ในที่สุดประเทศไทยก็เข้าสู่ “โหมดเลือกตั้ง” เต็มสตีมวันนี้ (3เม.ย.) ตั้งแต่เช้าที่กกต. เปิดรับสมัครส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
@ ในที่สุดประเทศไทยก็เข้าสู่ “โหมดเลือกตั้ง” เต็มสตีมวันนี้ (3เม.ย.) ตั้งแต่เช้าที่กกต. เปิดรับสมัครส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันแรก ก่อนที่พรุ่งนี้ (4เม.ย.) จะเป็นการเปิดรับสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่แต่ละพรรคจะได้หมายเลขเพื่อใช้เหมือนกันทั่วประเทศท่ามกลางบรรยากาศความคึกคักของแต่ละพรรคการเมือง ที่ส่งผู้สมัครมาสมัครโดยมีผู้สนับสนุนกองเชียร์ทั่วประเทศ แห่แหนรถแห่ไปที่ศาลากลางจังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ ที่จัดที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ลุ้นกันมาตลอดว่า จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่กำหนดหรือไม่ ที่ถือเป็นอีกครั้งกับบรรยากาศการเมืองในการรีเซ็ตอำนาจไปอยู่ที่ปลายปากกาประชาชน ท่ามกลางความคึกคักของเหล่าบรรดานักการเมือง ทั้งที่เคยผ่านสนามเลือกตั้งมาก่อน และทั้งที่เพิ่งลงสนามเลือกตั้งครั้งแรก
@ โดยเฉพาะที่ถูกจับตามากที่สุดวันนี้ คือ “2ลุง” แห่ง “3ป.” อย่าง “ลุงตู่-ลุงป้อม” 2 พี่น้อง ที่ร่วมกันครองอำนาจรัฐบาล มา 8 ปีนับตั้งแต่การยึดอำนาจ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” เมื่อปี 2557 ที่คนหนึ่งไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าจะลงมาคลุกการเมือง ถึงขั้นต้องมาลง สนามเลือกตั้งหาเสียง หรือนำทัพผู้สมัครของพรรค มาสมัครส.ส.แบ่งเขต ในขณะอีกคนหนึ่ง เคยอยู่เบื้องหลังการนำทัพเลือกตั้ง ให้กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่แม้จะไม่ชนะเลือกตั้ง แต่ก็ชนะการตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งปี 2562 ที่หนนี้ “2 ป.” เลือกที่จะ “แยกกันเดิน” และยังไม่มีใครประกันในปลายทางว่า ทั้งคู่จะ “รวมกันตี” แบบการเลือกตั้งปี 2562 หรือไม่ เพราะต่างก็แสดงตนเป็น “คู่แข่ง” แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 ผ่านพรรคที่สังกัด คือ พรรคน้อง รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพี่ “พปชร.”
@ อย่างที่ “ลุงตู่” ที่ขึ้นขบวนรถแห่นำทัพผู้สมัครมาร่วมจับหมายเลขและมีโอกาสนั่งติดกันกับ “ลุงป้อม” พูดถึงการลุยสนามเลือกตั้ง อย่างเต็มตัว ว่า จากนี้จะลงพื้นที่หาเสียงมากขึ้น ยืนยันว่า ไม่มีเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้จับมือทุกพรรค ทำไมไม่คิดว่าตนได้มากที่สุดล่ะ ส่วนที่ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ เพราะว่ามีงานมากและเบอร์ 1 ของตน ก็คือ “นายพีระพันธุ์” ที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน วันหน้าใครบอกผมอยู่ 2 ปี จากนั้น “พีระพันธุ์” ก็ทำต่อ ส่วนครบ 2 ปี ตนจะอยู่ตรงไหนก็ได้ เป็นที่ปรึกษาก็ได้ ก็เหมือนทุกพรรค ปรึกษาคนนอกก็มีไม่ใช่หรือ คนในคนนอกก็ไม่รู้ คนนอกประเทศก็มี แต่ตนอยู่ในประเทศ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เจอศึกซักฟอก จนไม่อยากทำงานในสภา จึงไม่ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์นั้น ยังไงตนก็โดนทั้งซักทั้งฟอก ก็เละอยู่แล้ว บางอย่างไม่มีมูล พูดให้เสียหาย ยอมรับว่ามีอารมณ์
แต่หลายคนในสภา และนอกสภา คนละเรื่อง อยู่ข้างใน เวลาเจอหน้าตนก็สวัสดี ขอบคุณ แต่พอออกมาข้างนอก เรียก “ไอ้ตู่ ไอ้เห้” ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ใครเป็นคนพูด ส่วนเป้า ส.ส.ของ รทสช. ตั้งไว้ทั้ง 400 เขต รวมไปถึงกรุงเทพฯ ทั้ง 33 เขตด้วย โดยหวังไว้ว่า จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ต้องร่วมจับมือกับพรรคอื่น
@ ในขณะที่ “ลุงป้อม” บอกนักข่าว ว่า มาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.กทม.แบบแบ่งเขต ของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ไม่มีหมายเลขนำโชคใด และตนเองไม่กังวลใจใดใดกับการส่งผู้สมัคร และเชื่อมั่นในส่วนของลูกพรรค ส่วนการพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายในศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ระหว่างให้กำลังใจผู้สมัครนั้น ไม่มีอะไรมาก ให้ไปสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ แต่ได้มีการพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ มาโดยตลอด และย้ำความสัมพันธ์ กับ พล.อ.ประยุทธ์ ยังดีอยู่
@ เรียกว่าบรรยากาศวันแรก การเข้าโหมดเลือกตั้งเต็มตัว ถือเป็นสัญญาณการแข่งขันของแต่ละพรรคการเมือง รวมถึง “ศูนย์อำนาจ 2ป.” ที่ต้องลงมาในสนามเดียวกัน ในการนำเสนอนโยบายและผู้สมัครกับประชาชนได้เลือกตั้ง ในขณะเดียวกัน ก็ถูกจับตาถึงการ “จับขั้วการเมือง” ระหว่าง กลุ่มขั้วการเมืองฝ่ายรัฐบาลเดิม ที่มีการ “ชิงนำ” ของ “พปชร.” ของ “ลุงป้อม” ในการเป็น “โซ่ข้อกลาง” กับ “ธีมก้าวข้ามความขัดแย้ง” ที่สามารถจับขั้วข้ามฝ่าย รวมถึงการจับขั้วฝ่ายเดิมที่เป็นรัฐบาล ปัจจุบัน ที่ต่างจาก “รทสช.” ของ “ลุงตู่” ที่ยืนยันในจุด พรรคการเมืองแนว “อนุรักษนิยม” ที่ไม่ดีลข้ามขั้ว ที่ทั้งหมดล้วนจะเป็น “ตัวแปร” ในทิศทางแห่งผลการเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews