@จังหวะเข้าโค้งสุดท้ายเหลืออีก 2 สัปดาห์ประชาชนจะเข้าคูหาเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.
โดยจะมีการลงคะแนนล่วงหน้ากันในวันอาทิตย์หน้า 7 พ.ค. ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า นอกจากการเร่งปั่นเรตติ้งตามถนัดของแต่ละพรรคแต่ละขั้วข้างแล้วอย่างที่เห็นทั้ง “ลุงป้อม” “ลุงตู่” พร้อมใจกันล่องใต้แบบค้างคืนพรุ่งนี้จะได้เห็นสารพัดเกมใต้ดิน และ ยุทธศาสตร์วาทกรรมพลิกแต้มที่วูบไหว ของ 2 ขั้วการเมืองทั้ง “ฝ่ายอนุรักษนิยม”และ “ฝ่ายเสรีนิยม”
หรือ “ฝ่ายประชาธิปไตย” เพื่อเขย่ากระแส ทำนอง “ไม่เลือกเราเขามาแน่” หรือ “เลือกสงบจบที่ลุง”หรือ “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่ลุง” รวมถึงเหลี่ยมเกมการใช้ “อาวุธลับ” ทางอำนาจที่แต่ละฝ่ายมีโดยเฉพาะวิธีการจับจุดอ่อนของคู่แข่งในการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ร้องเป็นเคสเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบขององค์กรตรวจสอบ
@อย่างที่เห็นปรากฏการณ์ 3 นักร้องดัง “ศรีสุวรรณ-เรืองไกร-สนธิยา” ที่พร้อมใจกันมาร้องเอาผิดเรื่องราวทำนองเดียวกัน เป้าหมายเดียวกัน คือ ปมกล่าวหาจับโป๊ะดราม่า “ทิม พิธา” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เรื่องงานศพบิดา เมื่อปี 2549 ที่มีการอ้างว่า ถูกกักตัวจนไปงานศพพ่อไม่ทัน ที่ 2 นักร้อง “ศรีสุวรรณ-เรืองไกร”จับประเด็นการให้ข้อมูลเท็จ เพื่อโน้มน้าวประชาชนไปเลือก
ที่สามารถเอาผิดเอาโทษทั้งตัวบุคคลที่ “พิธา”และอาจเอาผิดโยงไปถึง “ยุบพรรคก้าวไกล” ในฐานะ “พิธา” เป็นหัวหน้าพรรคว่าถือเป็นข้อห้ามอย่างชัดเจนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 73 (5) ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามพรรคการเมืองหาเสียงโดยวิธีการหลอกลวง ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจในคะแนนนิยมของตนเองหรือพรรคการเมืองที่ผิดไป
@ขณะที่อีกนักร้อง “นายสนธิยา” มีการยื่นร้องการหาเสียงของ “พรรคเพื่อไทย” ทั้ง “เศษฐา-อุ๊งอิ๊ง”ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและมีความเห็นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ก. (2) (3) หรือไม่ ทั้งกรณี “อุ๊งอิ๊ง” ประกาศ 10 นโยบายที่มีเรื่องถมทะเลสมุทรปราการ และสมุทรสาคร
ที่ยังไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งปม แจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท โดยอ้างไม่เชื่อมั่นการทำงานของ กกต.ที่ไม่ออกมาเปิดเผยว่า นโยบายเหล่านี้ของพรรคการเมืองมีการจัดทำเรื่องความคุ้มค่า ความเสี่ยง ที่มาของงบฯ เป็นอย่างไร จึงเป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักในการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ก. (2)
@ ทั้งนี้ หากศาลรธน.วินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็จะไปเข้าลักษณะตามมาตรา 21 มาตรา 22 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 60 ที่กรรมการบริหารพรรค มีหน้าที่ควบคุม ดูแลรับผิดชอบการดำเนินกิจกรรมและการดำเนินนโยบายของพรรคให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด เมื่อกรรมการบริหารพรรคไม่ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะถือว่าเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุให้เสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคได้ตามมาตรา 92ของกฎหมายเดียวกัน
@เรียกว่าถือเป็น ออเดิร์ฟ สำหรับ 3 นักร้องที่มาในจังหวะเข้าโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ที่เกมส่งผ่านไปยังองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ รวมถึง กกต. ที่กำลังเตรียมการเลือกตั้ง ในท่ามกลางสถานการณ์ปั่นเรตติ้งที่กระแสทั้งโพลและโซเชียลเหมือนจะไหลมาทาง ที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อไทย และ ก้าวไกล ที่อยู่อันดับ 1 และ 2ในขณะที่ “พรรคลุงตู่”
นิ่งอยู่อันดับ 3 น่าสนใจ คือปรากฏการณ์ “นักร้อง” มาพร้อมจังหวะบิ๊วอารมณ์ที่ ฝ่ายประชาธิปไตยอย่าง พท.และ กก.กำลังตัดแต้มกันเองในจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลกับ “ขั้วอนุรักษนิยม” โดยเฉพาะกับ 2 พรรคพี่น้องรทสช.-พปชร. ที่ส่วนหนึ่งกลายเริ่มเห็นฝ่ายอนุรักษ์เองก็ขยับเคลื่อนทางยุทธวิธี “กลุ่มตัวตึง”
ไปปรากฏหลายเวทีที่กก.ไปปั่นเรตติ้ง ไม่นับรวมการปั่นเรตติ้งผ่านโซเชียลที่ กก.มาในธีม ไวรัลคลิป “เด็กยุผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า ผู้แก่ ในบ้านให้เลือกก้าวไกล”ที่ทั้งหมดกำลังเคลื่อนอย่างเข้มข้นมากขึ้น อย่างที่ “ลุงตู่” ก็ยอมรับอย่างหล่อๆ ในทีวันนี้ ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายที่แต่ละพรรคจะเข้มข้น.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews