Home
|
ข่าว

MOU รักระแวง – แย่ง ปธ.สภาส้ม

@บทตัดแทรกระหว่างรายทาง ปัญหาการจัดตั้ง “รัฐบาลส้ม” ภายหลังการเซ็นMOU 8พรรคร่วมรัฐบาล 313 เสียงตั้ง “รัฐบาลสัม”ภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล

 

 

โดยมี “พ่อส้ม-พิธา”เป็นนายกฯคนที่30 ที่ไม่เพียงแต่ปัญหาการ“หาเสียง”ให้ได้ 376 เพื่อโหวตนายกฯ ที่ถูกตั้งแง่ถึงที่สุด จาก “ส.ว.250”ที่ถือเป็น มรดกอำนาจดั่งเดิม ของรัฐบาลคสช.เดิมของ “ลุงตู่-ลุงป้อม”จนเมื่อวาน ด้อมส้มทนไม่ไหวไปม็อบกดดันที่สภา

 

โดยในประเด็น MOU หลายฝ่ายแม้กระทั่งซีกฝั่ง“ศูนย์อำนาจ 3 ป.”หรือฝ่ายที่คอยจับผิดพรรคเพื่อไทย(พท.)อย่าง “ตู่-จตุพร”กลุ่มหลอมรวม ยังมองเป็นเพียงแค่“พิธีกรรม”ที่ยังมีอีกหลายด่านหินอันยากที่ “พิธา”ก้าวไกล จะไปถึงฝั่งฝันเป็น “นายกฯคนที่30”

 

โดย MOU ที่ว่ามีโอกาสถูกฉีกไม่ต่างจากสัตยาบัน แม้ก้าวไกล จะยอมถอยหลายก้าวแล้ว ทั้งการไม่บรรจุการแก้ ม.112 ในMOUเพื่อให้ พรรคร่วมสบายใจ โอเค

 

@กระทั่ง“อ.ปิยบุตร”ต้องออกมาติง และย้ำเตือนก้าวไกล อย่าถอยไปเรื่อย จนปล่อยตำแหน่งสำคัญ “ประธานสภา”ให้ใคร เพราะเป็นตำแหน่งสำคัญทั้งต้นน้ำปลายน้ำในการคอนโทรลเกมการเมืองในสภาตั้งแต่การตั้งต้นคุมรัฐสภาในการโหวตนายกฯ ไปจนการคุมการกำหนดวาระกฎหมายเข้าพิจารณาในสภา อย่างที่ หลังจากนี้ก้าวไกลอาจต้องยอมปล่อยกระทรวงเกรดAให้เพื่อไทย

 

ที่อาการดังว่าส่งผลเป็นแรงกระเพื่อมมายังพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะผ่านจาก“หมอชลน่าน”หรือ “อดิศร เพียงเกษ”ทำนองติงกก.ว่า จะ“กินรวบ” ทั้ง นายกฯและ ปธ.สภา โดยบอกว่าบุคลากรเพื่อไทยเก๋าเหมาะสมกว่า ซึ่งอาการนี้ยังส่งไปผ่านไปยังท่าทีเปรียบเทียบนโยบาย พท.-ก้าวไกล กรณีแจกหมื่นกับค่าแรง450ที่ “พิธา”เพิ่งถอยอีกเมื่อวาน จากบรรดาส.ส.ของเพื่อไทย

 

@แต่ที่ดูฮอตปรอทร้อนอีกคู่ของ พรรคร่วมรัฐบาล คือ ระหว่าง เพื่อไทย กับ ไทยสร้างไทย ระหว่าง “หมอชลน่าน”กับ “แดดดี้ น.ต.ศิธา ทิวารี”ที่คนหนึ่งเป็น “ดาวสภา”คนหนึ่งเหมือนเป็น“ดาวติ๊กต็อก”ที่เกิดอาการ สปาร์ค เดือดถึงขั้นเจอจะชกหน้า จนอีกฝ่ายต้องออกมาบอกขอโทษหากรุกล้ำกดดันเกินไป จากเหตุรักระแวง จนไปถามแทนนักข่าววันเซ็นMOU 8 พรรค เสนอให้ก้าวไกล กับ เพื่อไทย

 

ทำ “แอดวานซ์เอ็มโอยู”หรือที่ “ผู้พันปุ่น”เปรียบเทียบMOUคือเป็นแฟนกัน แต่แอดวานซ์MOU คือ “หมั้นกันแล้ว” ให้สัญญาจะจับมือกันไปไม่ทิ้งกันไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือต้องไป

 

เป็นฝ่ายค้าน เพื่อแก้เกมการสืบทอดอำนาจ “รัฐบาล3ป.”2ลุง ที่ต้องไม่ลืมว่าช่วงหาเสียงเลือกตั้ง “ผู้พันปุ่น”เคยจี้ถาม เพื่อไทยรวมถึง หมอชลน่าน ในหลายเวทีดีเบต กับ ความชัดเจนในการจะไม่ตั้งรัฐบาลกับ “2ลุง”ลุงป้อม-ลุงตู่ จนต่อมาช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง “พิธา”นำมาประกาศมอตโต้ “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง”อันส่งผลต่อเพื่อไทย

 

จนแม้ “อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา”ร่วมกันประกาศยืนยันไม่ร่วมรัฐบาลกับ2ลุง ก็ยังไม่ทำให้คะแนนเพื่อไทยกระเตื้อง กระทั่งผลเลือกตั้งออกมาก้าวไกลชนะเพื่อไทย พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ชนะ พรรคฝ่ายรัฐบาลเดิม ที่ภายหลัง “พี่โทนี่”เองก็ยอมรับว่าประเด็นดังกล่าวส่งผลต่อคะแนนเพื่อไทยและกว่าจะแก้ชี้แจงก็ไม่ทันการ

 

@เรียกว่าความขัดแย้งดังกล่าวระหว่าง2 พรรคใหญ่ ถูกมองว่าส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์ที่รุมล้อมมาตั้งแต่ข่าวการพลิกสมการข้ามขั้ว ที่ “ลุงป้อม”จะลาออกและเทคนจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มายังเพื่อไทย ที่จะทำให้เพื่อไทยมีเสียงมากกว่าก้าวไกล จนนำตั้งรัฐบาลได้ ที่ “หมอชลน่าน”ผู้ที่เคยแนะก้าวไกล

 

ทำนอง หลักการการที่จะไปพูดคุยเจรจาส.ว.หรือส.ส.โดยเฉพาะ ส.ส.ที่จะมาโหวตนายกฯให้นั้น หลักการโดยทั่วไปคือ “ไม่มีของฟรีในโลก”ถ้าจะโหวตให้ต้องมีเงื่อนไขที่เขาจะได้ประโยชน์ ที่แม้จะออกตัวแจงเป็นครั้งที่ 501 บนเวทีMOUว่าไม่แข่งตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล ยังหนุน“พิธา”เป็นนายกฯคนที่30 แต่ก็ยอมรับว่าไม่สบายใจที่เพื่อไทยตกเป็นเป้าถูกมองว่า

 

“ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง”ตลอดหลังจากที่มีการวิเคราะห์ว่าเพื่อไทยมีโอกาส “ส้มหล่น”หากการโหวตนายกฯก้าวไกลมีปัญหาจาก “พิธา”ที่ยังต้องเจอกับปม“หุ้นสื่อITV”ที่ส.ว.250 กำลังยกเป็นเงื่อนไขการไม่โหวตให้ เพราะ“คุณสมบัตินายกฯ”นอกจากปม ม.112.

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube