Home
|
ข่าว

“ลุงตู่” ปลุกใจ-สัญญาณกกต.

 

ผ่านพ้นไปด้วยดีกับการไปเปิดหน้า นำทัพปั่นเรตติ้ง ในอีเวนต์วันสมัครเลือกตั้งส.ส.แบ่งเขต และ ปาร์ตี้ลิสต์ 3 และ 4 เ ม.ย.ที่ผ่านมาของ “2ป.” ลุงตู่-ลุงป้อม ในสถานะ “คู่แข่ง” ระหว่าง พรรคพี่-พรรคน้อง

 

 

@ผ่านพ้นไปด้วยดีกับการไปเปิดหน้า นำทัพปั่นเรตติ้ง ในอีเวนต์วันสมัครเลือกตั้งส.ส.แบ่งเขต และ ปาร์ตี้ลิสต์ 3 และ 4 เ ม.ย.ที่ผ่านมาของ “2ป.” ลุงตู่-ลุงป้อม ในสถานะ “คู่แข่ง” ระหว่าง พรรคพี่-พรรคน้อง การเมืองสเต็ปต่อ เข้าสู่โซน การลงพื้นที่หาเสียงของแต่ละพรรค ผู้สมัคร ที่ได้รับหมายเลข และ เปิดเวทีดีเบต ประชันขันแข่งกัน ทางนโยบายโชว์จุดแข็งทั้งเนื้อหาและตัวบุคคล ที่ทั้ง 2 ลุง ปฏิเสธที่จะขึ้นเวทีดีเบต แม้จะเป็น “แคนดิเดตนายกฯ”ที่ทำให้อารมณ์ผู้คนไหลไปสู่บรรยากาศการคืนอำนาจสู่ปลายปากกาประชาชน ในการเลือกตั้งผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ที่นับถอยหลังอีก 39 วัน ที่จะมีการเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศวันที่ 14พ.ค.

 

 

 

@ที่แน่นอนว่าทิศทางแนวโน้มความสนใจนอกจากจะอยู่ที่เนื้อหานโยบายของพรรคการเมืองที่เสนอตัว ยังอยู่ที่ทิศทางการเมืองการจับขั้วของแต่ละฝ่ายทางการเมือง ทั้ง พรรคการเมือง ฝ่ายรัฐบาลรักษาการปัจจุบัน และ พรรคการเมือง ฝ่ายค้าน ที่ตามโพลสำรวจ พรรคฝ่ายค้านหรือที่บางฝ่ายเรียก ฝ่ายประชาธิปไตย นำโดย เพื่อไทย ก้าวไกล ถูกจับตาว่าจะมาวินนำจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน ในขณะที่พรรคฝ่ายอำนาจ ที่ถูกเรียก “ฝ่ายอนุรักษนิยม ” ถูกวิเคราะห์ว่าคะแนนลดลง โดยเฉพาะที่ใกล้ชิดกับ “ศูนย์อำนาจ 3 ป.” ทำให้ที่เหลือถูกมองไปที่ ปัจจัยตัวแปร ความได้เปรียบจาก “อาวุธลับ” ตามรัฐธรรมนูญ 60 อย่าง “250 ส.ว.” และกติการวมไปถึงกรรมการผู้คุมกติกาการแข่งขัน

 

 

 

@อย่างที่เริ่มมีความกังวลกันถึง บางสัญญาณ ที่อาจเป็นปัญหาแม้กระบวนการเลือกตั้งดำเนินผ่านขั้นตอนการรับสมัครส.ส.มาแล้ว ในขณะที่ยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง อันน่าจะสัมพันธ์ไปถึงปัญหา การแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่มีผู้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีคำวินิจฉัยวันที่ 7 เม.ย. ที่หากมีคำวินิจฉัยว่าการ แบ่งเขตเลือกตั้งโดยชอบแล้ว การเลือกตั้งก็จะเดินหน้าต่อไป แต่ถ้าไม่ชอบ กกต. ต้องแบ่งเขตเลือกตั้งกันใหม่จะส่งผลกระทบต่อเขตเลือกตั้งที่กำหนดไว้เดิมและอาจกระทบต่อการสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่มีปัญหา ซึ่งอาจต้องกำหนดเขตเลือกตั้งกันใหม่ ซึ่งจะกลายเป็นมีปัญหาตามมาต่อกำหนดการเลือกตั้ง ที่ทั้งหมดยังไม่ นับรวมการไปยื่นยุบพรรคการเมือง 2-3 พรรค ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ที่อาจมีการปะทุหลังการเลือกตั้งหรือไม่ ที่ทั้งหมดถูกวิเคราะห์ไปในทิศทางความวุ่นวายที่ติดตามมา

 

 

 

@และที่บังเอิญปะเหมาะเจาะพอดีที่วันนี้ จู่ๆ “ลุงตู่” ไม่รู้มาอารมณ์ไหน หลังกินข้าวผบ.เหล่าทัพขาดเพียงผบ.ทบ.ที่กระทรวงกลาโหม ได้มีการกวักมือเรียกนักข่าวไปสัมภาษณ์ และ ทิ้งปริศนาให้คิด ด้วยการยกพระราชนิพนธ์ รัชกาลที่6 “ไร้รัก ไร้ผล” ขึ้นมา โดยลุงตู่บอกว่า “พวกเราต้องรักบ้านรักเมือง
ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อบ่อเกิดของความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เคยพูดไปแล้วว่าหากบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย มีปัญหามากๆ จะทำให้โอกาสหลายๆ อย่าง หายไปทันที ในมุมมองของต่างประเทศ ขอฝาก บทพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 “ไร้รักไร้ผล” จำได้ไหม “อันชาติใดไร้รักสมัครสมานจะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล หากชาติย่อยยับและอับจนประชาชน (บุคคล) จะสุขอยู่ได้อย่างไร” ขอให้ไปคิดดูฝากทุกคนด้วย ทำให้บ้านเมืองเราสงบเรียบร้อย ไปสู่ความปลอดภัยสันติสุข อย่าให้เกิดวิกฤตการณ์อะไรต่างๆ ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ในช่วงนี้และช่วงต่อๆ ไป เมื่อถามว่า พูดแบบนี้ประเมินว่ามีสัญญาณของความวุ่นวาย รออยู่เบื้องหน้าใช่หรือไม่ “ลุงตู่” บอกว่า ไปคิดเอาเอง เมื่อถามว่า เป็นความวุ่นวายหลังการเลือกตั้งใช่หรือไม่ “ลุงตู่” ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง ให้ไปคิดดูว่า ความไม่สงบ เกิดจากอะไรได้บ้าง ส่วนจะเกิดจากการเปลี่ยนขั้ว รัฐบาลหรือไม่นั้นไม่เกี่ยวหลายๆ อย่างก็รู้อยู่แล้ว ถามแบบไม่รู้เรื่องได้อย่างไร บ้านเมืองมันจะสงบได้ด้วยอะไร เมื่อถามว่าบางเรื่องไม่ได้ ใช่หรือไม่ “ลุงตู่” ไม่ตอบก่อนจะนั่งรถ ออกไป.

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube