“ลุงตู่ 3 นิ้ว” ได้(เอา)เปรียบ?
@โดนอีกจนได้ในจังหวะใกล้ยุบสภาอีกไม่กี่วันข้างหน้า สำหรับทริปปั่นเรตติ้งที่ จ.เชียงใหม่วันนี้
ซึ่งในทางการเมืองถือเป็นถิ่นเสื้อแดงเดิม โดยหนนี้มาแบบ “ลุงตู่” ไม่ทันรู้ตัว ถูกสาวสูงวัย 3 นิ้ว บุกประชิด มอบดอกไม้แห้งให้บูชาครูบาศรีวิชัย โดยหญิงดังกล่าว เป็นแม่บ้านหอพักในจ.เชียงใหม่ ชื่อ “นางวันดี” เป็นคนจ.พิจิตร ซึ่งตีเนียน ปะปนมากับคณะที่ต้อนรับนายกฯ ตะโกนเรียกลุงตู่
ว่า “นายกฯคะให้ดอกไม้ค่ะ” ซึ่งลุงตู่ก็ยิ้มรับตอบว่า จ๊ะๆ และหันกลับมารับดอกไม้ ซึ่งเป็นดอกไม้แห้งสีเหลือง พร้อมธูปเทียนอยู่ในกรวยใบตองแห้ง 2 กรวย ซึ่งลุงตู่บอกเป็นภาษาเหนือว่า”ดอกไม้มงคลเน้อ” แต่ถูก นางวันดี ถามสวนว่า “จะยุบสภาเมื่อไหร่” ทำให้ลุงตู่อึ้ง
ก่อนหันมามองด้วยหางตาและว่า”เดี๋ยวก็รอฟังแล้วกัน จะทำไมเหรอ มีอะไรไหมล่ะ ถึงอยากรู้ เดี๋ยวถึงเวลาเองแหละ เอาที่มันอยู่กันก่อนนะ”จากนั้นจึงหันไปถ่ายภาพร่วมกับคนที่มาให้การต้อนรับด้วยสีหน้าตึงๆ ก่อนเดินไปขึ้นรถทันที
@ที่แน่นอนหลังจากนั้นนักข่าวไปถาม “นางวันดี”ที่ชู 3 นิ้ว กล่าวกับนักข่าวว่า “มันไม่ไหวแล้ว ลูกหลานก็ไม่มีงานทำภาวะเศรษฐกิจก็แย่ อะไรก็ขึ้น แต่ค่าแรงไม่ขึ้น ก็สุดๆ มันไม่ไหวแล้ว ประเทศเรามันต้องเปลี่ยนนายกฯแล้ว 8 ปีแล้วจึงอยากรู้ว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ และจะเลือกตั้งวันไหน
และว่า ไม่กลัวว่าเจ้าหน้าที่จะมาควบคุมตัว ขอเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวนายกฯ รวมถึงต้องการให้ปล่อยเด็กที่ถูกคุมขังคดีการเมือง ซึ่งดอกไม้ต้องการมอบให้ทั้งลุงตู่ และบิ๊กป๊อก โดยกรวยดอกไม้แห้งทั้ง 2 อัน หรือที่ภาคเหนือเรียกว่า “สวยดอก” ดอกไม้แห้ง
หมายถึงความเหี่ยวเฉาความเสียหายของประเทศ 8 ปี ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ นางวันดี เคยออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้ เมื่อครั้ง ลุงตู่เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ปีที่แล้วด้วย
@เรียกว่าเป็นอีกครั้งของการลงพื้นที่ที่ “ลุงตู่” เผชิญหน้ากับผู้เห็นต่าง หลังจากที่เจอหญิงสูงวัย ชู 3 นิ้ว ตะโกนต่อว่าที่จ.ราชบุรี ที่ถูกวิจารณ์ต่อมา ถึงการเข้าจับกุมดำเนินคดี “ผู้เห็นต่าง” ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทำให้ครั้งนี้ที่จ.เชียงใหม่แม้มีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลและมีการเข้ามาเคลียร์พื้นที่ไว้แล้ว เมื่อมีการหลุดปะปนจนประชิดตัว“ลุงตู่” ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปทำอะไรรุนแรง มีเพียงยืนประกบระหว่างการให้สัมภาษณ์นักข่าวและชู 3 นิ้วรวมถึงตลอดเส้นทางเดินทางของ
“ลุงตู่”ที่ถือเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย และ ก้าวไกล ก็ไม่มีการขึ้นป้ายต้อนรับลุงตู่หรือป้ายหาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เป็นจังหวะเดียวกันที่วันนี้ “อ.สมชัย”ไปยื่นร้องให้กกต.ตรวจสอบกรณี การลงพื้นที่ตรวจราชการของลุงตู่
ในฐานะสมาชิกพรรครทสช.แถมเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ที่รทสช.จะเสนอมีการใช้ทรัพยากรหลวงแฝงการหาเสียงเลือกตั้งที่ถือเป็นการเอาเปรียบพรรคอื่น ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
@โดย “อ.สมชัย”ให้สัมภาษณ์หลังยื่นร้องกกต.ว่า ได้รวบรวมข้อมูลตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 65 ที่ ลุงตู่ ตั้ง “หัวหน้าตุ๋ย พีรพันธ์”เป็น เลขาธิการนายกฯจนถึงปัจจุบัน ที่อีกหมวกเป็นหัวหน้าพรรค รทสช. ซึ่งเลขานายกฯ เป็นคน จัดตารางลงพื้นที่ของนายกฯซึ่งพบว่ามีการลงพื้นที่ตรวจราชการ 16
ครั้งใน18 จังหวัด แอบแฝงการหาเสียง โดยนำว่าที่ผู้สมัครของพรรครทสช.มาร่วมลงพื้นที่ด้วย มีการนำทรัพยากรของรัฐ มาใช้ เช่น ใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศ 8 เที่ยว เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก18 เที่ยว รวมถึงการเกณฑ์ข้าราชการ ชาวบ้าน มาต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และทหารคอยรักษาความปลอดภัยซึ่งการตรวจราชการแต่ละครั้งตนมองว่าไม่เหมาะสม กกต.ต้องเข้ามาดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมไม่ให้ข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลางทางการเมือง ตาม ม. 78 และว่า เมื่อ ลุงตู่ และ บิ๊กตุ๋ย เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรครทสช.
วันนั้นก็จะถือว่าทำผิดกฎหมายตามมาตรา 132 ของ พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ซึ่งระบุว่า ผู้สมัครผู้ใดกระทำความผิดก่อนหน้าการประกาศผลเลือกตั้ง กระทำการอันใดที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต และเที่ยงธรรม กกต.สามารถให้ใบส้มได้หรือเพิกสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง 1 ปี
และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือถ้าผู้สมัครรับเลือกตั้งบัญชีรายชื่อ ก็ถอดออกจากบัญชีรายชื่อได้ ซึ่งความผิดดังกล่าวครอบคลุมประกาศกกต.ในช่วง 180 วัน โดยผู้ที่จะประสงค์จะเป็นผู้สมัคร ให้ถือว่าเป็นผู้สมัคร นอกจากนี้ถ้าพบว่ากรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น
ไม่มีการห้ามปรามสามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองได้ รวมถึงตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต และดำเนินคดีอาญา ซึ่งในกรณีนี้จะครอบคลุมในกรณียุบสภาด้วย.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews