ไปต่อหรือพอแค่นี้
@เป็นเรื่องให้ “2ป.” ต้องออกมาเคลียร์ให้ชัด อีก เมื่อจู่ๆ ปูดมาจาก “แรมโบ้อีสาน” ที่เคยไปจัดตั้ง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” มีข่าวย้ายกลับเข้าพรรคพลังประชารัฐ แล้ว ออกมาบอกว่า ตัวเองจะอยู่พรรคที่ “นายกฯลุงตู่” อยู่ เลยกลายเป็นประเด็นบานขยายข่าวว่า “นายกฯลุงตู่” จะเป็นสมาชิกพรรค และมานั่งหัวหน้าพรรค พปชร.เองและให้ “หัวหน้าป้อม” ไปนั่ง “ที่ปรึกษาพรรค” ทำเอาคีย์แมนหลายคนทั้งฝั่ง “พี่ใหญ่” “น้องเล็ก” ไม่ว่าจะเป็น “ไพบูลย์” “ชัยวุฒิ” ต้องออกมาเคลียร์คัตข่าวว่าเป็นข่าวไม่จริง โดย “ไพบูลย์” ซัดไปที่ สมาชิกที่เพิ่งกลับมาสมัครเข้าพรรคใหม่บางคน ที่หลายคนมองว่าเป็น “แรมโบ้” พร้อมขู่กรายๆจะตรวจสอบพฤติกรรมการปล่อยข่าวปลุกปั่นทำให้พรรคขาดเสถียรภาพว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนตามจริยธรรมพรรคหรือไม่เพื่อดำเนินการต่อไป
@ในขณะที่ “หัวหน้าป้อม” ที่ยิ้มสู้บอกเพียงไม่รู้ไม่รู้ ไม่บอกว่า “น้องเล็ก” จะเข้า พปชร.หรือมานั่ง “หัวหน้าพรรค” เองมั้ย รวมถึงอนาคตทางการเมืองของ “น้องเล็ก” โดยบอกว่าต้องรอดูว่านายกฯจะว่าไงเพราะยังมีเวลาอีกนานในการตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ส่วน “นายกฯลุงตู่” ที่วันนี้ดูชิลแฮปปี้จากการได้ชิม “ทุเรียนภูเขาไฟ” ออกมาพูดเอง ไม่คิดเข้าไปคุมพรรคพปชร. ขอแค่ประคองรัฐบาลอยู่ครบเทอม ไม่รู้ข่าวมาจากไหนใครปล่อย เพิ่งเห็นข่าวเมื่อเช้า
@เรียกว่ายังหมาดๆจากการออกแรง ใน “ศึกงบประมาณ 66” ที่เพิ่งผ่านสภาฯไปแบบที่เริ่มต้นม้วนมีหวาดเสียวจาก ความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มกบฏผู้กอง” ที่เขย่าต่อมระแวง ด้วยการจัด ดินเนอร์กับพรรคเล็ก และฝ่ายค้าน ขู่แรงว่าจะ “เผด็จศึก” “นายกฯลุงตู่” เสียตั้งแต่ด่านแรก ด้วยการโหวตคว่ำร่างพรบ.งบประมาณ เพื่อส่งผลกระทบ ให้นายกฯต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภาฯ แต่ที่สุดผลเป็นไปตามคาด คือสภาผ่านร่างงบประมาณ ด้วยเสียงพรึ่บพรั่บ โดยมี “งูเห่า” มากกว่า 10 ตัวยกมือช่วย ในขณะที่ “ผู้กองนัส” ได้โควต้ากรรมาธิการงบฯตามต้องการ ที่กลายเป็นผลงานระหว่าง “พี่ใหญ่” ที่ประกาศไว้ว่า “เอาอยู่” และ “หัวหน้าหนู” ที่เคยรับปากไว้ว่ามีตัวเลขส.ส.ในมือที่จะประคอง “นายกฯลุงตู่” ไปจนจบเทอม จนได้ฉายา “เจ้าของฟาร์มงู” ไป ที่ทำให้บรรยากาศรัฐบาลโดยเฉพาะบรรดาแกนนำดูชื่นมื่นเมื่อวาน (6 มิ.ย.) ทำให้ข่าวที่มาจากการการผิดจังหวะของคนกันเองไม่บานต่อไปกระทบสถานีถัดไปที่ยังมี “ศึกซักฟอกรัฐบาล”ที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติวันที่ 15 มิ.ย. และเปิดศึกช่วงต้นเดือนก.ค.ก่อนที่ กลางเดือน ส.ค.จะครบ 2 สมัย 8 ปี “นายกฯลุงตู่” ที่จะมีคนไปยื่นตีความ ในขณะที่ “รัฐบาลลุงตู่” เหลือเวลา 9 เดือน จะครบวาระวันที่ 22 มี.ค. 2566
@ที่ทั้งหมดเป็นไปอย่างที่ “บิ๊กป้อม” ว่า คือ ยังพอมีเวลาที่ “นายกฯลุงตู่” จะตัดสินใจว่าจะ “ไปต่อ หรือ พอแค่นี้” โดยเฉพาะกับ “โจทย์ใหม่” และ “ตัวแปรใหม่” ที่ต้องพิจารณา ผ่านปรากฎการณ์ การเลือกตั้ง “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” ที่คนกรุงเทพฯ ที่ในทางการเมืองถูกมองว่าเป็นเทรนท์ชี้นำกระแสให้กับคนต่างจังหวัดในทางการเมือง มีการเลือก “ชัชชาติ” แบบแลนด์สไลด์ 1.3 ล้านคะแนน มาบริหาร นายกฯ และการเข้ามาทำงานและบุคลิกการประสานรวมถึงความตั้งใจ ของ “ชัชชาติ” ที่ชูการมีส่วนร่วมและผลประโยชน์ ของ “ประชาชน” เป็นตัวตั้ง กลายเป็นกระแส “ฟีเวอร์” ที่กำลังลามไปถึงกระแส “การเลือกตั้งผู้ว่า” และกระแสการเปรียบเทียบกับ “นายกฯลุงตู่” ที่อยู่มา 8 ปี ที่กำลังถูกประเมินร่วมกับ “นักการเมือง” ที่สนับสนุน รวมถึง ที่ยังคจงมีภาพการต่อรองประโยชน์อย่างที่เกิดขึ้นผ่านศึกงบประมาณที่ผ่านมา จนระยะเริ่มมีกระแสต้านและจับผิด “ชัชชาติ” จาก “ฝ่ายเรา” ที่เคยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ในหลายภาคที่ผ่านมา.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
