ดวงผู้นำหลังสงกรานต์
@จังหวะเมษาร้อน “สงกรานต์ปีใหม่ไทย” กลางดงโควิดที่ต้องลุ้นกันวันจันทร์หน้าว่าจะออกหัวหรือก้อยกับตัวเลขการติดเชื้อแสนต่อวันแบบที่หมอคาดการณ์หรือไม่ ที่ตามปกติที่ผ่านมาแต่ละปี นอกจากจะมี “คำทำนาย” ผ่านลักษณะนางสงกรานต์แล้ว ยังมีการทำนายทายทักถึง “ดวงเมือง” จากโหรการเมืองหลายสำนัก เช่นกับหนนี้มีการทำนายออกมาอย่างน่าพิจารณา จาก โหรสว.“ทนายวันชัย สอนศิริ” ที่วันก่อนออกมาทำนายดวงเมืองว่า ดาวราหูทับดวงเมือง ดาวพุธและดาวอาทิตย์ย้ายเข้าสู่ราศีมีน เป็นอริกับดวงเมือง วันที่ 7 ก.ค. 65 ดาวมฤตยูย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ ดาวใหญ่ๆที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมือง เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ผู้นำ ประเทศชาติและประชาชน ยังสับสนอลหม่านอยู่ มีความไม่ปกติในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง
ไม่ว่าจะโรคภัยไข้เจ็บหรือภัยอื่น ๆ ที่จะเป็นผีซ้ำด้ำพลอยอยู่ตลอดเวลา การเงินการคลังมีปัญหา การเมืองยังไม่เรียบร้อยราบรื่น โดยเฉพาะดาวอาทิตย์เป็นอริกับดวงเมือง ทำให้อำนาจรัฐเริ่มสั่นคลอนไม่ลงรอยกันทั้งในสภาและนอกสภา แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ทั้งอำนาจและผลประโยชน์ก็เป็นปัญหาของความขัดแย้ง ดาวพุธก็เป็นอริ การเจรจาทางการเมืองก็ติดขัด การกล่าวหาโจมตีก็รุนแรง เร่าร้อนทั้งภายนอกและภายใน โดยภาพรวมจะกระทบไปทุกภาคส่วนตั้งแต่ระดับล่างยันระดับบนเพราะอิทธิพลของดวงดาวดังที่กล่าวมานั้น ใครจะอยู่รอดได้ต้องถือว่าดวงแข็งมาก ๆ
@โดยเมื่อมีการโฟกัสไปที่ดวงผู้นำอย่าง “นายกฯลุงตู่” โหรวันชัยบอก ว่า ดวงผู้นำสัมพันธ์กับดวงเมือง แต่ดวงเมืองสำคัญกว่าและยิ่งใหญ่กว่าบุคคล แม้ว่าดวงของผู้นำมีดาวพฤหัสคุ้มอยู่ก็ตาม แต่เมื่อดวงเมืองเป็นอย่างที่ว่ามานั้น ตัวเองอาจจะเอาตัวรอดไปได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะประคับประคองรัฐนาวาหรือประเทศชาติ ประชาชน เศรษฐกิจและสังคมไปตลอดรอดฝั่งได้ เพราะราหูกับมฤตยูมันแรงเหลือเกิน และว่า วันที่ 7 ก.ค. 65 เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ มีผลกระทบไปถึงผู้นำและรัฐบาลด้วย จะไปหรือไม่ไปก็เพราะมฤตยู ยิ่งดูตามปฏิทินการเมือง ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2566 การแก้รัฐธรรมนูญห้ามส.ว.โหวตนายกฯ เหล่านี้เป็นทั้งราหูและมฤตยูที่จะเข้ามากระทบต่อนายกฯทั้งสิ้น บอกได้เลยว่าแรงมาก แรงพอๆกับการปฏิวัติเมื่อเดือน พ.ค.2557
@เรียกว่าหากเอามาเทียบเคียงปฏิทินการเมืองและ “ไทม์ไลน์” รวมถึงร่องรอยความขัดแย้งและปรากฎการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวหาทาง “จริยธรรมนักการเมือง” ที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับ “การเมือง” ภาพใหญ่ไล่ตั้งแต่เคสประหารชีวิตการเมือง “เอ๋ ปารีณา” ที่กลายเป็น “บรรทัดฐานใหม่” มาสู่ 80 ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านรัฐบาลและสว.ที่มีคดีการถือครองที่ดิน ลักษณะเดียวกันเป็นชนักปักหลัง ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงสัปดาห์นี้ล่าสุดกับปมร้อนฉ่าเคส “รองหัวหน้าพรรคใหญ่” คนดังที่โดนคดีละเมิดทางเพศนักศึกษาสาว และ ผู้หญิงอีกหลายราย ที่อาจกระทบถึงการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ของพรรค แล้ว มีหลายปรากฎการณ์ที่คุกรุ่นและมีแนวโน้มไปสู่ผลกระทบถึงทิศทางผลลัพธ์ที่จะออกมาหลังสงกรานต์เข้าสู่เดือนพ.ค. ที่มีความเป็น “สัญลักษณ์” ของความรุนแรงและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายครั้ง นับแต่อดีต ไม่น้อยไปกว่าเดือนเม.ย.ที่มีร่องรอย “บาดแผล” ความขัดแย้งระหว่าง “กองทัพ” กับ “ผู้ชุมนุมทางการเมือง” จนถูกนำมาเชื่อมภาพกับข้อเสนอ “คืนอำนาจ” จาก “แกนนำกลุ่มอนุรักษ์นิยม” บางท่านวันก่อน
@ที่หากประเมินแบบคู่ขนานล้อไปกับปัญหา “ความไม่ไว้วางใจภายใน” ของรัฐบาลที่ยังคงมีร่องรอยเหลืออยู่ ตั้งแต่ส่วนบนยันล่างคือตั้งแต่ “ศูนย์อำนาจ3ป.” จนถึงภายในพรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเล็ก จนต้องนัดกินข้าวกระชับมิตร ก่อนหน้านี้ ที่ยังไม่นับรวมปัญหา “พรรคเศรษฐกิจไทย” ที่ “พี่ใหญ่ป้อม” ที่ตอนนี้มีปมเรื่อง “ป้ายป้อม” กับ “น้องเล็ก” หลบดวงเมืองร้อนไปอังกฤษ ให้ “2น้องเลิฟ” “บิ๊กน้อย” และ “ผู้กองนัส” ไปตั้งสาขาแยก ที่ยังคงเป็น “หนามตำใจ” “นายกลุงตู่” หากเมื่อเปิดสภาฯมีการซักฟอกรัฐบาล เพราะยังคงมี “ปัจจัยเสี่ยง” ที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าจาก “ความยังไม่พร้อม” เรื่องกระสุนดินดำเสบียงกรังของทุกฝ่ายโดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่น้อยทำให้อิดเอื้อนกับการจะกลับสู่โหมดเลือกตั้ง ในขณะฝั่งรัฐศูนย์อำนาจเองก็กังวล “เสียงการลงมติ” มากกว่า “เนื้อหา” ทำให้เกิด “ข่าวปล่อย” การ ”เปิดดีล” กับฝ่ายค้านเพื่อไทย เลื่อนยื่นญัตติซักฟอกไปเดือนส.ค.ที่ทุกฝ่ายออกมาปฏิเสธ รวมถึง “หมอชลน่าน” ที่ยืนยันหลังสงกรานต์ “ฝ่ายค้าน” นัด “ทีมเฉพาะกิจ” ประชุม 26 เม.ย.เตรียมเปิดเวทีซักฟอกรัฐบาลก่อนเดือนส.ค.โดยจะไม่ทับซ้อนช่วงศาลรัฐธรรมนูญตีความวาระ 8 ปีของนายกฯ และลุ้นว่าหาก เดือน มิ.ย.กฎหมายลูกเสร็จ ทางจะโล่งมาก
@เรียกว่า แม้จะเป็นเพียงการทำนายผ่านดวงเมือง แต่ก็มีภาพความสอดคล้องในไทม์มิ่งการเมืองช่วงนี้รวมถึงกำหนดการทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังสงกรานต์ยาวถึงการเปิดสภา22พ.ค.ที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติซักฟอก ที่เมื่อยื่นเมื่อใดแล้ว “นายกฯลุงตู่” จะไม่สามารถกดปุ่น “ยุบสภา” ได้ ที่จากจุดนั้นหากมีอะไรทำให้ “ศูนย์อำนาจ” โดยเฉพาะ “นายกฯลุงตู่” ไม่มั่นใจว่าจะโดนสกรัมกลางสภาฯ ก็เริ่มมีบางฝ่ายที่วิเคราะห์ว่าอาจมีคนเสนอ “ทางออกฉุกเฉิน” ขึ้นมาเป็น “อีกทางเลือก” ของสถานการณ์ได้เช่นกัน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews