ศึกเลือกตั้งชี้ชะตาประเทศไทย (14พ.ค.) ผ่านพ้นไปแล้ว ท่ามกลางความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ของแต่ละฝ่าย ทั้งฝ่ายชนะ และ ฝ่ายแพ้ ที่ ไม่แต่ เฉพาะพรรคการเมืองขั้ว “อนุรักษนิยม” หรือ “ฝ่ายรัฐบาลเดิม”
@ศึกเลือกตั้งชี้ชะตาประเทศไทย (14พ.ค.) ผ่านพ้นไปแล้ว ท่ามกลางความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ของแต่ละฝ่าย ทั้งฝ่ายชนะ และ ฝ่ายแพ้ ที่ ไม่แต่ เฉพาะพรรคการเมืองขั้ว “อนุรักษนิยม” หรือ “ฝ่ายรัฐบาลเดิม” ซึ่งนำโดย “นายกฯลุงตู่” แห่ง3ป.ที่ถูก “ปิดสวิตช์” พ่ายแพ้ให้ “พรรคฝ่ายประชาธิปไตย” หากแต่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย อย่าง “เพื่อไทย” ก็อยู่ในอาการคล้ายกัน ที่ต่างยอมรับในทีว่า อยู่ในอาการ “ช็อตฟีล” กับ “กระแสส้ม” พรรคก้าวไกล ที่มาแรงถึงขนาดเป็นส่วนสำคัญฉุดให้ผู้คนหนุ่มสาวและทุกเพศทุกวัยที่กลายเป็น “ด้อมส้ม” หันมาสนใจการเมือง ว่าด้วย การเลือกตั้งกันทั้งบาง โดยเฉพาะนำมาสู่การ “ตระหนัก” ถึงอำนาจการตัดสินใจเลือก “ผู้แทนราษฎร” จากปลายปากกาเมื่อวาน เพื่อให้เขามาเป็น “ตัวแทนอำนาจ” ไปบริหารบ้านเมือง ตรวจสอบถ่วงดุลออกกฎหมาย ที่ให้ความเป็นธรรมนำมาสู่การเมืองดี ปากท้องดี ที่คู่ขนานไปกับมอตโต้ “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” ตามสโลแกน “พรรคส้ม” จะเป็น พลังกระตุ้น ไปสู่การเปลี่ยนแปลง หรือที่บอกว่าทำให้ “ลมเปลี่ยนทิศ” ได้จริง
@ อย่างที่ผลการเลือกตั้งไม่เป็นทางการครั้งนี้ที่ “ก้าวไกล” ชนะ ถูกมองเป็นการสั่งสอน “ฝ่ายอำนาจ” และ “นักการเมือง” ที่อยู่ในอำนาจและอยู่ในสภาฯมาตลอดระยะเวลา 8 ปี และ 4 ปี ที่ผ่านมาท่ามกลางกลไกกฎหมาย “ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเรา” ตามรัฐธรรมนูญ60 ซึ่งถูกเขียนขึ้นหลังการทำรัฐประหารปี57 อันเป็นอีกส่วนสำคัญ ของการปะทุผ่านผลการเลือกตั้ง ที่ถูกมองว่าเป็น การสั่งสอนทุกฝ่าย ที่อยู่ร่วมในกระบวนการและปรากฏการณ์ การเมืองที่ผ่านมาทั้งการจับขั้วตั้งรัฐบาลปี62 ที่อาศัยกลไก “ตัวแปร” จาก “ส.ว.250” ตามดีไซน์ให้มีบทบาทการโหวต “นายกฯลุงตู่” สืบทอดอำนาจต่อ หลังเลือกตั้ง โดยมี “นักการเมือง” ทั้งที่จำใจ เพราะถูก “ปักชนักคดีความ” ด้วยวิธีการอาชญาวิทยาการเมือง และ “นักการเมือง” ที่ยอมเป็น “งูเห่า” กินกล้วย มีค่าตัวย้ายพรรค หลังจากมี การยุบพรรคการเมือง และได้ค่า “ฝักถั่ว” ยกมือข้ามขั้ว ระหว่างเกมการเมืองรักษาอำนาจ “รัฐบาลลุงตู่” ในสภา
@ที่ผลการเลือกตั้ง66 ครั้งนี้ ถูกมองว่า บรรดานักการเมือง “งูเห่า” ย้ายพรรค และนักการเมืองบ้านใหญ่ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ที่ถูกจดจำพฤติกรรม ต่างล้วน “สอบตก” โดยมี “กระแสส้ม” ก้าวไกล เป็นคลื่นนำ การเปลี่ยนแปลงที่ตีแตกหลายพื้นที่กลายเป็นสีส้ม แม้กระทั่ง กทม. 32 ที่นั่ง ซึ่งเหลือให้เพื่อไทยเพียงที่นั่งเดียว และยังสะท้อนผ่านตัวเลขอันดับหนึ่ง151 ตามมาด้วย เพื่อไทย 141 ที่ วันนี้ “พิธา” บอกว่า ยกหูหา “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยแล้ว เพื่อเตรียมทำMOU กับอีกหลายๆ พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้ง “รัฐบาลส้ม” 309 เสียง แบบไม่กลัวอิทธิฤทธิ์ “ส.ว.250” ที่ “อุ๊งอิ๊ง” ก็ยอมรับว่ามีการคุยกันแต่ยังไม่ได้
ลงรายละเอียดของเงื่อนไขMOUร่วม ที่ เพื่อไทย ยืนยันไม่แตะเลิกม.112 ที่อยู่ในเนื้อนโยบายของ กก.
@น่าสนใจว่าบทดำเนินไปของ “ก้าวไกล” ถูกจับตาว่าจะเป็น “รัฐบาลส้ม” ที่มีจุดยืนอุดมการณ์การเมืองแบบอุดมคติที่ถูกอีกฝ่ายปรามาส “เท่แต่กินไม่ได้” จะทำได้ตาม 300 นโยบายที่ประกาศ แบบที่เคยฝากฝีมือโดดเด่น เป็นเนื้อเป็นหนังไว้ในการทำหน้าที่ “ฝ่ายค้าน” ตรวจสอบ “รัฐบาลลุงตู่” หรือไม่ ที่ยังไม่นับรวมถึง “อุปสรรค” ในการตั้ง “รัฐบาลส้ม” ที่ต้องเผชิญกับ “นักการเมืองพันธุ์เก่า” เขี้ยวลากดิน ทั้งฝ่ายเดียวกันแต่คนละฝ่าย ที่กำลังคิดเกม “รักษาอำนาจ” และ “เข้าสู่อำนาจ” แบบสมประโยชน์ผ่านดีลที่เคยตกลงกันภายใต้สูตรที่ “พรรคอันดับ1” ไม่ใช่ก้าวไกล
@อย่างที่เริ่มมีการวิเคราะห์ถึง “สมการ” ข้ามขั้วแบบมีความชอบธรรมของ “พรรคอันดับ2” เพื่อไทย ที่แม้ “หมอชลน่าน” จะยืนยันไม่จัดตั้งรัฐบาลแข่ง “รัฐบาลส้ม” กก.แต่ก็ไม่ได้มีการพูดถึงสถานการณ์ถัดไป ที่ถูกมองว่าถึงเวลา MOUที่ไม่สอดคล้องกัน จะเป็นเพียง “ข้ออ้าง” ของบางฝ่ายที่อาจกำลังสนใจในสูตร
“รัฐบาลส้ม (หล่น) ” ภายใต้กลไก “เตะสกัด” ที่ถูกเปิดบิลไว้ก่อนหน้านี้แล้ว อย่างเช่นประเด็น “หุ้นสื่อ” ของ “พิธา” ที่กกต.บอกว่ากำลังพิจารณาจะรับคำร้องหรือไม่ ที่สัญญาณนี้สอดรับกับที่ อดีตกุนซือ “ลุงป้อม” เพิ่งวิเคราะห์ถึงบทบาท “ลุงป้อม” ในฐานะ “โซ่ข้อกลาง” หลังจากนี้ แต่อยู่ระหว่างช่วงรัฐบาล
รักษาการ ที่จะเชื่อมโยงกับการตัดสินใจของ “ลุงตู่” อย่างที่ “รมต.แด๊ก” บอกว่า “ท่านคงถึงเวลาพอแล้ว” หลังการแพ้ศึกเลือกตั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
