Home
|
ข่าว

เศรษฐา-ทักษิณ&ก้าวไกล

 

จังหวะ “นายกฯเศรษฐา” หลังปั่นงานลดค่าไฟ ลดน้ำมันดีเซล ก่อนโกอินเตอร์ ไปสปีคกิ้งบนเวทียูเอ็น ที่สหรัฐฯ ประเทศไทยในยามที่มี “พี่อ้วน-ภูมิธรรม” สร.2 เป็น “รักษาการนายกฯ” เหมือนถูกดึงกลับเข้ามาสู่ โหมดการเมือง

 

 

 

 

จังหวะ “นายกฯเศรษฐา” หลังปั่นงานลดค่าไฟ ลดน้ำมันดีเซล ก่อนโกอินเตอร์ ไปสปีคกิ้งบนเวทียูเอ็น ที่สหรัฐฯ ประเทศไทยในยามที่มี “พี่อ้วน-ภูมิธรรม” สร.2 เป็น “รักษาการนายกฯ” เหมือนถูกดึงกลับเข้ามาสู่ โหมดการเมือง ที่มีร่องรอยขัดแย้งตรวจสอบ ไป-กลับ กันในที โดยเฉพาะประเด็นดราม่า ในจังหวะขลุกขลิก การจัดการของ 2 พรรคใหญ่คนละฝ่ายรัฐบาลและ ฝ่ายค้าน อย่างเพื่อไทย และ ก้าวไกล ที่กำลังหาตัว “หัวหน้าพรรค” คนใหม่ อันเชื่อมกับการหาตัว “ผู้นำฝ่ายค้าน”

 

 

 

ซึ่งเพื่อไทยหมายตา “อุ๊งอิ๊งค์” ลูกสาวคนเล็กของ “พี่โทนี่-ทักษิณ” นักโทษชาย ที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจจะครบ30วันพรุ่งนี้ (21ก.ย.) ที่ยังคงเป็นประเด็น “จุดติ่ง” ให้ “รัฐบาลเพื่อไทย” และ “นายกฯ เศรษฐา” ถูกจี้ถามโจมตี อย่างที่วันนี้ กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน หรือ ปกส. บุกไปที่ทำเนียบฯ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการเอาผิด เจ้าหน้าที่เอื้อประโยชน์กรณี ‘ทักษิณ ‘โดยไม่เชื่อว่า มีการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจจริง พร้อมเสนอ’ หมอวรงค์ – หมอเหรียญทอง – หมอพรทิพย์ ‘เข้าสอบสวนโรค แถม ขู่หาก “นายกฯเศรษฐา” ยังไม่ดำเนินการจะเอาผิดตาม ม.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากที่เมื่อวาน (19ก.ย.) “อุ๊งอิงค์” ที่ก่อนหน้า “นายกฯเศรษฐา” ตั้งให้เป็น “รองประธาน

 

 

คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์” เพิ่งบอก ว่า หมอเพิ่งทำการผ่าตัดให้ “ทักษิณ” ซึ่ง ครอบครัวกำลังหาหนทางว่าจะทำอย่างไรได้บ้างในการให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ โดยก่อนหน้านี้มีข่าวครอบครัวจะมีการยื่นขอ “พักโทษ” แต่มีปัญหาข้อกฎหมายระยะเวลาต้องรับโทษก่อน3ใน4 ที่ประเด็นเรื่อง “ทักษิณ” ถูกหลายฝ่ายไม่แต่ กลุ่ม ปกส. แต่ยังมีกลุ่ม คปท. ที่ไปทวงถามให้ทั้งโรงพยาบาลตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงความชัดเจนการรักษาการมาตลอด โดยมีการมายื่นหนังสือหลายครั้งถึงนายกฯ

 

 

 

 

โดยประเด็นนี้ถูกวิเคราะห์หากไม่มีข่าวการทำงาน ปั่นงานด้านแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องออกมา ของ “เศรษฐา” กลบจะปะทุแรงกว่านี้ไม่แต่เฉพาะในจังหวะครบรอบ1 เดือน วันกลับไทย22ก.ย.ที่จะถึง หากแต่จะมีการกระเพื่อมของกลุ่มต่างๆ ไม่แต่เฉพาะฝ่ายตรงข้าม หากแต่ยังมีกลุ่มคนกันเอง ที่ไม่พอใจเมื่อเทียบกับเคส “เอกชัย” ก็จะเริ่มออกมา รวมถึงการเรียกร้องความชัดเจนในเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ ที่ทำให้ “ภูมิธรรม” ต้องรีบออกมาพูดกรอบเวลาวันนี้ ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมปมเบาๆ ล่าสุด ของ “หมอชลน่าน” ที่ตั้งภริยามาเป็นที่ปรึกษา

 

 

 

เช่นเดียวกัน เมื่อหันมาทาง “พรรคก้าวไกล” ไม่แต่ ความชัดเจน เรื่อง หัวหน้าพรรค ที่มีการหมายตา “ต๋อม-ชัยธวัช” มาเป็น “หัวหน้าพรรค” เพื่อเป็น “ผู้นำฝ่ายค้าน” ตามที่ “พิธา” ว่าไว้ตอนลาออก หากแต่ยังมีปมดราม่าที่เกี่ยวข้องกันกับกรณีของ “หมออ่อง” รองประธานสภาฯ ซึ่งกำลังถูก “ล่อเป้า” หลายเคส ทั้งหมูกระทะ คราฟเบียร์ เสื้อไม่ผูกเนกไท

 

 

จนถึง ดูงานสิงคโปร์ ที่กำลังเป็นประเด็นท้าทายการตัดสินใจของทั้งก้าวไกลและ หมออ่อง ว่าจะยึดหลักการของพรรคหรือจะยอมใช้เทคนิคทางกฎหมายเหมือนที่ เพื่อไทยโจมตี รวมถึงเคสของ “เจี๊ยบ-อมรัตน์” ที่เกิดประเด็นกับ “นางแบก” จนถูก “ย้อนศร” ผ่านโลกโซเชียล ที่ทำให้ “หมออ่อง” ต้องออกมาออกตัวยอมรับ “ไม่เหมาะสม”

 

 

 

ที่ทั้งหมดและอีกหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง ถูกมองเป็นร่องรอยความขัดแย้งระหว่างเพื่อไทย-ก้าวไกล ที่ยังติดค้างในอารมณ์เดิม จนถูกมองหลายเรื่อง แม้แต่กรณี “ทักษิณ” หากทอดยาวย่อมส่งผลปัญหาต่อ รัฐบาลเศรษฐา หากผ่านห้วงเวลา2-3 เดือนที่กำลังปั่นงานไปแล้ว และกลับมาสู่โหมดตรวจสอบของสภาอีกครั้ง ที่ฝ่ายค้านอย่าง ก้าวไกลประชาธิปัตย์ ย่อมไม่ปล่อยให้ปม “เหลื่อมล้ำ” ที่เป็นธีมหาเสียงเกิดขึ้น ไม่นับรวม “ปัจจัยเดิม” ของ “กลุ่มอำนาจเก่า” ฝ่ายตรงข้าม ที่เริ่มกระเพื่อมผ่านกลุ่มเคลื่อนไหวเดิมที่เคยเป็นปฏิปักษ์กับเพื่อไทยที่ถูกต่อเชื่อมไปถึงบางความเคลื่อนไหว

 

 

 

อย่างที่ “อดีตกุนซือรองนายกฯ” ไพศาล โพสต์FB ว่าวันนี้ “เพลงกระบี่อำมหิต” โค่นรัฐบาลเศรษฐาเริ่มต้นขึ้นแล้วผู้คนที่อยู่ในอำนาจใหม่ กำลังแจ่มใสสนุกสนาน เรื่องคนทำงาน และจัดสถานที่ทำงาน น่าเวทนา เสียงเพลงกระบี่อำมหิต ดังขึ้นแล้ว เสียดก้อง 2 หู สิไม่ได้ยิน ~ข้อหาแรก คือการทำลายเศรษฐกิจของชาติ ~ข้อหาที่ 2 คือการทุจริต ~ เรื่องยุบพรรค จะชักออกจากฝักวันไหนใครจะรู้? การเมืองคือสงครามที่ไม่หลั่งเลือดนั้นจริงแท้แน่นอน แต่ทว่า ต้องไม่ลืมว่า การจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐานั้น

 

 

 

ต้องลงทุนลงแรง มากมายขนาดไหน? การดำรงอยู่ และการล่มสลายของรัฐบาลเศรษฐา จึงหาได้อยู่แค่ พรรคเพื่อไทยอย่างเดียวไม่ อันการเมืองที่มี 4 ประตู คือประตูเป็น ประตูตาย ประตูเปิด และประตูปิดนั้นบางครั้งประตูเป็น ก็เป็นความจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และอาจเป็นหนทางรอด จากเงื้อมมืออำนาจเก่าก็ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube