวนตัวจากการ “ยุทธการตีโอบกระชับ”ที่เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ทั้งในเกมสภาฯฝ่ายนิติบัญญัติที่ยังเหลือ “ศึกใหญ่”กลางเดือนพ.ค.ไม่นับรวมเกมนับองค์ประชุมหรือการผ่านกฎหมายสำคัญที่เสี่ยงต่อ “อุบัติเหตุการเมือง”
@ หรือ เกมกดดันผลประโยชน์นโยบายในฝ่ายบริหาร จากพรรคร่วมรัฐบาล อย่างภูมิใจไทย(ภท.) ที่แม้ “สีดาหนู” จะรับปากจะช่วยด้วยกำลัง 260 ส.ส.ในหน้างานหากมีปัญหาเกมสภาแต่สิ่งเหล่านี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ทิศทางของ “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” ที่วันนี้มีเรื่อง “กฎหมายกัญชา”เข้ามาเพิ่มจากที่ ลูกพรรค ภท.อย่าง“ครูแก้ว”ที่ออกมากดดันขู่พรรค ภท.จะถอนตัวหาก กฎหมายกัญชา ไม่ผ่าน
@ ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมถึง อดีตหอกข้างแคร่ ที่ออกไปเป็น “กองกำลังอิสระ” อย่าง “ผู้กองนัส” ที่พร้อมจะใช้จังหวะร่วมทิ่มแทงกับ “ศัตรูร่วม” อย่างล่าสุดที่ออกมา พูดถึง “ตลกพระราม 9” ที่อาการแบบนี้นิวิเคราะห์หลายสำนักประเมินในทิศทางเดียวกันว่าคือการงวดใกล้การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างที่นักการเมืองใหญ่น้อยทุกพรรครัฐบาลฝ่ายค้านก็สัมผัสได้ถึงโอกาสของการ “รีเซตระบบ” ในทางใดทางหนึ่ง พากันสะสมเสบียงกรังและเริ่มไพร่พล และลงพื้นที่หาเสียงมาตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้ว.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
