ยังอยู่ในโหมดก้ำกึ่งระหว่าง“การเมือง”กับ“โควิด”ที่แม้ตัวเลขวันนี้จะพุ่งปรี๊ดแตะพัน แต่ก็เป็นการพุ่งในแบบการ“ตรวจเชิงรุก”เข้าไปในโรงงานที่สมุทรสาคร ที่ด้านหนึ่งเหมือนเป็นการ เร่งจังหวะการ“คลายตัว”จากสภาพการณ์“โควิด2”ดังที่“ผู้ว่ากทม.” “บิ๊กวิน” เด้งรับ“ลุง”นำจังหวัดอื่นไปก่อนตั้งแต่ศุกร์ที่ผ่านมาคลาย 13 ธุรกิจ กลับมาเปิด พร้อมๆกับการอัดโปรแจกต่อเนื่อง ตั้งแต่ “เราชนะ”7,000 ถึง“เก็บตก คนละครึ่ง”ปลายสัปดาห์ก่อน ที่ล้อจากโปรที่เคยออกมาตั้งแต่ภาคแรกเล่นคำให้จำแบบ “เราไม่ทิ้งกัน” “ไทยชนะ” “คนละครึ่ง” “เที่ยวด้วยกัน” “หมอชนะ” “เราชนะ” จนมาถึงเมื่อวานที่แพลมจาก“หมอหนู”“อนุทิน”กับโปรวัคซีน “หมอพร้อม” ที่ลุ้นกันอยู่ว่า “ศึกฟอกลุง”และ 9 รัฐมนตรี ที่ยื่น“ประธานชวน”เมื่อวาน(25ม.ค.)และมีกำหนด“ฟอกลุง”กลางเดือนกุมภาพันธ์ “ฝ่ายค้าน”โดยเฉพาะ“พรรคก้าวไกล”ที่พอจะหวังได้บ้าง จะเล่นหนักที่“ลุง”คนเดียวหรือ“พ่วงหมอหนู”ด้วยจากข้อครหา“ล็อคสเปค”บริษัทไทยที่เป็นตัวกลางนำเข้า
ในขณะจังหวะที่“โควิด”ติด“มะตูม”ก็ยังมีการรายงานการแพร่กระจายในส่วนของกรุงเทพและจังหวัดปริมลฑลกว่า 20 ราย ที่มีรายงานว่า “ผู้ประกอบการฟิตเนสเจ้าใหญ่”บางราย ไม่ได้แจ้งรายละเอียดให้ลูกค้าปล่อยให้รู้เองจาก“ไทม์ไลน์”ที่“บิ๊กวิน”เอามาเปิด ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากกลุ่มงานวันเกิน“ดีเจมะตูม”แวะเวียนเข้าไปใช้บริการสาขาห้างใหญ่ย่านงามวงศ์วานหลายรอบจน“ผู้ใช้บริการ”รายอื่นตื่นไปตรวจเชื้อ ที่เป็น“ตัวอย่าง”บางส่วนของ“อาการหลวม”ที่ยังมีแม้จะมีผู้ติดเชื้อปรากฎชัด ที่ยังสุ่มเสี่ยงการกระจาย ในจังหวะที่“ลุงทำเนียบฯ”พยายามอัดโปรแจกกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหลังจาก“ฝ่ายค้าน”ยื่นซักฟอก โดยวันนี้(26ม.ค.) มาอีกแบบพอหอมปากหอมคอ กับ“แพคเกจภาษี”ที่ได้ทั้งบุคคล และนิติบุคคล และ“เก็บตก”ผู้ประกันตน ม.33 แบบลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนประกันสังคมลง
โดย“ลุง”ยังมั่นใจว่าชี้แจงทุกเรื่องได้ ประมาณว่า“ฝ่ายค้าน”เล็งมาก็เล็งกลับ และว่า เห็นพูดกันเยอะแยะแล้วผ่านสื่อ ตนคงไม่ตอบตรงนี้ เป็นเรื่องของในสภาที่จะอภิปราย โดยเตรียมหลักฐานและเตรียมการชี้แจงไว้ในส่วนของตนเองและของรมว.กลาโหมไว้แล้ว การอภิปรายฯ เป็นอำนาจของฝ่ายค้านก็ทำไป ตนมีหน้าที่ในการชี้แจง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็เตรียมชี้แจง ผู้ปฏิบัติก็ชี้แจงไป ส่วนเรื่องงบประมาณ เป็นเรื่องคนละขั้นตอน เพราะต้องเป็นการพิจารณาของกรรมาธิการ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงการเสนอแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เข้ามาที่สำนักงบประมาณเพื่อที่จะนำเข้าสู่สภา ตามวาระ และที่เล็งจะอภิปรายงบจัดซื้ออาวุธ ถ้าเล็งมา ก็เล็งไป เพราะความจำเป็นต้องมี.เป็นมิติของงานความมั่นคงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศที่จำเป็นต้องมี
เรียกว่า“ลุงทำเนียบฯ”ดูมั่นใจว่าจะชี้แจงได้ ที่อาจต่างจาก“พี่ใหญ่”ใน3ป.อย่าง“ลุงป้อม”ที่หลายฝ่ายห่วง“อาการไม่รู้”ที่ใช้ตอบคำถามกับ“วงนักข่าว”ที่อาจใช้ไม่ได้ในสภาฯ โดยเฉพาะงวดนี้จากที่มีข่าวว่า“หลุด”ไม่โดนกลับมีชื่อโดนเรื่อง“ผู้มีอิทธิพล”ที่ทำให้รัฐมนตรีใกล้ชิดอย่าง“เสี่ยเฮ้ง”“สุชาติ ชมกลิ่น”รีบออกหน้าอธิบายแทน“ลุงป้อม”โดยยอมรับว่า“หัวหน้าป้อม”เป็น“กล่องดวงใจ”ของรัฐบาลที่ต้องตกเป็นเป้าโจมตีอยู่แล้วส่วน ความหมาย“ผู้มีอิทธิพล”ไม่ใช่อันธพาล แต่เป็น“ผู้มีอิทธิพล” ที่ทำให้การเมืองแข็งแรง เป็นอิทธิพลในเรื่องมีบารมี เพราะต้องดนในพรรคส.ส. ร้อยกว่าคน รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ การจะทำงานร่วมกันสนับสนุนรัฐบาล ก็ต้องเกิดจากพรรคหลัก ซึ่งพล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าจากพรรคหลัก และมั่นใจว่า“ลุงป้อม”จะตอบได้ทุกเรื่อง
ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตามต่อว่า“ศึกซักฟอก”ที่“ฝ่ายค้าน”อ้างว่า“ปิดลับ”ไม่แพลม“กลยุทธ”เพราะกลัว“ข้อสอบรั่ว”แบบคราวก่อน จะเป็นไปอย่างที่ว่าหรือไม่ในสภาพการณ์ที่ หลายฝ่ายประเมินจากศึกหนก่อนว่าเป็น“การเกี่ยเซี๊ยะการเมือง”ระหว่าง“ฝ่ายรัฐบาล”และ“ฝ่ายค้าน”โดยเฉพาะกับสภาพที่ไม่สามารถ“ควบคุม”ส.ส.ที่ตัวอยู่“ฝ่ายค้าน”แต่ใจอยู่“ฝ่ายรัฐบาล”หรือแม้กระทั่งข้อครหา“ลิงกินกล้วย”และการแจกเพื่อซื้อคะแนนโหวตในสภาที่ยังคงติดตาประชาชนแต่“ติดใจ”นักการเมืองว่าจะทำให้การตรวจสอบ“รัฐบาล3ลุง”ที่มีหลายมิติที่เด“ช่องโหว่รูรั่ว”ให้เห็น จากฝ่ายนิติบัญญัติถูก“ลดสอบน้ำหนัก”แบบที่“ลุงทำเนียบฯ”เคยเสียดเย้ยไว้ว่า“ประชาชนเริ่มเบื่อ”หรือไม่ ที่หากเป็นเช่นศึกครั้งก่อนศึกฟอกลุงหนนี้ก็คงไม่มี“ใครชนะ”ทั้ง“รัฐบาล-ฝ่ายค้าน”หรือ“ประชาชน”ที่มิอาจไว้ใจใครได้ และอาจทำให้ภาพการเมืองบนถนนกลับมาให้เห็นอีกครั้งก็ได้.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่ : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews