จังหวะวันสุกดิบก่อนวันเปิดศึกซักฟอกพรุ่งนี้ 16-19 ก.พ. 4 วันเต้ม วันนี้ “ลุง” ที่มอนิเตอร์สถานการณ์แบบระวังปัจจัยแทรกซ้อนนอกสภาฯ ก่อนพรุ่งนี้ ย้อนถาม“นักข่าว”เลยว่า“แล้วใครเป็นคนทำให้รุนแรง ล่ะ เมื่อถูกถามถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุม” “ม็อบราษฎร”ที่เกิดความรุนแรงปะทะกันระหว่างการ์ดและตำรวจ มีผู้ไดรับบาดเจ็บทั้งฝั่งตำรวจและม็อบ แถมมีประเด็นดราม่าให้ทางตำรวจต้องรีบเคลียร์ ทั้งปมการใช้อาวุธปืนและปมถูกกล่าวหาว่าทำร้ายเจ้าหน้าที่แพทย์อาสาในช่วงชุลมุน หลังม็อบสลายแยกย้ายกลับช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา โดย“ลุง”ที่น่าจะมีหลัฐานคลิปที่ฝั่งตำรวจรายงานมาแล้วอยู่ในมือถามเลยว่าใครทำให้รุนแรง ยืนยันให้มีการยึดตามกฎหมายรับการชุมนุม ส่วนที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นนั้นให้ไปดูว่า ทำไมถึงรุนแรงขึ้นใครเป็นคนทำให้มันรุนแรงขึ้น เมื่อถามว่าห่วงมั้ย“ลุง”บอกว่าคนไทยห่วงมั้ยล่ะ
เรียกว่านอกจากวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา“3ลุง”จะไม่ประมาทกับ “ศึกอภิปราย” 10รัฐมนตรีที่“ลุง”รวมอยู่ในนั้นด้วย โดย“วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปจัด“เวิร์คช็อป”ที่โรงแรมหรูกลางกรุง“ติวเข้ม”9 รัฐมนตรี ไล่ตั้งแต่“2ลุง” “ป้อม-ป๊อก”ลงไปยกเว้น“ลุงทำเนียบฯ”ที่แม้เจอกล่าวหาในญัตติแบบแรงๆ แต่ก็ยังชิลๆ เพื่อ“เก็งข้อสอบ”และซักซ้อมการรับมือในสภาแล้ว ขณะด้านนอกห้องประชุมแม้จะเป็นช่วงวันตรุษจีนและวันแห่งความรัก“วาเลนไทน์”ที่ไม่คึกคักในการจับจ่ายเพราะพิษเศรษฐกิจ “โควิด” แต่กลับ“ร้อนแรง”เร้าไปด้วยบรรยากาศของ “ม็อบราษฎร” ที่ตั้งเป้า“2ล้านคน” ชุมนุมบนถนน “ไล่ลุง” โดยชิมลางล้อกระแส “ม็อบเมียนม่า” ไล่“มิน อ่อง หล่าย”มาสู่ การเรียกร้องกดดันให้มีการปล่อยตัว “4แกนนำ” ทั้ง“ทนายอานนท์-เพนกวิน-สมยศ และ หมอลำแบงค์”ที่ถูกส่งฟ้องคดีความผิดตาม กฎหมายอาญา ม.112 ที่เป็นการ “ขยายภาพ” เชิง “รูปธรรม” อย่างมี “นัยยะสำคัญ” จาก 3 ข้อเรียกร้องเดิมที่ให้“ลุง”ออกแก้รัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบันฯ
ที่วันก่อน “พรรคก้าวไกล” ไปยื่นแก้ไขมาตรานี้ ..และวันนี้ (15ก.พ. )ยังมี 255 อาจารย์ 31 สถาบัน นำโดย ผศ.ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ไปยื่นหนังสือ และอ่านแถลงหน้าเรือนจำ เรียกร้องคืนสิทธิประกันตัว 4 แกนนำราษฎรไม่นับรวมก่อนหน้านี้ มีขยายประเด็นมาจาก รมว.ต่างประเทศ ถึงข่าว “เจ ซัลลิแวน” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของ “โจ ไบเดน” ปธน.สหรัฐแสดงความกังวัลผ่านฝ่ายความมั่นคงของไทยในการจับกุมผู้ประท้วงในข้อหาตาม ม.112
น่าสนใจว่านอกจาก“ศึกซักฟอก”หนนี้ที่แน่นอนว่า“ฝ่ายค้าน”พุ่งเป้าไปที่“ลุง”แล้ว ยังถูกวิเคราห์ผ่านความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ว่า ยังมีร่องรอยของปม“รักซ้อนซ่อนมีด”อยู่ทั้งภายในของ“พรรคพลังประชารัฐ เอง และทั้งระหว่าง“พรรคร่วมรัฐบาล”ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย กับพรรคหลัก พปชร. ที่น่าจะเป็นประเด็นที่จะเห็นใน“ปลายทาง”จากคะแนนการลงมติ “ไว้วางใจ” ของ“คนกันเอง”ที่จะถือเป็น “คะแนนสอบปลายภาค” ของ“รัฐมนตรี”หาก“ลุง”จะมีการ“เขย่าขวด”ปรับครม. ตามคำแนะนำของ“โหรวารินทร์”ที่ไม่รู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนทรงผมของ “ลุง”ในหนล่าสุด แค่ไหน
เรียกว่าจากวันพรุ่งนี้(16ก.พ.) หากประเด็นที่“ไพบูลย์ นิติตะวัน”มือหนึ่งที่เคยสกัดการแก้รัฐธรรมนูญมาแล้ว เสนอให้สภาฯส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ญัตติซักฟอกขัดรัฐธรรมนูญ ดังที่รองประธานท่านหนึ่งบอกว่ามีประเด็นเข้าองค์ประกอบไม่ถูกดึงมาพิจารณาก่อนเข้า“วาระซักฟอก” นอกจากจะได้เห็นและพิสูจน์ทราบ“ฝ่ายค้าน”แก้ตัวในการทำหน้าที่“ตรวจสอบซักฟอก” “ลุง”และคณะหนนี้แล้ว ด้านหนึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า“3ลุง”น่าจะมั่นใจว่า“เอาอยู่”กับสภาพศึกในนอกที่ซ้อนทับ “ม็อบเด็ก”และแรงกดดันจากภายนอกแบบคู่ขนาน ที่จะมีการประทุผ่านเวทีในสภาโดยเฉพาะในจังหวะ“ฟอกลุง”ที่มี“ข้อกล่าวหาแรง”ที่ว่ากันว่าจะถูกเชื่อมโยงประเด็นที่กำลังเกิดขึ้นบนถนนด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
