@ แม้จะมีการขอโทษขอโพยผ่านอากาศ จาก “อดิศร เพียงเกษ” ไปยัง “พรรคก้าวไกล” ว่าด้วยเรื่องปมศึกชิงตำแหน่ง “ประธานสภาฯ” ระหว่าง เพื่อไทย-ก้าวไกล
แต่สัญญาณ โดยนัย ถูกส่งผ่านสำเร็จไปแล้วจากที่ประชุมใหญ่ 141 ส.ส.เพื่อไทย ว่า ยังไงตำแหน่งนี้ ต้องเป็นของ “เพื่อไทย” อย่างที่ “อ้วน” ภูมิธรรมแกนนำยุทธศาสตร์ทีมเจรจากับก้าวไกล บอกกับที่ประชุม หลังโดน “ทัวร์ลง” จากส.ส. โดยการนำของเพื่อนรักที่เข้าป่ามาด้วยกัน อย่าง “อดิศร” เจ้าของประโยคทำนอง “พระบวชใหม่ อย่าริเป็นเจ้าอาวาส” ว่า ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกลมี ส.ส.เขต เท่ากัน 112 จะต่างกันก็ปาร์ตี้ลิสต์ 10 คน ควรแบ่ง 2 ประมุข คือฝ่ายบริหาร นายกฯพิธา ก้าวไกลและ ฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นของเพื่อไทย บวกด้วยพรรคละ 14 เก้าอี้ รมต.
@ แม้จะถือเป็นการพลิกตลบที่ 3 ของ “ภูมิธรรม” หลังจากที่เคยแสดงท่าทีเหมือน “ถอย” ให้ก้าวไกลจนทั้ง “โรม” และ “ชัยธวัช” ออกมาเคลมขอบคุณ ในจังหวะที่ก้าวไกลเอง ก็กำลังนัวอยู่กับการกู้ระเบิด กับดัก “พิธา”ในการก้าวสู่ นายกฯ คนที่ 30 ที่ถูกต้านจากฝั่งอนุรักษ์นิยม ผ่าน “ขุมข่ายอำนาจเก่า” รัฐบาลเดิมของ “ลุงตู่”ผ่านกลไก 250 ส.ว.ที่ รัฐธรรมนูญ 60 ออกแบบมาให้สามารถแจมในการโหวตนายกฯ ที่แสดงตนอย่างเด่นชัดว่าจะสกัด “พิธา” ก้าวไกล อย่างสุดกำลัง อันถือเป็น “โจทย์หิน” ที่ยาก ที่ก้าวไกล พิธา จะ “หาเสียง” ให้ได้ถึง 376และกลายเป็น “ตัวแปรสำคัญ” ที่ทำให้ฝ่ายต่างๆ รวมทั้ง “2ลุง” คิดค้นสูตร “แพ้แต่กลับมาชนะ”
@ ที่ “เครื่องมือสำคัญ” ในการแทรกแซง คือ เหล่าบรรดา “นักการเมือง” ที่ต้องการผลประโยชน์และอำนาจแบบแทงหวยถูก เป็นรัฐบาลมาตลอด ซึ่งล้วนเคยมีสายสัมพันธ์กันในครั้ง “รัฐบาลลุงตู่” ก่อนแยกย้ายไปลงเลือกตั้งผ่านพรรคต่างๆ รวมถึง เพื่อไทย ที่มีผู้คนจากพรรครัฐบาลเดิม อย่างพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่เป็นทั้ง “ศิษย์เก่า”และ คนใหม่ เข้ามาร่วม ไม่ว่าจะเป็น แกนนำ “กลุ่มสามมิตร” อย่าง “สมศักดิ์-สุริยะ” หรือ “สุชาติ” ที่กระจายผู้คนไปอยู่พรรคต่างๆ ในขณะที่ตัวเองอยู่เพื่อไทย และอีกหลายๆ คน ไม่นับรวม “ผู้กองนัส” มืองานของ “ลุงป้อม” ในพปชร.ที่ถูกมองเป็น มือประสานทุกทิศ
@ ที่ไม่แปลกว่า เมื่อปัจจัยแห่งโอกาส การก้าวสู่นายกฯของ “พิธา” ถูกทำให้ดูริบหรี่ ที่จะฝ่าด่าน ส.ว.250แม้จะสามารถฝ่าด่าน กกต. มาได้ จากบรรดาข้อร้องเรียนของเหล่านักร้อง ปมคุณสมบัติถือหุ้นสื่อ ITV หรือ ปมแก้ ม.112จะทำให้ “ฝ่ายนักการเมือง” หันมาสนใจในสมการ “สลับขั้ว” แบบที่เริ่มมีการนำเสนอทิศทางทำนอง หากก้าวไกลหาเสียงไม่ได้ 376 เพื่อเสนอ “พิธา” พรรคเพื่อไทย ก็มีโอกาสเสนอแคนดิเดตนายกฯ และด้วยเหตุความจำเป็นของทั้งก้าวไกลและเพื่อไทย ที่เอาชัวร์ ทั้งจังหวะ 1 จังหวะ 2 ในการคุมจังหวะเกมโหวตนายกฯ เพื่อเป็นรัฐบาลก็ต้องมีประธานสภาฯ เป็นของพรรค ทำให้แม้จะมีการ “เตือนสติ” ให้ 2 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย จับมือกันให้มั่นตามฉันทามติประชาชน ไม่ให้ “อำนาจเก่า” กลับมา ก็ยังเกิดอาการ แกว่งไกว จากปัจจัยแทรก “นักการเมือง”ที่มองทะลุเกม โอกาสการเป็นรัฐบาล
@ ที่ทั้งหมด มาในจังหวะที่ “ตู่ จตุพร” ที่เจ็บปวดใจจากคนไกล ออกมาแฉทิศทางของเกม ที่โยงไปยัง “ลุงบางคน”ที่ไปเปิด “บิ๊กดีล” กับใครบางคน ที่ต้องการกลับบ้าน แลกกับการให้ “ลุง” เข้ามากุมสภาพ เพื่อกันทางถอย ของ “น้องเล็ก”โดยกระบวนการหนึ่งในนั้น หากการคุย ก้าวไกล-เพื่อไทย ตำแหน่ง ปธ.สภาจบลงที่ก้าวไกล “พรรคลุงคนพี่” จะเสนอชื่อ”สุชาติ” มาแข่ง โดย “สุชาติ” อาจไม่อยู่ในที่ประชุม เพื่อเลี่ยงการถูกกดดัน ที่แม้จะมีการปฏิเสธขึงขังจาก “หมอชลน่าน”ที่ยกเทียบ หากเป็นตนถูกเสนอจากพรรคอื่น จะ “ถอนตัว” แต่ก็ยังไม่มีท่าทีใด ออกมาจาก “สุชาติ” ในเรื่องนี้ในขณะที่สภาพการณ์ระหว่างการไปอังกฤษของ “ลุงป้อม” ที่ประเทศไทยก็มีการกระเพื่อมแรงของเพื่อไทยที่เรียงแถวออกมาขึงขังกับ “พรรคเด็ก” โดยส.ส.รุ่นเก๋า ไม่ว่าจะเป็น “อดิศร” หรือ “ร.ต.อ.เฉลิม” ที่ย้ำถึงมติเสียงส่วนใหญ่ของส.ส. 141 เสียง และคนในพรรค ยืนยัน ประธานสภาฯ ต้องเพื่อไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews