พรรคพี่คึก-พรรคน้องพอแล้ว
@จังหวะ คู่ขนาน ความเคลื่อนไหวในทางการเมืองของ “พี่น้อง2ป.” กับทิศทางการสร้างดาวคนละดวง กับ พรรคพี่ และ พรรคน้อง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่วันนี้ (6 ธ.ค.) “นายกฯลุงตู่” ยอมออกมาเปิดปากพูดชัดๆถึง “อนาคตการเมือง” เป็นครั้งแรก ว่าจะ “ไปต่อแค่ 2 ปี” ตามที่ ศาลรัฐธรรมนูญ “ติดสลากหมดอายุ” คือเป็นนายกฯครบ 8 ปีในปี 2568 โดยยืนยันว่าจะไปต่อ แม้จะไปได้แค่ ปี 2568 ก็จะทำต่อ และจะทำให้ดีที่สุด แม้แค่ 2 ปี และ ไม่ปฏิเสธ จะไป “พรรครวมไทยสร้างชาติ” (รทสช.) โดยบอก “ก็เหลือแค่ ตนยังไม่ได้พูด เท่านั้นเอง” แต่ ถึงวันนี้ ก็น่าจะพอรู้มั้ง โดย ตั้งเป้าการทำงานของตัวเองต่อไปแม้ ทำได้แค่ ปี 68 แต่ ก็จะทำให้ดีที่สุด โดยอาจหาคนที่เหมาะสม และเป็นที่ยอมรับ มาทำต่อ หลังจากที่ก่อนหน้ามีการ “ปรับครม.คนละครึ่ง” ระหว่าง 2ป. ที่ถือเป็น “ช็อต” ในการวาง “มือดี” ที่ไว้ใจได้ที่จะตามไป “พรรคน้อง” “รวมไทยสร้างชาติ” (รทสช.) เข้ามาร่วม ไม่นับรวมข่าว “ตกปลาในบ่อพี่และบ่อเพื่อน” ที่มีมาก่อนหน้า ท่ามกลางการลุ้นว่า “พรรคพี่” พปชร.จะเหลือปลาใหญ่น้อยแค่ไหน ยิ่ง 2 วันก่อน “วีระกร คำประกอบ” ออกมายอมรับว่าจะมีกลุ่มกทม.ไหลออกจากพปชร.ไปรทสช.และเปิดไต๋ “ลุงตู่” ที่จะไป รทสช.ทำนองจะดึงเช็งการยุบสภาไปมี.ค.เพื่อดูดส.ส.เข้าพรรคจนมั่นใจว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 5% 25 คนเพื่อเสนอแคนดิเดตนายกฯได้
@โดย “คู่ขนาน” กันวันนี้ (6 ธ.ค.) “พรรคพี่” พปชร.กลับมีความเคลื่อนไหวที่ทุกฝ่ายจับตาความคึกคักกับการเปิดตัว “บิ๊กเนมการเมือง” หลายคน ไม่ว่าจะเป็น “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ” ที่มาช่วยนำทีมเศรษฐกิจที่ พปชร.ไม่เห็นตัว แถม เป็นหนึ่งในว่าที่แคนดิเดตนายกฯโทนเศรษฐกิจ หรือจะเป็น “นิพิษฎ์” และ “อันวา” ที่ไปปรากฎตัวแต่ไม่ได้มีการร่วมแถลงข่าวเปิดตัว ท่ามกลางภาพทิศทางผ่านภาษากายของ “กลุ่มสามมิตร” ของ “สมศักดิ์-สุริยะ” ที่เคยถูกจับตาว่ามักแทงหวยถูก เลือกข้างการเมือง ที่ชนะศึกเลือกตั้ง ว่า จะเลือกไปกับน้อง หรือ อยู่กับพี่ ที่ออกมาในทิศทางหลัง ภายใต้การถูกบิ๊วจาก “ลุงป้อม” ด้วยบรรยากาศความคึกคักการไหลเข้าของผู้คนที่ พปชร.ที่ “ลุงป้อม” จัดใหญ่จัดเต็ม เหมือนโชว์ภาพเปรียบเทียบ กับ “พรรคน้อง” ที่เริ่มเงียบกริ๊บลงเรื่อยๆ มีเพียงตัวละครเดิมกลุ่มใกล้ชิดกปปส. ที่มีธีมและจุดยืนการเมืองชัดเจนว่าไม่เอาการเมืองขั้วตรงข้ามอย่างฝ่ายค้านเพื่อไทยที่วันนี้ “อุ๊งอิ๊ง” ยังคงออกมาปั่นเรตติ้ง
@ที่ภาพเปรียบ “พรรคพี่-พรรคน้อง” จังหวะนี้ ถูกมองว่าน่าจะนำมาซึ่งการต้องออกมาพูดชัดๆของ “ลุงตู่” ต่ออนาคตการเมือง ที่ด้านหนึ่งเหมือนเป็นการ สยบข่าวลือความต้องการ “อยู่ยาว” มากกว่าปี 68 ให้สมกับการอุตสาห์แยกวงไปตั้งพรรค รทสช.ไม่นับรวมข่าวลือหาก “ลุงตู่” ได้กลับมาอาจมีการแก้ปม “นายกฯ 8 ปี” ในรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เคยมีการวิเคราะห์กันถึง สูตร “นายกฯคนละครึ่ง” ที่ครึ่งแรกเป็น “ลุงตู่” ส่วนครึ่งหลัง จะเป็น “ลุงป้อม” หรือหัวหน้าหนู” ที่ก็น่าสนใจกับกระแสข่าวทิศทางที่ออกมาจากฝั่ง “ลุงป้อม” ถึงทาทีการเมืองของ “อนุทิน” ที่ระยะหลังมีการเปรยดังพร้อมเป็นนายกฯหากมีเสียงมากในสภาฯแถมบอกทำนองถ้าภูมิใจไทยมีส.ส.มากกว่ารทสช. “อนุทิน” จะเป็นนายกฯ พรรคที่มีเสียงน้อยกว่าก็เอา “รองนายกฯ” ไป ที่ถูกมองเท่ากับไม่รับเงื่อนไข “นายกฯคนละครึ่ง” เช่นเดียวกับ “ลุงป้อม” และก็น่าคิดตามที่ “อดีตกุนซือรองนายกฯ” ไพศาล วิเคราะห์ อนาคตทางการเมืองของ “ลุงตู่” ต้องฝ่าด่าน 2 ด่านสำคัญคือ รทสช.ต้องได้ส.ส. 5% และต้องได้ส.ส.มากกว่า พรรค ภท.และให้จับตา ก่อนครบกำหนดเวลา ส.ส.ย้ายพรรค หากฝ่า 2 ด่านไม่ได้อาจมีการประกาศเหมือนที่ “ป๋าเปรม” เคยประกาศว่า “ผมพอแล้ว” หรือไม่.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews