@ น่าสนใจในปรากฏการณ์คู่ขนาน จังหวะที่ทั้ง ผลโพลหลายสถาบัน รวมถึงนิด้าโพล และ ใน “กูเกิล เทรนด์”ชื่อของ “พิธา” และ “พรรคก้าวไกล” (กก.)
เริ่มบดเบียด จะหายใจรดต้นคอ “พรรคเพื่อไทย” (พท.) และ “อุ๊งอิ๊ง”ที่ใกล้จะลาคลอด แต่ยังต้องช่วยตรึงเวทีปราศรัยในช่วงไฮไลต์ วิดีโอคอลเข้ามาปราศรัย โดยมีเพียง “เศรษฐา-เต้น ณัฐวุฒิ”ไปปราศรัยตัวเป็นๆ บนเวที เพราะเหตุเรตติ้งไล่เลียง
“อุ๊งอิ๊ง” ยังมาอันดับ 1 ตามด้วยพิธา และ “ลุงตู่” ส่วน “เศรษฐา”ไปอยู่ที่ 5 ที่ปรากฏระยะหลัง ในการปราศรัยของเพื่อไทย เริ่มมีการเน้นย้ำ “การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์” กับเหล่าบรรดา FCอย่างที่วันนี้ “เศรษฐา” ไปอ้อนชาวขอนแก่น เลือก พท.ยกจังหวัด
โดย ย้ำ พท.ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง อย่าให้ใครมาบอกว่าเรามีพรรคพี่พรรคน้อง เรามีพรรคเดียวคือพรรคเพื่อไทย
@ ที่อาการดังกล่าว ไม่นับรวมการปั่นกระแสในบางพื้นที่ ทำนอง “เลือกก้าวไกลได้ประยุทธ์” และมีความพยายามฉายภาพไปในครั้งเลือกตั้งปี 2562 ทำนองว่า เพราะ “อนาคตใหม่” มาตัดคะแนนกันเองกับ “เพื่อไทย” ทำให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยแพ้ ถ้ามีพรรคเดียว
คงชนะถล่มทลาย เพราะมีอนาคตใหม่ เลยต้องอยู่ใต้อำนาจของ “ลุงตู่”มาอีก 4 ปี ที่ความเคลื่อนไหวนี้ สอดรับกับช่วงต้นสัปดาห์ มี จดหมายน้อย จากกรรมการยุทธศาสตร์ของ พท.ส่งไปยัง บรรดาผู้สมัครเลือกตั้งส.ส. ให้ขยันลงพื้นที่มากกว่านี้
โดยในจม. มีการอ้างถึงกระแสความแรงของ “ก้าวไกล”ที่น่าเป็นห่วงว่า จะส่งผลกระทบกับคะแนน พท. รวมถึง เริ่มมีบรรดา “ติ่ง” หรือ “นางแบก” “นายแบก” ของเพื่อไทยส่งสัญญาณ ว่า บางพื้นที่ ไม่มีการติดป้ายหาเสียงผู้สมัคร ไม่มีการลงพื้นที่
@ โดยปรากฏการณ์กระแสที่ กก. เริ่มเบียดตามหลังเพื่อไทย ในระดับที่ พท. คะแนนเริ่มนิ่ง ถูกวิเคราะห์ว่ามีการเปรียบเทียบในเรื่อง “ความชัดเจน” ในการจะตั้งรัฐบาลกับ “พลังประชารัฐ” ของ “ลุงป้อม” ที่มาแนว”ก้าวข้ามความขัดแย้ง”
ที่แกนนำ พท. ไม่มีใครพูดชัดว่า จะร่วม หรือไม่ แม้กระทั่งการพูดล่าสุดของ “อุ๊งอิ๊ง” เมื่อวานก็บอกแต่เพียงว่า ให้ดูที่หน้าตน ว่าก่อนจะมาเป็นพรรคเพื่อไทย ถูกรัฐประหารถึง 2 ครั้ง จะตอบอย่างไร ที่จะไปร่วมแต่ก็ไม่ได้บอกตรงๆ ในขณะที่ กก.ชัดเจน ว่า ไม่ร่วมกับทั้งพรรคของ “ลุงตู่-ลุงป้อม”
@ เป็น “ลุงป้อม” หัวหน้าป้อม ที่วันนี้ ก็เริ่มกลับมาเคลื่อนไหว แบบมีนัยการเมือง ผ่านการออก จม.น้อย ฉบับที่ 9ในหัวข้อ “จัดตั้งรัฐบาล” อย่างไร โดยมีเนื้อหา เหมือน How to วิธีการจัดตั้งรัฐบาล แบบมี “ชัยชนะ” ที่ไม่ต้องร้าวฉานโดยย้ำว่า พรรคที่ได้ ส.ส.มากสุด มีความชอบธรรม
จัดตั้งรัฐบาล สกัด กลไก ที่ซ่อนอยู่ใน รธน. และเหมือนจะโฟกัสไปในประเด็น ทำนอง คำพูดของ หัวหน้าพรรค แต่ละคนตอนนี้ ที่มีการหาเสียง กับ หลังเลือกตั้ง อาจถูกเปลี่ยน ไปได้โดยมติพรรคที่จะเกิดขึ้น หลังความชัดเจนผลการเลือกตั้ง
ยก ปม “อภิสิทธิ์” ยังต้องลาออกหัวหน้าพรรคเพื่อเปิดทาง ประชาธิปัตย์(ปชป.) ร่วมรัฐบาล บิ๊กตู่ รวมถึง “อนุทิน” ที่เคยบอก ไม่รับอำนาจ ส.ว.ท้ายที่สุดต้องเป็นมติพรรค ชี้ ไม่ใช่เรื่องผิด หรือแปลกประหลาดอะไร “นี่คือความปกติของการเมืองไทย”
แม้ว่าสื่อและสังคมไทยจะไม่ยอมรับก็ตาม เพราะทุกอย่าง อยู่ที่การเจรจา และการตอบสนอง
@ ที่อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ มีคนของ พลังประชารัฐ ไม่ว่า จะเป็น “เสี่ยโอ๋” “ชัยวุฒิ” หรือ “ไพบูลย์” ที่ออกมา แอคชั่นโดยอ้างว่า รายงานผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว ทั้งการปราศรัยแนว “ชาตินิยม” ตอบโต้เรื่องการเกณฑ์ทหาร ทั้งการปลุกกระแสจะไม่ร่วมรัฐบาล กับ เพื่อไทย ก้าวไกล
เพราะมีนโยบายไม่ตรงกัน และไม่ชัดเจน เรื่อง ม.112 ในขณะอีกมุม ก็มีการมองไปถึงความพยายาม ไม่มีการผูกมัด สิ่งที่ทั้งผู้คนแกนนำของพรรค ไปดีเบตบนเวทีกับเพื่อไทย ที่มีบางจังหวะทั้ง พปชร.หรือ พท.เอง ก็มีการยืนยัน ไม่มีดีลข้ามขั้ว
หรือ ถูกคาดคั้น ให้ยืนยันกับประชาชน จะไม่ร่วมกับ “พรรคทหาร”แต่ควรพิจารณาตั้งรัฐบาลกับ “ขั้วเดียวกันเอง” ก่อน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews