ปฏิกริยา และ แรงเหวี่ยงกลับ จาก ปรากฎการณ์ สกัด “พิธา-ก้าวไกล”ไม่ให้เป็นนายกฯคนที่ 30 และรัฐบาล ยกแรกที่ ดูทรง อาจถูกขวางไม่ให้มี “ยกต่อไป”
ที่กำหนดไว้วันที่ 19ก.ค. ซึ่งมี “สว.”จำนวนหนึ่งเป็น “พระเอก”ในท้องเรื่องเมื่อวาน(13ก.ค.) ที่แม้ มวลชน“ด้อมส้ม”ที่ไปให้กำลังใจที่รัฐสภา จะแค่แสดงความเสียใจร่ำไห้ ไม่ถึงขนาดกระเพื่อมแรงแบบที่ ฝ่ายความมั่นคง เตรียมกำลัง คฝ. คอนเทรนเนอร์ รั้วลวดหนามไปรับมือ
แต่ยังต้องติดตามปฏิกิริยาต่อเนื่องไม่ว่าจะจากทั้ง ภายใน และ นอกประเทศ ไม่แต่ที่มีการออกมาคอเอาท์ของเหล่าศิลปินดารา หรือจะมี สัญญานดีใจที่ไม่ได้พิธา มาจาก “สมเด็จฮุนเซ็น”จากกัมพูชา ขณะ สื่อตะวันตก ก็มีการตีข่าวทำนอง ทั่วโลกจับตาการเมืองไทยกำลังกลับสู่โซนที่ยังไม่ได้ข้อสรุปไม่สามารถตั้งรัฐบาลที่นำโดย “พิธา”หลังการเลือกตั้ง เพราะกลไกล สว.250ที่ถูกวางไว้ โดย รัฐบาลทหาร
ด้านหนึ่งด้านหมากเกม หลังการโหวตจบลงเมื่อวาน คืนที่ผ่านมา มีรายงาน การเมืองหลายฝ่ายมีการเปิดดีลคุยกันหลายกลุ่ม เริ่มมีการพูดถึง “สูตรสมการ”รัฐบาล ที่แนว “รัฐบาลเสียงข้างน้อย”แบบมี “ลุงป้อม”เป็นนายกฯกลับเข้ามาในผังการคุยในทำนองบีบให้เกิดการระแวงระหว่างเพื่อไทย-ก้าวไกล เช่นเดียวกับ “สูตรการพลิกสลับขั้ว”
เพื่อไทยนำมี“อุ๊งอิ๊ง”เป็นนายกฯที่ไม่มีก้าวไกล บวกพรรครัฐบาลเดิม และ “สูตรการดันพิธาต่อด้วยเศรษฐา-อุ๊งอิ๊งค์”ที่ เพื่อไทย-ก้าวไกล 8พรรคยังจับมือกันต่อ แม้มีความพยายามจากฝ่ายตรงข้ามให้แยกกัน ไม่ว่าจะเป็นการขู่ให้ต้องเสนอชื่อแข่งกับ “พิธา”
ในยก2วันที่ 19ก.ค.ที่ “พิธา”ยังสุ่มเสี่ยงกับ2คดีที่คาอยู่ที่ศาลรธน.จะประชุมในวันนั้นเช่นเดียวกับการเดินเกมขวางไม่มีมีการเสนอชื่อพิธาซ้ำโดยอ้างข้อบังคับ41 ญัตติที่เสนอแล้วไม่สามารถเสนอซ้ำในสมัยประชุมนั้น ที่จะมีการเดินเกมทั้งต่อรองและกดดันในทีไปที่เพื่อไทยที่ต้องเลือกระหว่างการจับมือต่อกับก้าวไกลต่อไปแต่มีโอกาสน้อยในการเป็นรัฐบาล ในขณะที่ ก้าวไกล โดย “ชัยธวัช” ก็มีการขยับนอกจากจะหาเสียงสว.เพิ่มจาก13เสียง ยังเสนอแก้ม.272 เพื่อปิดสวิชต์สว.
เรียกว่า ปรากฎการณ์13ก.ค. นอกจากแสดง สัญญานชัดเจน กับการต่อสู้ระหว่าง เครือข่ายการเมือง“ฝ่ายอนุรักษ์”หรือ ที่ฝ่าย8 พรรค312เสียง เรียก “รัฐบาลเผด็จการทหาร”หรือ กลุ่มพรรครัฐบาลเดิม 188 เสียง ผู้ที่ช่วยทำให้เกิด “การสืบทอดอำนาจ” “รัฐบาล3ป.”ที่เป็น รัฐบาลทหาร ที่มาจากการ ยึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์22พ.ค.57
และได้ออกแบบกฎหมายแม่“รัฐธรรมนูญ60”วางกลไก กับดัก ผ่านองค์กรต่างๆ แบบผูกโยงทั้ง ขาไป-ขากลับ กับรัฐราชการ และ กองทัพ ไม่ว่าจะเป็น “วุฒิสภา” “องค์กรอิสระ” ที่มาในรูปแบบ “ตัวแปร”และ “เครื่องจักรสังหาร”ในปฏิบัติการ “นิติสงคราม”เพื่อดำเนิน การสืบทอดอำนาจต่อไปเรื่อยๆ แบบ4+4=8ปี และ ป้องกันฝ่ายการเมืองตรงข้ามเข้าสู่อำนาจ จะมา “เช็คบิล”อันสำแดงผ่าน การเลือกตั้งปี 62 มาแล้วรอบหนึ่ง
โดยเฉพาะ การทำให้ การเลือกตั้งปี62 “ผู้แพ้เป็นผู้ชนะ”อย่าง พลังประชารัฐ(พปชร.)ที่มี “ลุงตู่”เป็น“แคนดิเดตนายกฯ”แม้แพ้เลือกตั้งให้ “พรรคเพื่อไทย”แต่ สามารถรวมเสียงจากบรรดา นักการเมือง พรรคการเมืองที่ต้องการเป็นรัฐบาล ได้มากกว่ากึ่งหนึ่ง250 ของสภาล่าง เพราะตัวแปร“สว.250”โหวตนายกฯ ที่249คนอ้างพปชร.รวมเสียงได้มาก250
จึงโหวตร่วมรัฐสภาให้ “ลุงตู่”เป็นนายกฯต่อมาอีก4ปีและมีทีท่าว่าจะทำแฮททริกไปต่อแบบไม่รู้จบ ยังดีที่ครั้งนั้น “ศาลรัฐธรรมนูญ”ตีความ คุณสมบัตินายกฯ8ปี“ลุงตู่”เข้าเงี่ยง รธน.ที่เขียนเองโดนเอง แต่ก็ยังอุตส่าห์ยืดเวลาหมดอายุได้2ปี คือ “หมดอายุ”ในปี2568 ที่กลายเป็น “ติ่ง”ให้ “พี่ใหญ่3ป.”“ลุงป้อม”วางตัวเองเข้ามาเป็นนายกฯ “เก็บงาน-ระวังหลัง”ทางลงให้น้อง
ในขณะที่ก็พยายามเคลียร์คัตสลายความขัดแย้งเลิกแล้วต่อกันกับโจทย์การเมืองทุกฝ่ายที่ “ศูนย์อำนาจ3ป.”4ปีแรกที่สวมหมวก2ใบ ในรัฐบาลทหารเคยเรียกไป “ปรับทัศนคติ”ในค่ายทหาร และปักชนักติดหลังไว้ด้วยคดีต่างๆ
ที่ทั้งหมด ไม่แปลกที่ ในอาการเหมือนยังคง“เมาหมัด”ของ “ก้าวไกล”จากเมื่อวาน(13ก.ค.) จะนำมาซึ่งการชี้เป้าไปที่ สว.250 ด้วยการ เสนอแนวการแก้ปัญหาในภาวะที่เกิดปัญหา กับการ เสนอแก้ รธน. ใน ม.272 เพื่อปิดสวิชต์ สว.ที่เอาเข้าจริงจะทำได้ยากกว่าการหาเสียงสว.มาช่วยโหวตนายกฯ อย่างที่คนเพื่อไทยบอกแต่ด้านหนึ่งก้าวไกลอาจหวังเพียงให้ทุกฝ่าย ทบทวนถึงการตั้งอยู่ของ สว.ที่อาจเป็น“ตัวแปรสำคัญ”แห่งปัญหา ในสถานการณ์ ที่ทำให้ การตั้งรัฐบาลปกติที่มาจากการเลือกตั้งเป็นไปได้ยาก และอาจเข้าสู่การติดล็อก หากฝ่ายการเมือง พรรคการเมือง ที่มี ส.ส. มาจากเลือกตั้ง รวมเสียงได้เกินครึ่ง แต่ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
