ไม่ได้ผิดไปจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ว่า หลังการเลือกตั้ง(14พ.ค.) “พรรคก้าวไกล”พ่อส้ม ของ เหล่า “ด้อมส้ม” ที่ก่อกระแสคนมาเลือกตั้งแบบทำลายสถิติ ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งท่วมท้น
ได้ส.ส. 151 คน ทั้งชนะ”พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม”ของ ลุง 3ป.และ ชนะพรรคใหญ่ ฝ่ายประชาธิปไตย อย่าง “เพื่อไทย”(พท.) แบบพลิกความคาดหมายจนนำมาสู่การประกาศของ “พ่อส้ม” “พิธา”ทันทีเมื่อวาน(15พ.ค.)ในการรวมเสียงฝ่ายค้านเดิมที่รวมถึงพรรคเพื่อไทยที่ได้รับเลือกตั้งได้ส.ส. 141 คน ได้ 310 เสียง
เพื่อตั้งรัฐบาลอันเป็นไปตามกติกาประชาธิปไตยเสียงข้างมากที่ฉับพลันทันที นอกเหนือไปจากการพูดคุยทำMOUกับว่าที่ พรรคร่วมรัฐบาลส้ม แล้วยังเริ่มมี “สัญญานอุปสรรค” จากมรดกอำนาจคสช.ตามรัฐธรรมนูญ60 ที่ถูกเขียนโดย “อ.มีชัย”ในห้วง “รัฐบาล3ป.” อย่าง ปมการมีเอี่ยวการโหวตนายกฯของ“สว.250”ที่ถือเป็น “ด่านหิน”ในการเป็น “ตัวแปร”สถานการณ์การ ตั้งรัฐบาล ของ “พรรคก้าวไกล”
โดยเฉพาะ ปัญหา การโหวตนายกฯ ที่ต้องใช้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง ของที่ประชุมรัฐสภา จาก ส.ส.500 และสว.250รวม 750 คือ 376 อันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ม.272 ที่ฝ่ายการเมือง แม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลเดิมของ “ลุงตู่”อย่าง“พรรคเสี่ยหนู” “ภูมิใจไทย”(ภท.)และ “พรรคประชาธิปัตย์”(ปชป.)ต่างเคยแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย
ที่ทำให้แม้ “รัฐบาลส้ม” จะรวมเสียงได้เกินครึ่งของ “สภาล่าง”250 จาก500 ได้ถึง 310 ซึ่งถือว่ามีเสถียรภาพ แต่ก็ต้องติดติ่งการตั้ง “พ่อส้ม” เป็น “นายกฯ” ที่ต้องใช้เสียงอีกราว70ให้ได้เกิน376 เสียง ที่ตอนนี้ถูกมองว่า “ปิดประตูตาย”สำหรับฝั่ง “สว.250” ที่มาจากการ “แต่งตั้ง”ของ “รัฐบาล คสช.”
อย่างที่สำแดงผ่าน “สว.วันชัย” “สว.คำนูน” “สว.สมชาย”รวมถึง “สว.ผู้นำเหล่าทัพ”และอีกหลายๆท่าน ตามแต่เหตุผล และบางรายโยนให้ “พ่อส้ม”มารวบรวมเสียงของฝ่ายส.ส.ให้ได้376ก่อนเพื่อ “ปิดสวิสต์สว.”ที่ยืนยันไม่โหวตนายกฯให้ “พ่อส้ม”แม้จะเคยโหวตให้ “ลุงตู่”แบบเต็มแม็ก249เสียง มาแล้วเมื่อปี62
ที่ทำให้ ทางออกของ “พ่อส้ม”ในด่าน2 คือต้องหาอีก 70 เสียง ของอีกขั้วคือพรรคฝั่ง “รัฐบาลเดิม”ที่คุณสมบัติก็มี “ภท.”ของเสี่ยหนูที่มีเสียง70ที่นั่ง หรือ ปชป.ที่มี 25 ที่นั่ง ที่ทั้ง2 พรรคนี้ แม้เคยรับปากไว้ว่าไม่เห็นด้วยกับที่ 250 สว.มีเอี่ยวโหวตนายกฯและพร้อมหนุนคนชนะเลือกตั้ง แต่ถึงหน้างานก็ย่อมมีเงื่อนไข ที่ก็เช่นเดียวกับ “พรรคเพื่อไทย”ฝ่ายประชาธิปไตยที่แม้จะรับในทีในการสนับสนุนพรรคที่ชนะเลือกตั้งอันดับ1 แต่ก็ยังมีการเจรจาดูเงื่อนไขMOUของ “พ่อส้ม”
ที่น่าสนใจคือ “พรรคการเมือง”ทั้ง2ขั้ว ที่ “พ่อส้ม”จะต้องไปทอดไมตรีทาบทามการสนับสนุนเสียงเพือ “ปิดสวิสชต์ สว.250”นั้นล้วนมี “เงื่อนไข”ข้ออ้างความลังเล คล้ายกันในประเด็นที่เป็นปัญหาจากนโยบายของ “พรรคส้ม”นั่นคือประเด็นการ “แก้ไขม.112”ที่ประเด็นเหล่านี้ถูกจับตา ถึงปลายทางการนำไปสู่การไม่สามารถตั้ง “รัฐบาลส้ม”ได้แม้จะมีเสียงมากสุด
และแม้จะรวมได้ 310เสียงสภาล่าง และหลายฝ่ายเริ่มมการพูดถึง สูตร“รัฐบาลส้มหล่น”และ สูตร“รัฐบาลเสียงข้างน้อย”ที่“อ.วิษณุ”เคยพูด จนทั้ง “เศรษฐา”และผู้คนในพรรคเพื่อไทยต้องรีบออกมายืนยันสนับสนุนพรรคส้ม และมีการกดดันวัดใจไปที่ พรรคภท.และปชป.ว่าจะช่วยปิดสวิชต์สว.ตามที่เคยพูดหรือไม่ที่ทำให้ ภท.ต้องออกแถลงการณ์ยืนยันท่าทีให้พรรคที่ชนะมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลก่อน
ที่ทั้งหมดก็ดูสอดรับกับที่ “อดีตกุนซือลุงป้อม”อย่าง “ไพศาล”โพสFBว่า ผลการเลือกตั้งไม่เป็นทางการอาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยไสยศาสตร์ทางกฎหมายที่อาจเล่นแร่แปรธาตุได้หลายอย่างไม่ว่าโกงหรือปล้นก้าวไกลได้ตั้งเงื่อนไขจนไม่สามารถนำพรรคอื่นที่เหลือมาร่วมรัฐบาลได้ จึงเผยจุดอ่อนให้กับฝ่ายอำนาจเก่าโหมกระแสสลายความร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาลทุกวิถีทางอยู่ในขณะนี้จำนวน 309 เสียงตามที่แถลงนั้นจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ขณะนี้ท่าทีของสว.จะงดออกเสียงหรือไม่ลงคะแนนให้กับคุณพิธา
จะทำให้คุณพิธาไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้!!!ถ้าเป็นเช่นนั้นพรรคเพื่อไทยก็มีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่เวลาที่พรรคซึ่งมีเสียงน้อยมากจะมาชิงตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยมีข้อจำกัดน้อยกว่าพรรคก้าวไกล จึงอาจจัดตั้งรัฐบาลได้และ”รัฐบาลชุดนี้ก็น่าจะมีเสียงถึง 402 เสียง
โดยไม่รวมเสียงสว.ที่อาจให้การสนับสนุน อีก 75-125 เสียงและมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอย่างมีเสถียรภาพด้วย” ฝ่ายอำนาจเก่า กำลังชิงจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตามที่เป็นข่าวใหญ่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ซึ่งสอดคล้องกับที่นายวิษณุ เครืองามได้เปรยเอาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้น การใช้ไสยศาสตร์ทางกฎหมายตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจึงขับเคลื่อนอย่างคึกคักในขณะนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
