30ก.ย.-รอดไม่รอด
@เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงกำหนดนัดชี้ชะตา “ปม8ปีนายกฯลุงตู่” 30ก.ย.บ่าย3 ที่ ศาลรัฐธรรมนูญ จะอ่านคำวินิจฉัย ว่า “นายกฯลุงตู่” จะได้ไปต่อ หรือ พอแค่นี้ ในท่ามกลางการ “จับสัญญาณการเมือง” จากทุกฝ่าย กับการวิเคราะห์ ใน3 คำตอบ ที่ บรรดา “ฝ่ายกองหนุนลุงตู่” ชี้ไปในใน “คำตอบ” ที่ 2 และ 3 คือ เริ่มนับปีการเป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 60 และ 62 ในขณะที่ “ฝ่ายกองแช่ง” ชี้ไปในคำตอบที่ 1 คือ นับตั้งแต่ปี57 จบที่24ส.ค.ที่ผ่านมา
@อย่างที่ “อ.สมชัย” โพสต์FBชี้ข้อโต้แย้งจากเหตุผลที่มาในแนวการชี้แจงของฝั่งผู้ถูกร้อง “นายกลุงตู่” ว่า ทุกเหตุผลที่ให้ลุงตู่อยู่ต่อ มีมุมให้โต้แย้ง ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่ว่า รัฐธรรมนูญ ประกาศใช้ 6 เม.ย.60 ต้องเริ่มนับจากนั้น ไม่สามารถนับก่อนหน้านั้น มุมโต้แย้งพบว่า มีหลายกรณีที่วินิจฉัย เป็นเรื่องย้อนก่อนหน้า ปี 60 2. การนับ 8 ปี ของนายกฯต้องนับจาก ตำแหน่งนายกฯหลังการเลือกตั้งครั้งแรกตาม รธน. ที่มาจากการลงมติของสภา คือ เริ่มนับจาก 9 มิ.ย.62 การลงมติก่อนหน้านั้น เป็นการลงมติโดย สภานิติบัญญัติ มุมโต้แย้ง หากยึดหลักว่า ต้องเป็นการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร การลงมติในปี 2562 และ2566 ในอนาคต ก็ยังไม่ใช่สภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นการลงมติของรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จึงไม่อาจอ้างสภาที่ลงมติ แต่ต้องดูที่ชื่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะมาจากสภาใดก็ตาม
@3. คำชี้แจงของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ระบุว่าต้องนับจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ เมื่อ 6 เมษายน 2560มุมโต้แย้ง ในบันทึกรายงานการประชุม ครั้งที่ 500 และ มีการรับรอง ยืนยันว่า ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนายมีชัย และ รองประธาน นายสุพจน์ ไข่มุกข์ อธิบายหมายความรวมนายกรัฐมนตรีก่อนหน้า ปี 2560 ด้วย เอกสารบันทึกการประชุมที่รับรองแล้ว ย่อมมีน้ำหนักมากกว่า คำชี้แจงด้วยเอกสารส่วนบุคคลภายหลัง 4. บันทึก 500 ที่ระบุว่า ให้นับรวมนายกรัฐมนตรีทุกคนก่อนหน้าปี 2560 นั้น ไม่อาจเป็นหลักฐาน ต้องดูเอกสารเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มุมโต้แย้ง ยิ่งดูเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ยิ่งชัดเจน เพราะระบุว่าเพื่อป้องกันมิให้อยู่ในอำนาจยาวนานเกินไป อันจะนำไปสู่วิกฤตของบ้านเมือง ยิ่งชัดเจนว่า การดำรงตำแหน่งทางพฤตินัยนั้น 8 ปีแล้ว ไม่ต้องหาเรื่องแถทางนิตินัยว่าตีความเป็นอื่นได้
@เรียกว่าในทางเหตุและผลทางนิติกฎหมาย แม้ ทุกฝ่าย มั่นใจในการตีความฝ่ายตน แต่ก็ต้องจับตารอ ว่าผลวินิจฉัยจะออกมาในท่วงทำนองใด “ลุงตู่” จะ “รอด-ไม่รอด” รอดเพราะอะไร ไม่รอดเพราะอะไร ส่วนจะสมใจหรือขัดใจใคร ในทางกายภาพย่อมสะท้อนผ่าน “ม็อบไล่ลุง” หลายคณะ ทั้ง“ม็อบหลอมรวม” และ “ม็อบเด็ก” ที่ “อุ่นเครื่อง” รอบนถนนแล้ว ไม่นับรวมถึง “ม็อบหนุน” ,” ม็อบเหมือนหนุน” ที่ “ฝ่ายความมั่นคง” เคยประเมินว่าอาจมีมาบ้าง ที่มียังไม่ปรากฏตัว และ ปรากฏตัว แล้ว อย่าง “ม็อบอยากกอดลุงป้อม” ที่เมื่อวาน “นายกฯป้อม” เพิ่งโชว์เหนือ “นายกฯน้อง” เปิดทำเนียบให้เข้าไปพูดคุยกับนายกฯแบบพร้อมรับฟังปัญหา ที่ต่างจากยุค “นายกฯน้อง” โดย ม็อบนี้ ยังคงปักหลักข้างทำเนียบฯต่อ แม้ในวันพรุ่งนี้ “นายกฯลุงตู่” จะนั่งทำงานลุ้นผลที่กระทรวงกลาโหม โดย “นายกฯลุงป้อม” ออกตัวว่า รัฐบาลไม่ได้มีการจัดม็อบมาเพื่อกันม็อบไล่ลุง และ พรุ่งนี้ (30ก.ย.) ไม่น่ามีอะไรน่าห่วงรวมถึงจะไม่เกิดปัญหา “ม็อบชนม็อบ”
@กระนั้นก็น่าสนใจ ที่ “อ.สุขุม” วิเคราะห์สถานการณ์พรุ่งนี้ ทั้งโหมดม็อบ และ โหมดการเมืองการรอดไม่รอด ไปต่อไม่ไปต่อของ “ลุงตู่” ที่ว่า ม็อบอาจจุดติดแต่ไม่มากถึงขนาดเกิดการเปลียนแปลง เพราะอารมณ์ตอนนี้หลัง กกต.ประกาศวันเลือกตั้ง7พ.ค. ทั้งฝ่ายการเมือง ประชาชน มองข้ามช็อต ว่า ใกล้เลือกตั้งใหม่แล้วควรใช้วิธีทางสันติให้การเลือกตั้งเป็นการเปลี่ยนแปลง และมองว่า “ฝ่ายการเมือง” ฝ่ายค้าน และ คู่แข่งกับ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในสนามศึกเลือกตั้ง อยากให้ “ลุงตู่” รอดกลับมาอยู่ต่อ เพราะ พปชร.จะระส่ำระสายจากการรอดของ “บิ๊กตู่” ยิ่งหากคำวินิจฉัยออกมาทำนองไปต่อโดยไม่บอกว่าอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ยิ่งทำให้ พปชร.ยิ่งแตกแยกยิ่งมีการต่อสู้ เพราะจะเกิดความขัดแย้งโดยธรรมชาติ “นายกฯลุงตู่” ไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว ที่น่าสนใจคือนอกจาก “กองแช่ง” นอกกระดานการเมืองจากม็อบ ที่ไม่อยากให้ “ลุงตู่รอด” แล้ว ยังมี “คนกันเอง” อย่าง “กองเชียร์นายกฯป้อม” ที่ก็ไม่อยากให้ “ลุงตู่” รอด ดังนั้นจึงมีการอยากให้คา “ลุงตู่” ไว้
@โดย “อ.สุขุม” ยังมองว่า -และแม้ หากผล “ลุงตู่” ไม่ได้อยู่ต่อ ถึงแม้จะพ้นแล้ว ก็เชื่อว่า ยังสู้ต่อ ซึ่ง พปชร.ก็อาจจะ ปั่นป่วน โดยที่ “ลุงตู่” สู้ เพราะไม่อยากให้ “บิ๊กป้อม” เป็น เพราะถือว่า แพ้ แม้จะมีบางฝ่ายมองว่า “พี่ใหญ่” มาช่วยระวังหลังให้ลงจากหลังเสือ แต่ “ลุงตู่” อาจไม่คิดเช่นนั้น และว่า เผลอๆ ทุเรียน อาจ จะหล่นใส่ “อนุทิน” ที่พอรับปั๊บ พอหลัง เอเปค เสร็จ ก็ ประกาศยุบสภา เพียงเพื่อให้ “บิ๊กตู่” ชนะ เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า มันเป็นการต่อสู้ ระหว่าง “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กตู่” โดย พลังหนุน ของทั้งสองฝ่าย.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews