ผู้คนยังคงจับอาการพี่น้อง 2ป. “พี่ป้อม” “น้องตู่” นับแต่ ป.น้องเล็ก “บิ๊กตู่” ถูกสั่งพักงานการเป็นนายกฯและ “ป.พี่ใหญ่” “บิ๊กป้อม” เป็น “นายกรักษาการ” มาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.
โดยเฉพาะวันนี้ (30ส.ค.) ที่มีการประชุมครม.วันแรก ที่หะแรกมีรายงานว่า “ลุงตู่” จะเข้าทำเนียบฯครั้งแรกเพื่อร่วมประชุมครม.ในฐานะรมว.กลาโหม นับจากที่ไม่ได้เข้ามาตั้งแต่ก่อนวันศาลรธน.วินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อรอการวินิจฉัยปม “นายกฯ8ปี”
โดยศาลให้ส่งคำชี้แจง ใน15วัน ที่ยังคงปรากฏร่องรอยความค้างคาในอารมณ์อยู่บ้างระหว่าง “นายกฯ2ป.พี่น้อง” โดยเฉพาะจาก “นายกฯน้อง” “บิ๊กตู่” ที่ตกลงไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมครม.ที่ทำเนียบฯแบบตัวเป็นๆ หากแต่ประชุมผ่าน ระบบวิดีโอเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ จากกลาโหม แทนและไม่ได้มีการแสดงความเห็นอะไรในที่ประชุมเพราะไม่มีวาระของกลาโหมเข้าพิจารณา
ในขณะที่ “นายกฯพี่” “บิ๊กป้อม” ที่ รักษาการนายกฯ แทน น้อง ยังคงโชว์เหนือทั้ง การบริหารจัดการที่ไม่ไปแตะขยับรื้อย้ายของๆ น้องและสิ่งที่ “นายกฯน้อง” วางไว้ไม่ว่าจะการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเมื่อวานหรือการไปประชุมวาระสำคัญต่างประเทศในฐานะ “นายกฯรักษาการ” ที่มีรายงาน ว่า “บิ๊กตู่” ได้ ยกเลิกไป New York สหรัฐฯ
โดยมอบให้ “รมต.ดอน” ประชุม สมัชชาUNGA แทน แม้กระทั่ง “ที่นั่ง “หัวโต๊ะ” วงประชุมครม.ก็ไม่ไปนั่งทับที่ทับทาง ยังคงนั่งเก้าอี้ “รองนายกฯ” เช่นเดิม โดย เว้นว่างที่นั่งนายกฯไว้ที่ถือเป็นการ “ให้เกียรติ” “บิ๊กตู่” ที่ยังเป็นนายกฯอยู่ระหว่างถูกศาลรธน.ให้พักงาน ไม่นับการประสาน “ผู้ว่าชัชชาติ” กับกำลังกองทัพ เตรียมการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯวันก่อน
เรียกว่าด้านหนึ่งนอกจากมีการอ่านอาการยังกรุ่นๆ จากการไม่มาทำเนียบฯที่ต้องเจอทั้งสื่อและทั้งรมต.ในครม.โดยเฉพาะกับ “นายกฯป้อมรักษาการ” ยัง เริ่มถูกมองเทียบฟอร์มระหว่าง “2นายกฯ” ยามนี้ ที่แม้ลึกๆ หลายฝ่าย
ยังเชื่อว่า เอาเข้าจริง พี่น้อง3ป.อยู่กันมา 50 ปี ไม่ถึงขนาดตัดขาดกันได้ แต่ด้วยภารกิจสำคัญข้างหน้าที่เข้าโหมดการเมืองเต็มรูปแบบ จำต้องไปในทิศทางเดียวกันที่ถูกวางจาก “พี่ใหญ่” ที่ชั่วโมงบินทางการเมืองสูงกว่าน้องๆ ที่อาจมีบ้างที่ทำให้ต้องผลัดกันงอนผลัดกันง้อในบางจังหวะที่เกิดอาการเซอร์ไพรส์ของผลลัพธ์ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการหักกันซึ่งหน้า
แม้กระทั่งปรากฏการณ์ “พักงาน” จากปมตีความ “นายกฯ8ปี” ที่ไหลมาสู่ปม “อำนาจ” ของ “นายกฯป้อมรักษาการ” ที่ถูกเชื่อมโยงไปถึงข่าวการปรับครม.และข่าวลือการยุบสภาหลายวันก่อน ที่มีการผูกโยงไปถึงประเด็น “สุญญากาศ” ที่เชื่อมกับ 2 พรป.ทั้ง พรป.พรรคการเมือง
และ พปร.เลือกตั้งส.ส.ที่วันนี้มีการยื่นตีความจากฝั่งสว.และฝั่งส.ส.โดยพรรคร่วมรัฐบาล กระทั่งวันนี้ (30ส.ค.) มีรายงาน ครม.เห็นชอบให้แก้ไขคำสั่งนายกรัฐมนตรี 237/2563เพิ่มอำนาจ “รักษาการนายกฯ” มีอำนาจ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและ อนุมัติ งบประมาณ ได้
โดย “อ.วิษณุ” บอกว่า ครม.เห็นชอบ แก้คำสั่งสำนักนายกฯ ให้อำนาจ “บิ๊กป้อม” แต่งตั้ง-ใช้งบ โดยไม่ต้องปรึกษา “บิ๊กตู่” ไม่มีสุญญากาศในการบริหารประเทศ ยืนยัน ครม.อำนาจเต็ม ไม่ใช่ ครม.รักษาการ คนรักษาการนายกฯ มีคนเดียวคือพล.อ.ประวิตร ตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน
โดยวันนี้มีการเสนอคำสั่งสำนักนายกฯปรับปรุงคำสั่งดังกล่าว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่” บิ๊กป้อม” เมื่อรักษาการแล้ว หากมีการแต่งตั้งโยกย้าย หรือมีเรื่องงบประมาณจะต้องไปปรึกษา “บิ๊กตู่” นายกฯ ที่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องแก้คำสั่งตัดประโยคนี้ออกไปเพื่อให้มีอำนาจเต็มและมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 สิงหาคม”
เรียกว่าแม้จะถูกมองว่าเป็นปกติกับปมอำนาจ “รักษาการนายกฯ” ดังกล่าว แต่ร่องรอยกระเพื่อมก่อนหน้านี้จากบางฝ่าย ก็ถูกมองว่า เพราะความกังวลถึงการเข้ามาขยับรื้อโผแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยเฉพาะตำรวจ-ทหารที่อยู่ในฤดูโยกย้ายพอดี ที่ “นายกฯป้อม” ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ไปแตะจากโผตำรวจเมื่อวาน (29ส.ค.) ที่เหลือจึงเป็มโหมดการเมืองกับการปรับครม.ที่ทยอยว่างลงจากเดิมที่ว่างอยู่แล้ว2ที่นั่งจาก “ผู้กองนัส” และ “อ.แหม่ม”
ที่หลายฝ่ายจับตาแรงกระเพื่อมจากทั้งในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคร่วมรัฐบาล ที่เริ่มเห็น หลัง การเป็น “นายกฯป้อม” ที่ทำให้ คน พปชร. คึกคักอย่างที่เห็นนายกฯป้อมเนื้อหอม ถูก รายล้อม ด้วยรมต. พรรคพลังประชารัฐไม่ว่าจะเป็น “สุชาติ-ชัยวุฒิ-อธิรัฐ” หลังประชุม ครม. เสร็จ โดยทั้งหมดถูกโยงภาพถึงแนวโน้มบางอย่างกับการหยุดยาวหรืออยู่ยาวของ “2นายกฯ” ด้วย.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
