มีลุง(ส.ว.250)-ไม่มีเรา(ก้าวไกล)
น่าจะมี “คำตอบ” ใน “คำถาม” ต่อสมการปัญหาความขัดแย้งระหว่างเพื่อไทย กับก้าวไกล จากปม“ประธานสภา”
น่าจะมี “คำตอบ” ใน “คำถาม” ต่อสมการปัญหาความขัดแย้งระหว่างเพื่อไทย กับก้าวไกล จากปม“ประธานสภา”ที่เพิ่งเลื่อนนัดกันยกสุดท้ายใกล้เส้น 2 ก.ค. ก่อนวันรัฐพิธีเปิดสภา 3 ก.ค.ที่ว่ากันว่าผลออกมาจะหา จุดลงตัวตามครรลองด้วยเหตุและผลให้เกิดความไว้วางใจกัน หลังช่วงที่ผ่านมา “ทัวร์ลงหนัก”เพื่อไทย ที่ยืนยันสูตร 14+1 ในจังหวะคู่ขนาน ผ่านภาพการ “บิวท์อารมณ์” ปัจจัยเหตุ และผล จากบรรดาองค์กร ตามรัฐธรรมนูญ60 ที่รายล้อมไม่ว่าจะเป็นวุฒิสภา ส.ว.250 กกต.
แม้กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญที่กำลัง “ฟังก์ชั่น”ออกมา “เร่งปฏิกิริยา”ในจังหวะเวลานี้ อันมีกระบวนอันเกี่ยวข้องไปทั้งปมคุณสมบัติต้องห้าม ถือหุ้นสื่อITVของ “พิธา” และ การแก้ไข ม.112 ของพรรคก้าวไกล ที่อาจเป็นทั้ง “ตัวแปร”และ“สารตั้งต้น”ของเงื่อนไขในความ ซับซ้อนยุ่งยากกับการตั้งรัฐบาลประเทศไทย ณ พ.ศ.นี้ ที่เริ่มมีนักลงทุนต่างประเทศแสดงความเป็นห่วงและ แปลกใจในครรลองอัน “ไม่ปกติ” โดยเฉพาะการตั้งรัฐบาล 8 พรรค 312 เสียง ภายใต้การนำหรือการร่วมของ พรรคก้าวไกล
อย่างที่ “ส.ว.เสรี สุวรรณภานนท์”ที่ทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองวุฒิสภา รวบรวมเหตุผล3-4 ประเด็นข้อกล่าวหา พฤติกรรมการกระทำต่างๆที่จะทำให้ ส.ว.250 จะไม่โหวตให้ “พิธา”เป็นนายกฯคนที่ 30 และ ไม่โหวตให้ “แคนดิเดตนายกฯ”จากพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็น “เศรษฐา”หรือ “อุ๊งอิ๊ง”หาก
กระบวนการผ่านไปถึงขั้นตอนที่ “พิธา”ไม่อาจผ่านด่านไปได้ และถึงคิวของพท.
ที่จะเสนอโหวตนายกฯ หากรัฐบาลนั้นยังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ เว้นแต่หากผลแห่งความขัดแย้งจากศึกชิงประธานสภาของ 2 พรรคใหญ่ จะทำให้ปล่อยมือจากกัน และ กก.ไปเป็นฝ่ายค้าน และพท.ตั้งรัฐบาล ส.ว.ก็พร้อมจะยกมือโหวต สนับสนุนนายกฯให้ ไม่ว่าจะเป็น “เศรษฐา”หรือ “ลุงป้อม” ที่ยังไม่นับรวมถึงท่าทีชัดเจนจาก “ส.ว.250” ที่จะไม่ยอมรับ ไปถึงกระทั่งหาก “ประธานสภา”เป็นคนจากก้าวไกล
ที่ทั้งหมดเท่ากับเป็นการย้ำ และบ่งบอกชัดแจ้งจาก “ส.ว.”ที่ถือเป็น “ตัวแปรหลัก”ที่จะสกัดการไปถึง 376ของพิธา หรือแม้กระทั่งแคนดิเดตนายกฯคนอื่นๆ ว่า พรรคก้าวไกลเป็นจุดอ่อนที่ต้องถูกขจัดออกไปจาก“สมการ”ของฝ่ายการเมือง หากคิดเข้าสู่อำนาจการเมืองในการเป็นรัฐบาล ที่แน่นอนสำหรับกก. “พรรคเด็ก” ย่อมไม่รู้สึก เพราะพวกเขาบอกเสมอว่า “รอได้” เวลาเป็นของพวกเรา แม้จะไม่ได้เป็น “รัฐบาล”ก็พร้อมเป็น“ฝ่ายค้าน”แถมหากต้องไปเป็น “ฝ่ายค้าน”จริงๆในงวดนี้ทั้งที่จ่อๆจะเป็นรัฐบาล อันด้วยเหตุปัจจัย ที่เกิดจากบรรดา“ลุงๆ”ทั้งฝ่ายเดียวกัน(ฝ่ายประชาธิปไตย) และฝ่ายคนละขั้ว รวมถึงลุงๆในองค์กรต่างๆ ไม่ยอมให้เป็น ก็ยิ่งจะกลายเป็นแรงสะท้อนกลับเป็น “บวก”กับก้าวไกลในการเลือกตั้งงวดหน้าที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่า 4 ปี
อย่างที่ “ครูใหญ่”ของม็อบเด็ก “อรรถพล”อุตสาห์เผยไต๋ บอก “จุดตาย” ก้าวไกล ที่เป็นพรรคเด็กให้ “ฝ่ายลุง”รู้ในที ว่า แทนที่จะกีดกันขัดขวาง ทำไมไม่ปล่อยให้ “ก้าวไกล”เป็นรัฐบาล ที่จะต้องเจอกับปัญหา การบริหารตามที่หาเสียงทั้งต้องตีฝ่ากับนักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งต้องตีฝ่ากับ แผนยุทธศาสตร์ชาติของ
“ลุงตู่” และ ส.ว.ก็ยากที่จะทำได้ง่าย ไม่นับรวมต้องตีฝ่าใน “ฝ่ายนิติบัญญัติ”ในการเสนอกฎหมายที่ต้องถูกสกัดจาก “ลุงส.ส.”และ “ลุงส.ว.”ที่ถึงเวลานั้น ก้าวไกลจะฝ่อจากความนิยมจากประชาชนไปเอง
เรียกว่าทั้งหมดการเมืองการตั้งรัฐบาลใหม่มาแทน “รัฐบาลลุงตู่” ที่ยากยิ่งฉีกไปจากครรลองปกติครั้งนี้กำลังถูกมอง เหมือนภาพย้อนกลับไปที่ช่วงระหว่างการหาเสียงของพรรคก้าวไกลที่ “พิธา”ปิ๊งไอเดีย ชู “มอตโต้”เป็นจุดพลิกไปสู่การ “แลนด์สไลด์”ของก้าวไกล แบบที่ทำให้ทั้ง “ลุงพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม”และ
“ลุงฝ่ายพรรคประชาธิปไตย”ช็อตฟิวส์ คือมอตโต้ “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” กำลังกลับมาย้อนภาพจำอีกครั้งที่อาจเป็นอนาคตถัดจากวันเปิดสภาโหวตประธานสภาไปสู่การโหวตนายกฯ ในจังหวะนี้ กับอาการ “มีลุงส.ว.250 ไม่มีเราก้าวไกล”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews