@อาจด้วยด้วย “อัตราเร่ง”ในการทำงานทั้งเพื่อทำให้ดูต่างในทีจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาของ “ลุงตู่”และพี่น้อง3ป.
ที่ได้ฉายา “รัฐบาลเรือแป๊ะ”เพราะเป็น “รัฐราชการ” ในขณะ “รัฐบาลเศรษฐา”ผู้นำอย่าง “นายกฯเศรษฐา”มาแนวการทำงานแบบCEOธุรกิจเอกชนหมื่นล้าน แบบคิดปุ๊บสั่งการปั๊บติดตามผล เดินหน้าแบบมี“เป้าหมาย”ทันทีทำให้นับแต่ออกสตาร์ท หลังแถลงนโยบายมีอำนาจเต็ม นอกจากการกระตุกต่อมว้าว ของประชาชน ด้วยการเป็นรัฐบาลสายเปย์ ทำตามที่รับปาก ประชุมครม.นัดแรกเมื่อวาน(13ก.ย.)ออกโปร ลดแลกแจกแถมทันทีทั้งค่าไฟพลังงานน้ำมันดีเซลทันที
ในศุกร์หน้า(22ก.ย.)ถึงสิ้นปี หรือแม้แต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แม้ด่านหน้ายังต้องไปว่ากันเรื่องจะเอาเงินจากไหนมาแจก หรือเอาเข้าจริงเวลาแก้ไขรธน.อาจใช้ถึง3ปีก่อนครบเทอม ก็ตาม
@กระนั้นด้วย ความเร็วแสง แบบ“รัฐบาลเรือเร็ว”ซิ่งทะลุจอ สไตล์เศรษฐา ที่ “หมอมิงค์”เลขานายกฯ บอกว่าเป็นแบบเดียวกับ “ทักษิณ”คือทำงานเร็ว ทำหลายอย่าง เพราะมาจาก “ภาคเอกชน” ย่อมถูกจับตาใน “ข้ออ่อน”ในเรื่องการอยู่ในกรอบกติกากฎหมาย ตามที่ “เศรษฐา”ที่ให้แนวไว้กับ “ครม.”ก่อนเข้าทำหน้าที่ ทำนอง เป็นรัฐบาลประชาชนทำเพื่อประชาชน ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง “หากติดปัญหากฎหมายก็ต้องแก้กฎหมาย แก้ระเบียบ หากติดที่คนก็ต้องเปลี่ยนคน”
จึงไม่แปลกที่ การขับเคลื่อนของ “รัฐนาวาเศรษฐา1”ในการจัดตั้งคน วางนโยบาย การแบ่งงาน กับทั้งต่อ “รัฐมนตรี”ที่เป็น นักการเมือง และกับทั้ง ข้าราชการ หรือแม้กระทั่งประชาชนผู้คน ที่เพิ่ง “เปลี่ยนผ่าน”จาก “ยุคลุงตู่”จะเกิดความรู้สึกเอ๊ะอ๊ะ“ไม่ชิน”ที่บางส่วนเริ่มกลายมาเป็นการตรวจสอบใน “ความไม่ปกติ”ทั้งในมิติ การบ้าน และ การเมืองแม้สุดท้ายจะยังพอแก้ตัวได้ว่าเป็นความผิดพลาดในการสื่อสารที่เป็นปัญหาข้ออ่อนตามที่ “เศรษฐา”บอก
@ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นแนวคิด “นายกฯ”ที่เจตนาดี ในการลดภาระข้าราชการที่มีรายได้น้อยรายจ่ายเยอะเดือนชนเดือนจะให้“แบ่งจ่ายเงินเดือน2รอบ”ให้ข้าราชการ แต่เหมือนยังไม่ได้มีการสอบถามความเห็น จนเกิดกระแสคัดค้าน จนมากลบ “ไฮไลท์”ในการออกโปรที่ต้องการสื่อสารกับประชาชน กระทั่งเศรษฐาต้องออกมาแก้ ว่าแล้วแต่จะเลือกไม่ เช่นเดียวกับบรรดาประเด็นที่มาจาก “โฆษกชัย” โฆษรัฐบาลป้ายแดงซึ่งแถลงข่าวต่อสื่อทำเนียบฯเมื่อวาน(13ก.ย.) ที่กลายเป็น“ประเด็น”ที่ถูกนักกฎหมายท้วงติง
โดยเฉพาะต่อประเด็น “ข้อสั่งการของนายกฯ”ในครม.ที่ “โฆษกชัย”บอกว่า นายกฯสั่งการให้ทุกกระทรวงไปดูมติ ครม. ของรัฐบาลที่ผ่านมาที่ ตั้งคณะกรรมการ 178 ชุด ถ้าชุดใดไม่มีความจำเป็นให้ยกเลิกทั้งหมด โดยให้รายงานผลภายใน 25 ก.ย. รวมถึงให้กระทรวง ทบวง กรม ไปทบทวน คำสั่ง คสช.ยังมีอะไรที่จำเป็นต้องคงไว้หรือไม่ ให้เสนอกลับมาภายในวันที่ 9 ต.ค. หากไม่เสนอมาถือว่ายกเลิกทั้งหมด
@โดย “โฆษกชัย”อ้างว่า นายกฯ ยังบอกต่อที่ประชุมว่า ประชาชนคิดจะทำอะไร ถ้าไม่มีกฎหมายเขียนว่าห้ามทำให้ถือว่าทำได้ทุกอย่าง เราเปลี่ยนยุคแล้ว ยุคก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการหรือสตาร์ตอัพอยากจะริเริ่มมักจะเจออุปสรรค”กฎหมายไม่ได้อนุญาต” รัฐบาลเศรษฐาประชาชนริเริ่มทำได้ทุกอย่าง ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายห้ามก็ถือว่าทำได้” ส่วนจะยกเลิกคำสั่ง คสช.ด้วยวิธีใด “โฆษชัย”บอกว่า “มติ ครม.ก็ยกเลิกได้ ตอนนี้รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยกเลิกได้อยู่แล้ว”
@ที่การแถลงดังกล่าวของ “โฆษกชัย”กลายเป็น “เรียกแขก”ทั้งนักวิชาการ นักการเมืองฝ่ายค้าน-รัฐบาล ที่ออกมา ท้วงทั้งว่า “รัฐบาลเศรษฐา”ไม่ใช่เป็น“รัฏฐาธิปัตย์”รวมถึงประเด็น“ข้อสั่งการนายกฯ”และการไปยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ไม่สามารถทำได้ อย่างที่ “โฆษกรัฐบาล”แถลงเมื่อวาน เพราะบางคำสั่งคสช.เทียบเท่ากฎหมาย พรบ.การยกเลิกหรือแก้ไข ต้องเป็น พรบ. ที่เอฟเฟ็กต์จากเรื่องนี้ ทำให้ “เศรษฐา” ต้องออกมาแจงวันนี้ ว่า “จะมีการปรึกษา กฤษฎีกาถึงการยกเลิกคำสั่ง คสช.
โดยบอก กฎหมายบางข้อ ที่ไม่ได้ใช้ และเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและการปฏิบัติหน้าที่ของราชการก็ยกเลิกไป ถ้ายกเลิกไม่ได้ก็นำกลับเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ใหม่ และจะหาคนดูฝ่ายกฎหมายยอมรับ ต้องมีการปรับปรุงการสื่อสาร อะไรไม่ชัวร์ 100%จะยังไม่แถลงไปก่อน” ที่ข้างต้นยังไม่นับรวมปมการแบ่งงานวางคนโดยเฉพาะ ในตำแหน่ง“รองนายกฯ” ระหว่าง “ภูมิธรรม”สร.2 กับ“พล.ต.อ.พัชรวาท”ก็กำลังถูกวิจารณ์เช่นเดียวกับชื่อของ “อุ๊งอิ๊งค์”ที่ ครม. ตั้งเป็นรองปธ.ดัน Soft Power ที่ “เศรษฐา”ให้เหตุผลเดียวกันเพื่อประโยชน์ประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews