แม้จะดูเหมือนการดำเนินไป ในกระบวนการตั้งรัฐบาลที่นำโดย “พรรคก้าวไกล” จะเป็นไปอย่างเรียบร้อยลงตัวโดยเฉพาะในซีกข้าง “8พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย” ประกอบด้วย ก้าวไกล เพื่อไทย เสรีรวมไทย ไทยสร้างไทย ประชาชาติ พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทยรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ โดยมีส.ส.รวม 313 ที่จับมือกันทำMOU ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
โดยสนับสนุนให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯคนที่30 โดยจะมีการเปิด MOU และมีการ แถลงร่วมกันอีกครั้งในวันเชิงสัญลักษณ์ คือ 22 พ.ค.66 ที่เป็นวันครบรอบการทำรัฐประหารยึดอำนาจจาก “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ของ “ลุงตู่” 22พ.ค.57 โดยการนำแถลงของ “พ่อส้ม” ที่ตอนนี้ถือเป็น “ว่าที่นายกฯคนที่30” พยายามย้ำถึงสถานการณ์ “รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย” ที่ได้มาจาก เสียงของประชาชน ที่ถือเป็นเสียงแห่งความหวัง และความเปลี่ยนแปลง ที่รัฐบาลใหม่ ต้องซื่อสัตย์ต่ออำนาจของประชาชน โดยยืนยันจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ ทุกพรรคประกาศจัดตั้ง รัฐบาลของประชาชนร่วมกัน โดยมีแนวทาง 1.ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุน พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากตามกลไกการเลือกตั้งของประชาชน 2.ทุกพรรคจะร่วมกันจัดตั้ง ข้อตกลงร่วม หรือ MOU เพื่อแสดงแนวทางการทำงานร่วมกัน และสาระร่วมของทุกพรรค ซึ่งจะแถลงอีกครั้งใน วันที่ 22 พฤษภาคม 3.ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถ บริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ โดยช่วงหนึ่ง “พิธา” มีการตอบสื่อถึงการรับมือหากเข้าสู่สภาแล้ว ไม่สามารถโหวต “พิธา” เป็นนายกฯได้ว่า เรามีการวางแผนไว้หลายรูปแบบ ว่าในอนาคตจะมี “ฉากทัศน์” แบบไหนเกิดขึ้นบ้าง
แล้วฉากทัศน์แบบนี้เราจะบริหารจัดการสถานการณ์อย่างไร ฉะนั้นเราสามารถที่จะลดความเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ย้ำว่าเราไม่ได้กังวลอะไร ปล่อยให้คณะทำงานตามที่ตนกล่าวไป ข้างต้นบริหาร ในเรื่องของคะแนนที่เหมาะสมและสานต่อในนโยบายที่เหมาะสม โดยยืนยันว่ารัฐบาลมี313เพียงพอ การที่เราจะมานั่งคิดหรือบอกว่า เราจะต้องได้ 376 เสียง ที่จะต้องหาเพิ่มเติม ยังไม่เป็นประเด็นสำคัญในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มีหลายฉากทัศน์ที่เราอาจจะคาดไม่ถึง เราอาจจะต้องหากรอบเจรจาเพื่อหาตัวเลขเพื่อที่จะหาความแน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล และลดความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลใจ มั่นใจว่าจัดตั้งได้แน่นอน” ส่วนที่ว่า หากไม่ผ่านและมีการโหวตรอบ 2 จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่นั้น หากเราไม่มี โรดแมปหรือฉากทัศน์ที่ชัดเจน ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็คงกังวล แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่กังวล เพราะเรามีโรดแมป ฉากทัศน์และเป้าหมายที่ชัดเจน หากฉากทัศน์ที่หลุดออกมาเป็นเรื่องที่เราคาดไม่ถึง เป็นไปไม่ได้ เพราะเราคาดมา ก่อนแล้วว่า หากเกิดกรณีเช่นนี้ เราจะทำอย่างไรให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้ด้วยดี
เรียกว่าดูทรงแล้วแม้ดูเหมือนจะมีการแสดงความมั่นใจในการเตรียม “ฉากทัศน์” สิ่งที่จะเกิดขึ้นทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล ที่หลายฝ่ายประเมินว่า นอกจากด่าน 250 ส.ว.ที่ถูกวางไว้โดย “ฝ่ายอำนาจเดิม” ที่ทำให้เกิดการเป็น“ตัวแปรผกผัน” ให้มีข่าว “นักการเมือง” บางกลุ่มที่เคยร่วมรัฐบาล3ป.ไปเคลื่อนไหวต่อรองกับ พรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม บางพรรค ให้เข้าร่วมโหวตให้กับ แผนต่อไปให้กับ “อุ๊งอิ๊ง” เพื่อไทย หาก พิธา ไม่ได้ไปต่อด้วยอุบัติเหตุใดอย่างเช่น
กรณี “คดีหุ้นITV” หรือ แม้กระทั่งไม่ผ่านการโหวตถึง 376 ในรัฐสภา จากการถูกสกัดจากส.ว.250 ที่จะเป็นความ ชอบธรรมของ เพื่อไทย ซึ่งหากเป็น เพื่อไทย ส.ว.หลายรายก็มีการแสดงท่าทีก่อนหน้านี้แล้วว่า อาจเป็นไปได้มากกว่า ก้าวไกล ในการเป็นแกนนำการตั้งรัฐบาล ในท่ามกลางการปล่อยข่าวก่อนหน้านี้ กดดัน2พรรค ประชาธิปัตย์ ที่มีส.ส.24คน-ภูมิใจไทย70 คน ที่ทั้ง2พรรคนี้ เคยไม่เห็นด้วยกับรธน.ม.272 ที่ส.ว.250 มีเอี่ยวโหวตนายกฯ มาช่วยโหวตให้โดยไม่ต้องร่วมรัฐบาล เพื่อปิดสวิตช์ส.ว.ที่เมื่อวาน ภท.มีการแถลงการณ์ไปแล้วว่าไม่โหวตให้พิธา ที่ทั้งหมดถือว่า เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นในฉากทัศน์การจัดตั้งรัฐบาล ที่อาจทำให้ “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯคนที่30 หรือ ก้าวไกล กลับไปเป็นฝ่ายค้าน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews