“ลุงตู่” & กก. -ตราบาป 2 ขั้ว?
@ไม่แต่ท่วงทำนองภาษากายของ “ลุงตู่” ที่ออกมาเปรยดังวันนี้ (26 เม.ย.) กระตุกเตือนพรรคร่วมรัฐบาลที่ต่างเป็น “คู่แข่ง” ในศึกเลือกตั้งกับ “ลุงตู่” ในฐานะเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทำนอง อย่าหาเสียงแบบโยนบาปให้ นายกฯ เพราะล้วนอยู่ในรัฐบาลด้วยกันไม่ควรมาติกันเองวันนี้ก็ไม่ควรที่จะมาโจมตีกันเองมากนัก ควรบอกว่าจะทำอะไรเมื่อตัวเองเป็นรัฐบาล การมาติติงกันเองอย่าลืมว่า อยู่ในรัฐบาลเดียวกันมาโดยตลอดหลายปี หรือ 4 ปี ที่ผ่านมา
ฉะนั้นอย่าโยนทุกอย่างมาที่ตน อย่าลืมว่า การประชุมครม. ก็รับฟังความคิดเห็นจากทุกรมต. ถือเป็นการทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ตัดสินได้ด้วยตัวเอง ตนไม่มีกระทรวงที่จะลงมาเล่นเองทั้งหมด มีเพียงกระทรวงกลาโหมที่ตนสั่งการได้ กระทรวงอื่นผมก็สั่งการในที่ประชุมครม. นโยบายต่างๆก็มอบใน ครม. ยุทธศาสตร์ก็ให้เป็นแนวทางและแนวปฏิบัติไปทั้งหมด หน้าที่ตนคือกลั่นกรองทุกโครงการที่มีการเสนอเข้ามาเพื่อให้เกิดความสอดคล้อง นี่คือการทำงาน
ซึ่งถ้ามันจะดี ก็ดีด้วยกัน แต่ถ้าผิดพลาดก็ถือว่า ผิดพลาดด้วยกันอย่างไรก็ตามวันนี้ตนก็รับได้ใครจะว่าอะไรตน ก็รับได้ทั้งหมด ส่วนโกรธบ้างหรือไม่ ที่เวลานี้มีการโยนความผิดให้นายกฯคนเดียว “ลุงตู่” ปัดว่า ไม่หรอก แต่ก็อยากให้ทุกอย่างมันคิดกันใหม่ๆ บ้าง ไม่ใช่โจมตีกันไปกันมาและลืมไปว่าตัวเองก็ทำงานอยู่ด้วยกัน เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ก็พูดใน ครม.ไปแล้ว และทุกคนก็เข้าใจดี
@ เรียกว่า อาการของ “ลุงตู่” ที่ต้องออกมาเปรยดัง หลังมีการบ่นกับบรรดารัฐมนตรีกลางวงไปแล้ว ที่ว่ากันว่ามาจากปม“ค่าไฟแพง” จนประชาชนเดือดร้อนไม่พอใจรัฐบาล ที่บังเอิญมาประทุขึ้นในช่วงเลือกตั้งพอดี ทำให้ทุกพรรคทั้งฝ่ายรัฐบาลและ ฝ่ายค้าน ต่างออกมาโหนประเด็นนี้ และโจมตี กันบนเวทีดีเบต จนท้ายสุดพรรคร่วมรัฐบาลคนกันเอง มีการเหมาเข่งโยนบาปไปที่ “นายกฯลุงตู่” ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯของ รทสช.
@ ที่อาการลักษณะไม่ต่างกันของพรรคการเมืองในขั้วเดียวกันที่กลายเป็น “คู่แข่งการเมือง” ที่หันมาโจมตีความผิดพลาดของ“คู่แข่ง” ดังว่าไม่ใช่เกิดขึ้นแต่เพียงฝ่ายรัฐบาล ที่ถูกมองเป็น “พรรคฝ่ายอนุรักษนิยม” ที่มี “พรรคน้อง-พรรคพี่” ของ 2 ป.เป็นแกนนำ ยังเกิดขึ้นกับ “ฝ่ายค้าน” หรือ “ขั้วเสรีนิยม” ที่มี “พรรคเพื่อไทย” (พท.) และ “ก้าวไกล” (กก.) เป็นแกนนำที่กรณีปีกฝ่ายค้านนี้ กำลังถูกจับตาพัฒนาการ มาตั้งแต่ผลโพลหลายสำนักกับ เรตติ้งพรรค กก. และ “ทิม พิธา” แคนดิเดตนายกฯไล่เบียดตามหลัง พท. ที่อยู่ในอาการนิ่งทรงๆ มาเรื่อยๆ
ที่ประเด็นสำคัญมาจาก ความชัดเจนในจุดยืนทางการเมือง อันเป็นผลมาจากข่าว“ดีลข้ามขั้ว” ระหว่าง พท.กับ พลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ถูกกดดันให้แสดงความชัดเจนมาตลอด กระทั่งมาถึงจุดที่ “พิธา”ไปกระซุ่นผ่านรายการ “สรยุทธ์” กับมอตโต้ “มีลุงไม่มีเรา-มีเราไม่มีลุง” ที่ทำให้หลังจากนั้น พท.ต้องไปตามเกมจำต้องให้แกนนำรวมถึง “เศรษฐา” ออกมายืนยันชัดหลายครั้ง จะแลนด์สไลด์โดยไม่ร่วมรัฐบาลกับ พปชร.-รทสช. ในขณะที่ “ผู้กองนัส”พปชร.ก็ออกมาไม่ให้น้ำหนักว่าการประกาศของ “เศรษฐา” จะเป็นท่าทีที่แท้จริงของ พท.
@ ในขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีปฏิกิริยาจากทีมยุทธศาสตร์เลือกตั้ง พท.ที่ส่งไปยัง ผู้สมัคร ส.ส.ให้ขยันลงพื้นที่ รวมถึงมี ทวิตเตอร์จาก “ภูมิธรรม” แซะไปยังบางพรรค เปรียบเทียบความฝันและต้นมะพร้าว ก่อนจะตามมาด้วยการบิ๊ว “การเลือกตั้งทางยุทธศาสตร์” พรรคฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อเอาชนะ 3 ป. ที่ล้อไปกับก่อนหน้านี้มี “นายแบก-นางแบก” ติ่งพท.ออกมาทำนองถ้าแบ่งคะแนนมาเลือกก้าวไกล อาจจะได้ลุง หลังจากที่มีภาพผู้คนล้นหลามแห่มาฟังการปราศรัยของ “ก้าวไกล” ที่ “สามย่านมิตรทาวน์” และ “ชัยวัฒน์ ตุลาธน”แกนนำกก. ออกมาประกาศ เรตติ้งคะแนนเลือกตั้ง จะมากกว่าครั้งเป็น พรรคอนาคตใหม่
โดยประเมินทั้งแบ่งเขตและปาร์ตี้ลิสต์จะได้เกิน 100 คน ที่ทำให้ต่อมามีกระแส บิ๊วกลับไปยังเหตุการณ์ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้ไม่ได้เป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งปี 2562 ที่ทำให้ “โรม”ต้องออกมาตอบโต้ว่ากำลังมีการสร้างความกลัว ที่จะทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ที่ถัดจากนั้นก็มีการสื่อสารออกมาจากฝั่ง พท.ผ่านเวทีหาเสียงทำนอง เพื่อไทย มีประสบการณ์เป็นรัฐบาล บริหารเป็นทำได้ผลมาแล้ว ทำให้ต่อมาฝั่งกก.โดย “ทิม พิธา” ก็มีการนัด แถลงข่าวเปิดโรดแมปรัฐบาลก้าวไกลทั้งแผน 100 วัน 1 ปีจนถึง 4 ปี ว่ามีนโยบายอะไร และมีวิธีทำอย่างไรในวันพรุ่งนี้
@ ที่ทั้งหมดในปีกพรรคฝั่งประชาธิปไตยที่มี เพื่อไทย เป็นแกนนำนั้น อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ จากยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ ถูกมองความเพลย์เซฟเผื่อเหลือเผื่อขาดแบบเอาชัวร์ ว่า อาจมีการแตะกับ “ลุงป้อม” แม้พรรคขั้วฝั่งเดียวกันจะไม่ค่อยเห็นด้วยมีการแซะถามกันทุกเวทีที่ได้คำตอบไม่ชัด ได้แต่ก็เออออห่อหมกไป กระทั่งยิ่งนานวัน กลายเป็นประเด็นเปรียบเทียบกับ กก.ที่ประกาศชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ FC ฝ่ายประชาธิปไตยเริ่มสนใจ กก.จากเดิมที่กังวลในความดุดันไม่เกรงใจจะทำให้เสียแผนฝ่ายประชาธิปไตย กลายเป็นแพ้ฝ่ายลุง 3 ป. กลับกลายเป็นโดดเด่นยิ่งขึ้นทั้งมิติจุดยืน และมิติข้อเสนอการบริหารเปลี่ยนแปลงไปสู่ในประเด็นต่างๆ ในอนาคต.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews