@ ไม่ว่า นักวิชาการ นักสังเกตการณ์ ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง หลายท่านล้วนจับจ้องกังวลต่อสถานการณ์แห่ง “ผลลัพธ์”
ในวันที่ 13 ก.ค. ที่ “รัฐสภา” ส.ส. 500 และ ส.ว.250 จะมีการโหวต “นายกฯ คนที่ 30” ที่ต้องได้เสียง ไม่ต่ำกว่า 376ที่หลายฝ่ายการเมือง ประเมิน “หลายฉากทัศน์” เป็น “ลบ” มากกว่า “บวก” สำหรับ”พิธา” และ”ก้าวไกล”อันต่างจาก “เพื่อไทย” ที่ถูกมองไปถึง “ปัจจัยแปรผัน” ของโอกาส การเข้าสู่อำนาจการเมืองในแบบใดแบบหนึ่งที่อาจแลกมาด้วย “ผลกระทบ” กับทิศทางเดิมของ 8 พรรค 312 เสียง ภายใต้ข้อเหตุอ้าง ที่ตั้งต้นมาจาก “ตัวแปร”ทางการเมือง อย่าง “ส.ว.250″ ที่ถูกมองว่า มาจาก ลุง”2ป.” สู่ การตั้งเงื่อนไข ม.112 และ คุณสมบัติ “พิธา”ไปสู่การปฏิเสธการโหวต
@ ที่คู่ขนานกันไปในทางการเมือง เกมการเมือง ทั้งแบบ “สลายขั้ว” “พลิกขั้ว” ปรากฏความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักกับการข่าวคราว เกมการต่อรองทางการเมือง ในการจัดตั้งรัฐบาลแบบรอผลส้มหล่นของหลายฝ่าย ที่รอคอย “จังหวะ2″เมื่อกระบวนการโหวตนายกฯ ที่วางไว้เบื้องต้น 3 วัน ถึงจังหวะ ที่ถูกบีบให้ “จบไว” ในกรณี “พิธา” ที่จะถูกเสนอชื่อคนแรกในส่วนของพรรคก้าวไกล ที่มี ส.ส. มากสุด และตามมาด้วย “เศรษฐา” หรือ “อุ๊งอิ๊ง” จากเพื่อไทยไม่นับรวมการวิ่งหาเสียง ส.ว.และส.ส.พรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม ของ พรรคก้าวไกล ที่ทั้ง “ไหม-ศิริกัญญา””ชัยธวัช” และ “พิจารณ์” วันนี้เหมือนจะมั่นใจว่า ได้เสียงสนับสนุนจากส.ว. มากกว่า 64
@ แต่ที่น่าสนใจ คือ ร่องรอยความเคลื่อนไหว ที่ดูคล้ายไปสอดคล้อง ตามที่ “พิธา” อธิบาย ทำไม ก้าวไกลยอมเสียเก้าอี้ “ประธานสภา” ไปออกที่ “คนกลาง” อย่าง “อ.วันนอร์” กับ “มอตโต้” “รุกได้ ถอยเป็น” หรือการถอยเพื่อกระโดดให้ไกล จน “ทนายอานนท์” แกนนำ “ม็อบเด็ก” ออกมาติงกระตุก อย่าทิ้งจุดยืนประชาชน
ฝ่ายประชาธิปไตย ไปลดเพดาน ม.112 ตามคำยุของ “ส.ว.” หรือแม้กระทั่งการไปร่วมกับ “พรรคฝ่ายเผด็จการ”ไม่ว่าจะเป็น ลุง 2 ป. หรือพรรคร่วมรัฐบาลเดิม หลังก่อนหน้ามีข่าว “เสี่ยหนู” ขยับจะมาเป็น “พรรคที่ 9″จน “เลขาชัยธวัช” ต้องออกมาย้ำ “หลักการ” ไม่ถอย จนเกินเส้นจุดยืนของก้าวไกล
@ โดยร่องรอยการเคลื่อน คือการใช้ “อาวุธหนึ่งเดียว” ที่ “พิธา” มีอยู่ คือ “ประชาชน” ที่เป็น”ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก” กับการใช้ช่วงเวลาที่เหลือ ก่อนถึง 13 ก.ค. ลงพื้นที่ ขอบคุณประชาชนคิวล่าสุดที่ โคราชพรุ่งนี้(8ก.ค.) อันเป็นแนว “ปลุกมวลชน” แบบ “ป่าล้อมเมือง” แบบที่เคยไปเคลื่อนตามหัวเมืองที่เหมือนกดดันในทีไปที่สภาฯ โดยเฉพาะ ส.ว. ขณะก็น่าสนใจในลีลาของ “พิธา” วันก่อน ที่เซย์ฮัลโหล โดยตรงไปยังศิลปินระดับโลก เทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งมาทัวร์คอนเสิร์ตแถวสิงคโปร์ ที่เมื่อเดือน มิ.ย.57 เธอเคยมีกำหนดมาจัดคอนเสิร์ตในไทย แต่ต้องเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะมีการรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 โดย “ลุงตู่”ที่ประเด็นนี้ กระเพื่อมการเมืองไทย ที่กำลังเข้าโค้งสุดท้าย ก่อนโหวต “พิธา” เป็นนายกฯ วันที่ 13 ก.ค. ที่เต็มไปด้วยขวากหนามจากฟังก์ชันทุกองคาพยพ ของกลุ่มรัฐบาลเดิม อันเป็นภาคต่อ จาก คณะรัฐประหารปี 57 โดยการนำของ “ลุงตู่” ใน 3 ป.ที่เป็นรัฐบาลมา 8 ปี ไปสู่ความสนใจของโลก มีการตีข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศกรณีนี้ด้วย
@ ไม่แปลกว่า ภาพคู่ขนานแบบ “ป่าล้อมเมือง” โลกล้อมประเทศ ย่อมถูกมอง เป็นแรงกดดันในที ไปที่ “ตัวแปร”สถานการณ์การโหวตนายกฯ วันที่ 13 ก.ค. อย่าง “ส.ว.250” ขณะเดียวกัน สัญญาณโลก บรรดาประเทศต่างๆที่จับตาประเทศไทย ก็ย่อมกดดันกลับมาในที ในลักษณะ “เปรียบเทียบ” กระบวนการอำนาจ ที่มาจากการเลือกตั้งกับ กระบวนการที่มาจากการล้มโต๊ะยึดอำนาจ จาก “ศูนย์อำนาจ 3 ป.” เดิม ที่ยังคงแสดงเจตจำนงในการ “ไปต่อ”กับภาพของ “ลุงตู่-ลุงป้อม” ถอดชุดทหารมาเล่นการเมือง ผ่าน “พรรครวมไทยสร้างชาติ” (รทสช.) และ”พรรคพลังประชารัฐ” (พปชร.) อันอยู่ฝ่ายรัฐบาลเดิม 188 เสียง ที่เคยถูกวิจารณ์ถึงความพยายามตั้ง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
