คู่ขนานไปกับจังหวะที่วันนี้มีการเปิดเยี่ยม “นช.ทักษิณ” ที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมี “อุ๊งอิ๊งค์” มาเยี่ยมก่อนเพียงคนเดียวท่ามกลางแรงกดดันจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะเหล่าบรรดาคู่ปรับเก่าขบวนการไล่ทักษิณที่จ้องจับผิดหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบในการย้ายทักษิณมารักษาที่รพ.ตำรวจ และพยายามคัดค้านการยื่นขออภัยโทษ
ในขณะที่ความคืบหน้าการฟอร์มทีมไปสู่การบริหารรัฐบาล หลังการโหวต “เศรษฐา” เป็นนายกฯสัปดาห์ที่แล้ว มาสู่การตั้งคณะรัฐมนตรีรัฐบาลเศรษฐา1 หรือ “ครม.นิด1” ที่ปรากฏโผครม.มาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว จนถึงช่วงวันหยุดที่สะบัดไปมาท่างเสียงวิจารณ์ จับอาการ “ผิดปกติ” ของ “พรรคแกนนำ” อย่างเพื่อไทย ที่มสีเสียงมากถึง 141 แต่ยอมทุกการต่อรองกับ“พรรคร่วมรัฐบาล”ที่มาจาก 188 เสียงของ “กลุ่มอำนาจเดิม” ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงด้านความมั่นคง การเมือง
ทั้งที่เกี่ยวกับกองทัพ หรือฝ่ายปกครองอย่างกลาโหม ที่มีรายงานตอนแรกว่าจะมี บิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์อดีตเลขาธิการ สมช. คนของ “ลุงตู่”มาแต่มาพลิกในช่วงบ่ายวันนี้อีกตลบเป็น “สุทิน คลังแสง” ส่วน มหาดไทย
ภูมิใจไทยจะขอเหมาทั้งว่าการและช่วยที่นำโดย “เสี่ยหนู” และ “ชาดา”
แม้กระทั่งกระทรวงเศรษฐกิจสำคัญอย่าง ที่เพื่อไทยอ้างแบกรับความหวังประเด็นเศรษฐกิจกับการชู “แจกเงินหมื่นดิจิทัล”ที่เพื่อไทย เพียงเอาไว้แค่คลังให้เศรษฐาควบ,พาณิชย์,คมนาคม,ดีอีเอส.ท่องเที่ยว ส่วน พลังงาน,อุตสาหกรรม,เกษตร,แรงงาน ยอมปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาล เช่นเดียวกับกระทรวงสังคมที่เพื่อไทยเก็บไว้แค่สาธารณสุข,วัฒนธรรม
ส่วน ศึกษาธิการ,อุดมศึกษา ภท.,ทรัพยากรธรรมชาติ พลังประชารัฐ และพัฒนาสังคม ชาติไทยพัฒนาโดยมีรายงานว่า โผครม.35คนที่นิ่งแล้ว จะมีการเสนอรายชื่อให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 28 ส.ค.เพื่อนำไปทำการตรวจสอบประวัติต่อไป อย่างที่ “สุทิน”บอกว่าน่าจะจบวันนี้และน่าจะนิ่งวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้า 1 ก.ย.
เรียกว่า การต่อรองตำแหน่งครม. ในพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ถูกมองเป็นการพลิกประวัติศาสตร์การต่อรองในทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเช่นเดียวกับภาพการพบกันของ 2นายกฯ “เศรษฐา-ลุงตู่” โดยหากเป็นไปตามปกติรัฐบาลที่ผ่านมา จะเริ่มต้นจากการ แบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีก่อนโหวตนายกฯ เพราะ เมื่อโหวตนายกรัฐมนตรีเสร็จแล้ว อำนาจก็จะรวมศูนย์ไปที่นายก แต่การโหวต “เศรษฐา”เป็นนายกฯคนที่30วันที่22ส.ค.ที่เกิดขึ้นหลัง “ทักษิณ”กลับมาในวันเดียวกัน จนถึงวันนี้การต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรียังไม่สะเด็ดน้ำ
ทั้งที่ “อำนาจรวมศูนย์”ควรอยู่ที่ “นายกฯเศรษฐา”แล้ว ทำให้ถูกมองว่าหรือเพราะ “เศรษฐา”อาจไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตัวจริง ที่จะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง เพราะ “ทักษิณ”ยังเป็น “ตัวประกัน” อยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ มีการไม่ยอมตามการต่อรองอาจส่งผลกระทบ ซึ่งอาจหมายรวมไปถึงการส่งผลระยะยาว ในการบริหารจัดการ
ที่ไม่แปลกว่า โฉมหน้าที่ปรากฏของ “ครม.นิด1”นอกจากจะถูกวิจารณ์ความเหมาะสม “ตัวบุคคล”และความไม่แตกต่างในหน้าตา โดยเฉพาะจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมในยุค “ลุงตู่” ยังถูกวิจารณ์ถึง “ความไม่กังวล”ในภาพแบบรัฐบาลเดิม
ที่เกิดปัญหาการบริหารนโยบายแบบพรรคใครพรรคมัน
ที่แม้จะแตกต่างจากรัฐบาลเดิมที่เกิดปัญหาเสถียรภาพจากเสียงปริ่มน้ำ เพราะรัฐบาลนี้มีเสียง 314 แถมมีเสียงสำรองที่พร้อมเข้ามาทดแทนจากปีกฝ่ายค้านบางกลุ่ม มีมองว่า ภาพการ “โฟกัส” ของเพื่อไทยไปที่การชาร์ตหัวใจเศรษฐกิจกับการมุ่งไปที่ “แจกหมื่นดิจิทัล” ที่เป็นแนวนโยบายระยะสั้น
ยังมีโอกาสลุ้นแบบที่ เพื่อไทย พยายาม เลี่ยงประเด็น “ปัจจัยภายนอก”ที่เซ็นท์ซิทีฟความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยกำลังเข้าชื่อทวงสัญญา หรือแม้กระทั่งประเด็นเหลื่อมล้ำอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงก็ตามที่หาก “รัฐบาลนิด1” สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบในช่วงสั้นๆได้ย่อมมีอานิสงส์ในการแก้ตัวในสถานีถัดไปของการเลือกตั้งหลังจากเสียมวลชนจากการยอมพลิกขั้ว มาร่วมกับกลุ่มอำนาจเก่า3ป.ได้เช่นกัน ที่เริ่มมีการวิเคราะห์กันแล้วว่า อายุรัฐบาลผสม “นิด1”กันแล้วว่าอาจไม่ครบเทอมหรือราว 2 ปี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews