MMP เกมสกัด & ยื้อยุทธ์
@ ในขณะโลกกำลังผวาทั้ง ผลกระทบจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3 ” กรณี “รัสเซีย” ถล่ม “ยูเครน” และพร้อมจะกดปุ่มระเบิดนิวเคลียร์หากใครจุ้น ที่โลกทั้งใบกระทบกันถ้วนทั่ว และยังต้อง ผวากับ “สงครามโรคโควิดครั้งที่ 4 ”ที่กำลังกลับมาระบาดหนักในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ที่ “ผู้นำ” อย่าง “นายกฯลุงตู่” สั่งทุกฝ่ายรับมือเต็มที่ ในขณะที่อีกด้านทางการเมืองก็มี “สัญญาณการเปลี่ยนแปลง” กับบรรยากาศ นับถอยหลังไปสู่การเลือกตั้ง ทั้งที่ยังไม่รู้ว่า “ทางออก” หรือ “ทางลง” จากอำนาจของ “นายกฯลุงตู่” และ “ศูนย์อำนาจ 3 ป.” ที่เพิ่งแสดงความเป็นเอกภาพ 3 พี่น้องยังรัก และจะไม่แยกจากกัน กับเมนู “กุ้งผัดกระเทียม” ฝีมือ “พี่ใหญ่” เมื่อสัปดาห์ก่อน ในท่ามกลางการจับตาข้อสรุปลงเอยที่จะปรากฏผ่านวงประชุมครม.พรุ่งนี้ (8 มี.ค.) ว่าจะมีการนำบางประเด็นที่เคยเป็นปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาท่าทีรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมถึง การกำหนดวัน เลือกตั้งผู้ว่ากทม. ที่มักจะมาชิมลางก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งถูกเลื่อนมาแล้วหลายครั้งในรัฐบาล “นายกฯลุงตู่” ที่ดูสัญญาณรอบนี้ กับการขยับของแต่ละฝ่ายแต่ละพรรคมีการมองข้ามช็อตไปถึงการเลือกตั้งสนามใหญ่กันแล้ว
@ แต่ที่ที่สัมพันธ์คู่ขนานกันคือ กระบวนการแก้ไขกฎหมายลูกรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ที่ห้วงสัปดาห์ที่แล้วเกิดภาพการ “ชักเย่อ”สอดไส้กันในพรรคร่วมรัฐบาล กรณี “หมอตี๋” ”สาธิต ปิตุเดชะ” รมช.สธ.จากพรรคประชาธิปัตย์ พลิกโผชนะ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ที่ว่ากันว่าเป็นความไม่ไว้ใจกับการเป็น “เพลเมกเกอร์รัฐธรรมนูญ” ภายใต้ “ศูนย์อำนาจ 3 ป.” ของ “ไพบูลย์” ที่ปฏิบัติการ “พลิกคว่ำคะมำหงาย” ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้วหลายยกไม่ว่าจะร่างฉบับประชาชนหรือร่างจากม็อบเด็กฯหรือร่างจากฝ่ายค้านก็ฝ่าด่านไม่ได้ ทำให้ฝ่ายนักการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลเอง แม้ไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้มากต้องทนบท “ตบจูบ” กันต่อไป
@ แต่มาหนนี้ช่วงขาลง 7 ปี “นายกฯลุงตู่” ที่จะตีความกลางเดือน ส.ค.ปีนี้ ว่าครบ 8 ปี ดำรงตำแหน่ง 2 สมัยตามรัฐธรรมนูญ และเหลืออีก 1 ปี ครบวาระสภาฯ ทำให้ “ฝ่ายนักการเมือง” ในรัฐบาลต้องการความชัวร์ว่าจะไม่มี “อภินิหารทางกฎหมาย” ในการ “อยู่ต่อ” ของฝ่ายอำนาจ ดังสัญญาณ “การยูเทิร์นบัตรใบเดียว” ที่กลับมาดังอีกครั้ง หลังมีแนวโน้มว่าพรรคใหญ่ฝ่ายค้านอย่าง “เพื่อไทย” จะแลนด์สไลด์ และสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งสัญญาณ “ทุ่มทุนสร้าง” จากเจ้าของพรรคตัวจริง ที่เริ่มเมความถี่ในการออกสื่อสร้างความมั่นใจส.ส.ที่กำลังถูกดูด ที่ยังไม่นับรวมถึงความพยายามเสนอเรื่องการใช้หมายเลขผู้สมัครแยกใช้คนละหมายเลข ซึ่งกรรมาธิการกฎหมายลูกจะมีการคุยประเด็นนี้ในวันที่ 9-10 มี.ค.ด้วย
@ รวมถึงก็ยังมีร่องรอยความพยายามนำเสนอสูตรที่ยังล้อกับภาพการเลือกตั้งปี 2562 เพื่อสกัดไม่ให้ “พรรคใหญ่” ได้เปรียบพรรคเล็ก โดยหลังภาพ “สวีท” “3 ป.” วันศุกร์ ช่วงเสาร์อาทิตย์ มีการชงประเด็น “สูตร MMP” ในการคำนวณส.ส.พึงมีออกมาจากคนของ “พรรคเล็ก” ที่มีคนจากพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เห็นด้วย ในสูตร MMP คะแนนรวมหารด้วย 500 หาจำนวน ส.ส.พึงมี โดยหัวหน้าพรรคเล็กที่เป็นกรรมาธิการ มีการอ้างว่าสถานการณ์เปลี่ยน และมีการคุย กับ”บิ๊กป้อม-อนุทิน” บอกแนวโน้มดี ทำให้พรรคภูมิใจไทย(ภท.) ต้องออกมาปัดว่า “อนุทิน” ไม่เคยไปดีลกับพรรคเล็กกับสูตรนี้ เช่นเดียวกับ ‘นิกร จำนงค์’ กรรมาธิการจากพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ออกมายืนยัน รธน. ม.91 กำหนดสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ต้องหาร 100 ไม่ใช่ 500
@ ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมร่องรอยก่อนหน้า ที่ “พรรคเล็ก” โดย “นพ.ระวี มาศฉมาดล” ส.ส.รายชื่อจาก พรรคพลังธรรมใหม่ ไปร้องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การแก้ไขระบบเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงร่องรอยส.ส.กองหนุน “นายกฯลุงตู่” กำลังมีการ จับมือกับ “วุฒิสมาชิก” แปรญัตติ “สกัด” การ “แลนด์สไลด์” ของพรรคเพื่อไทย อย่างที่เริ่มมีการส่งสัญญาณมาจาก “พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม” ว่า ปมบัตร 2 ใบ ยังมีประเด็นไม่สมบูรณ์ เป็นไปได้ที่ อาจกลับไปใช้วิธีคำนวณแบบปี 2562.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews