@ก่อนจะบานปลายไปกว่านี้ หัวขบวนระดับหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรค ของทั้ง “เพื่อไทย”และ “ก้าวไกล”อย่าง “พิธา”และ “ภูมิธรรม”ต้องรีบออกมาช่วยเคลียร์ให้ปม “ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ”ระหว่าง2พรรค
หลังจากที่มีการส่ง “ตัวตึง”ออกมาปฏิบัติการปั่นต่อจาก เหตุการณ์ “ผู้ปั่นปุ่น”กับ “หมอชลน่าน” โดยมีการออกมายืนยันนั่งยันนอนยันว่า ตำแหน่งประธานสภาฯต้องเป็นของฝ่ายตน โดยเฉพาะ เพื่อไทย ที่ออกอาการชัดเจนหลังสัญญาณย้ำจาก“ปิยบุตร”ผู้นำแห่งจิตวิญญาณ ของ “ก้าวไกล”ที่อยู่วงนอกที่ยืนยันว่าก้าวไกลจะต้องไม่ถอยจนถึงขนาดปล่อยตำแหน่งประธานสภาให้เพื่อไทย ไล่เรียงตั้งแต่ “อดิศร-หมอชลน่าน-ประเสริฐ”จนมาถึงผู้คนในกลุ่มแคร์และ“ทักษิณ”ที่ส่งสัญญาณกรุ่นๆในที กระทั่งลามสู่ “นางแบก-นายแบก”และติ่งของ เพื่อไทย ที่ออกมากระเพื่อมเมื่อคืนวานขู่ว่าจะนัดรวมพลไปที่พรรค28พ.ค.เพื่อขอให้เพื่อไทย ถอนตัวจากการ “ร่วมรัฐบาลส้ม”
@ที่แม้ “จาตุรนต์”คนเพื่อไทย จะออกมาพยายามช่วย เบรกดาวน์ สถานการณ์กลางดึก ว่า ให้ยึดธงภารกิจพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่อุตส่าห์ชนะฝ่ายเผด็จการ ฝ่าย “รัฐบาล3ป.”มาได้ด้วยฉันทามติประชาชน ทั้งเพื่อไทย และก้าวไกลเพลาๆระวังเข้าเหลี่ยม “ลุงข้างบ้าน”ที่จ้องชิงจังหวะโดยย้ำให้ยังคงต้องจับมือกันต่อไป และไม่เชื่อว่าเพื่อไทย จะกล้าถอนตัวไปเปิดดีลข้ามขั้วกับ “พรรคลุงคนพี่”หรือแม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่มีการจับตา“ภูมิใจไทย”ที่มี71เสียง เพราะประชาชนจะไม่ยอม แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แถม “จาตุรนต์”ยังโดนลูกหลงจากติ่งเพื่อไทย ทำนองเอาใจพรรคเด็กส้ม มากกว่า โดยสถานการณ์พอข้ามมาอีกวันบรรดาผู้คนในเพื่อไทยก็ยังออกมายืนยันว่าถอยไม่ได้
@กระทั่งมีนักวิชาการเช่น “อ.ปริญญา”ออกมาเสนอทางเลือก3-4ทาง คือ 1.เพื่อไทยยอมให้ก้าวไกลนั่งปธ.สภาแต่ต้องมี การ ชดเชยเพิ่ม2.ก้าวไกล ยอมเพื่อไทย แต่เพื่อไทย ต้องสัญญาจับมือไปด้วยกันตลอดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านรัฐบาล3.ให้พรรคอื่นเป็น อย่างเช่น ให้ “อ.วันนอร์”จากพรรคประชาชาติ เป็น ปธ.สภา และ 4.ปธ.สภาคนละครึ่งเพื่อไทย ก้าวไกล แบ่งกันเป็นคนละครึ่ง คือคนละ2ปี ในขณะที่ “อ.สุขุม นวลสกุล” เสนอให้ก้าวไกลเป็นก่อนเมื่อได้นายกฯมาค่อยถ่ายปธ.สภาให้เพื่อไทย
@ที่แม้จะมีเสียงติงจากหลายฝ่ายเป็นห่วงจะนำไปสู่ความร้าวของ “รัฐบาลส้ม”ก่อนตั้ง แต่สถานการณ์ความขัดแย้งก็ยังดูไม่ดีขึ้น กระทั่ง “พิธา”ต้องออกมายืนยันว่าจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การพูดคุยของทีมเจรจาที่ตั้งไว้ โดยยึดแนวทางการให้เกียรติ7พรรคร่วมรัฐบาล โดยเชื่อว่าจะสมานรอยร้าวได้และเชื่อใจว่าเพื่อไทยจะไม่ถอนตัวจากพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เป็นเรื่องปกติของการทำงาน ซึ่งอาจจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันแต่ถ้าเรานำประชาชนมาเป็นที่ตั้งและกลับมาพูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผล ทุกอย่างมีทางออก โดยไม่กังวลการชุมนุมของFCเพื่อไทยวันอาทิตย์ แต่กระบวนการสำคัญคือการพูดคุยกันการปรับจูนเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้เหมือนอย่างที่ประชาชนไว้วางใจ
@ขณะที่ “ภูมิธรรม”รองหัวหน้าพท.บอกว่าเดิมที ทั้ง2พรรคมีการตั้งทีมเจรจาในเรื่องต่างๆ อยู่ รวมถึงเรื่องของตำแหน่งประธานสภาด้วย ซึ่งทีมเจรจาของพรรคพท.ได้เสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่าตำแหน่งประธานสภาฯควรเป็นของพรรคพท.เพราะพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารไปแล้ว ทางทีมเจรจาของพรรคก้าวไกลได้ระบุว่าจะรับไปพิจารณาหารือกันภายในแล้วจะประสานกลับมา ซึ่งทางเราก็รออยู่จนถึงตอนนี้ และก็ยังไม่ได้รับการประสานกลับมา เพื่อเชิญเราพูดคุยถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด ดังนั้นการแถลงหรือพูดเรื่องดังกล่าวของสมาชิกพรรคก้าวไกลถือว่าเป็นเสียงสะท้อนของบุคคลนั้นๆ ไม่ใช่จากตัวแทนของทีมเจรจา ทุกพรรคมีสิทธิ์คิดได้แต่ควรหารือกันด้วยเหตุผลจนได้ข้อสรุปผ่านทีมเจรจาของทั้งสองฝ่ายก่อนที่ใครจะมาแถลงต่อสาธารณะหากตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคพท. การเดินหน้าผลักดันกฎหมายต่างๆ ย่อมว่ากันไปตามกฎหมายกฎระเบียบวาระของสภาฯ ไม่มีอะไรที่ต้องขัดแย้งหรือต้องวิตกกังวล อะไรที่ทำได้ก็ทำ อะไรที่ทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้ทุกเรื่องว่ากันไปตามกฎระเบียบข้อบังคับ ไม่ใช่ว่ากันตามอำเภอใจของใครหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews