สัญญาณบีบ“ลุงตู่”หรือหนูจะกลายเป็นราชสีห์
จับอาการ “นายกฯลุงตู่”วันนี้และหลายวันที่ผ่านมา กับอารมณ์ขึ้นลง มาลงที่สื่อ แบบที่ยอมรับเองว่าเครียดทุกเช้ากับการเจอข่าวไม่ค่อยดีกับรัฐบาล โดยเฉพาะพุ่งเป้าจับผิดในทุกเรื่อง อย่างที่วันนี้ระหว่างพูดในการเปิดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล”อยู่ๆก็พูดเสียงดังด้วยอารมณ์โกรธ แถมมีหันไปทาง “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน”รมว.ยุติธรรมแกนนำกลุ่มสามมิตร โดยบอก ว่า
“ตนไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร ต้องการกลับไปอยู่ในวังวนเดิมๆหรือเปล่า เพราะง่ายต่อการสร้างความชื่นชอบส่วนตัวทางการเมืองหรือเปล่า อย่าทำร้ายประชาชนอีกต่อไป”
ก่อนพูดเหมือนถาม “นายสมศักดิ์”ว่า “เครียดเหมือนตนหรือไม่ ไม่ต้องมาเครียดกับผม เพราะตนเครียดทุกเช้า สิ่งที่ผมพูดคือต้องพูดเสียบ้าง ถึงแม้ว่าใครจะให้เกียรติหรือไม่ให้เกียรติ ตนไม่ชอบคำพูดว่า”โว” อะไรที่ดีก็ชี้แจงออกมาแต่ก็หาว่าโว แล้วโวคืออะไร คือขี้โม้ขี้คุยหรือไง เขาพูดเขาชี้แจงก็ฟังเสียงบ้าง ไม่เคยมีประเทศไหนที่สื่อไม่ให้เกียรติผู้นำอย่างประเทศนี้”จากนั้น หันไปกล่าวกับพระสงฆ์ด้านหน้าที่มาร่วมงาน ว่า ขออนุโมทนาสาธุ กำลังใช้ธรรมะข่มใจอยู่
เรียกว่า “ต่อมลุงฉุน”แบบที่มักเกิดขึ้นโดยมี “คู่กรณี”เป็นสื่อ สมัย “ลุงตู่”เข้ามาเป็นนายกฯช่วงแรกที่ยังสวมหมวกหลายใบ เป็นทั้ง หัวหน้า คสช.เป็นทั้งนายกฯเมื่อ7ปีก่อนเริ่มกลับมาให้เห็นในช่วง2สัปดาห์ที่ผ่านมา หลัง “ศึกซักฟอกย่อย”ที่เกิดภาพร่างความจัดแย้ง และการต่อรองทางการเมืองเกิดขึ้นทั้งจากภายใน และ ภายนอก ที่สัมพพันธ์ไปกับ “ภาพใหญ่”ที่ทุกฝ่ายวิเคราะห์อาการ “ขาลง”ของรัฐบาล
อาการ “เรตติ้งตก”ของ “นายกฯลุงตู่”ที่ทำให้เกิดสภาปัญหา “เสถียรภาพรัฐบาล”จากอาการ “แตกใน”ของ “พรรคพลังประชารัฐ”(พปชร.)นับตั้งแต่ “ศึกผู้กองกับนายพล”ที่ตามมาด้วยการ “อพยพย้ายพรรค”ไปตั้ง “รัฐอิสระ” “พรรคเศรษฐกิจไทย”หรือ “พรรคเทพ”(TEP)ที่ประกาศไม่ได้เป็นฝ่ายค้านและไม่ได้ขึ้นกับรัฐบาล กระทั่งมาถึงจุดที่ “ราชสีห์”ต้องขอให้ “หนู260”ช่วย โดยยอมรับว่า “เหลือทางเลือกไม่มาก”จนเกิดภาพว่า “หนู”อาจกลายเป็น “ราชสีห์”แทน
ไม่แต่เท่านั้นหลังเกิดภาพ “เสียงหาย”แบบที่ “ฝ่ายค้าน”ช่วยย้ำให้เห็นถึงปัญหา “องค์ประชุม”เหมือนบอกในทีว่าย่อมมีปัญหาไปถึงการลงมติใน “กฎหมายสำคัญ”ที่จะส่งผลต่อสถานะของ “นายกฯลุงตู่”หรือแม้แต่ “ศึกซักฟอกใหญ่”กลางเดือนพ.ค.สมัยประชุมถัดไป ที่ “กองกำลังอิสระ”ของ “ผู้กอง”ก็พร้อมจะช่วยกับฝ่ายตรงข้าม “นายกฯลุงตู่”อย่างที่เคยประกาศ “ศัตรูของศัตรูคือมิตร”
หลายฝ่ายมองโดยรวมว่า การเมืองมีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาหลังจากนี้แบบที่ “นายกฯลุงตู่”อาจตัดสินใจ “กดปุ่ม”ยุบสภา โดยไมคิดลาออก หากจวนตัวเข้ามาจริงๆ อย่างที่ยังไม่นับรวมถึงปัญหาการตีความ “วาระดำรงตำแหน่ง8ปีนายกฯ”ที่จะครบกลางเดือนส.ค.65 ทำให้บรรยากาศ การย้ายพรรคของส.ส.ทั้งฝ่ายค้านรัฐบาลเริ่มเกิดขึ้นตามกระแส“พลังดูด”ของพรรคภูมิใจไทยที่แม้ตอนนี้จะยังหนุน “นายกฯลุงตู่”เป็นนายกฯแต่หากถึงเวลา “หัวหน้าหนู”ก็คือ “แคนดิเดตนายกฯ”เช่นกัน
ด้วยสถานการณ์ที่ต้องคิดมากกับการเมืองรวมไปถึงร่องรอยความสัมพันธ์ใน3ป.กับ “พี่ใหญ่”ที่พักหลังไม่ค่อยออกงานด้วยกันกับ “น้องเล็ก” และด้วยร่องรอยการขยับรุกจาก “ปัจจัยตัวแปรอื่น”ที่กำลังเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวบนท้องถนน แบบที่กำลังมาบรรจบกับสถานการณ์การแก้ไขกฎหมายลูกเลือกตั้งของสภาฯ ที่เริ่มมีการติดปลายนวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งต่อไป
ข้อเสนอประชาชน คือการจัดการ “พรรค250สว.”และรวมถึงการเสนอจาก เพื่อไทย เมื่อวันก่อน(23ก.พ.)ที่ให้กลับไปใช้ตามรัฐธรรมนูญ40นายกฯมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน ไม่เท่านั้นยังเริ่มมีกระบวนการกดดัน “ศูนย์อำนาจ3ป.”จากปม “โรฮิงญา”กลับเข้ามาอีกโดยหนนี้มีคนยื่นให้กรรมาธิการสภาพิจารณาโดยเรียกทั้ง “พี่ใหญ่-น้องเล็ก”รวมถึงทหารตำรวจที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวม “การบ้าน”หน้างาน ทั้ง “โควิดโอไมครอน”ที่ตัวเลขกำลังพุ่งปรี๊ด และปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ “นายกฯลุงตู่”ยังต้องรับหน้าเสื่อ ที่ทั้งหมดอินุงตุงนังให้ นายกฯต้องคิดหาทางแก้ไข จนเครียดและออกอาการหงุดหงิดอย่างที่เห็น.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
