Home
|
ข่าว

เศรษฐา-พิธา & ศึกอิสราเอล

@จังหวะ “อิสราเอล”ยังนัวจากเหตุปะทะรุนแรงโดยถูก “ขบวนการฮามาส” เปิดฉากโจมตี เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ด้วยจรวดเกือบ 5,000 ลูก

 

 

โดยตั้งชื่อยุทธการนี้ว่า “พายุแห่งอัลอักซอ” ซึ่งสะท้อน “เป้าหมายของสงคราม” คือ การปลดแอกปาเลสไตน์และอัลอักซอ โดย “อิสราเอล”ได้”ประกาศสภาวะสงครามทั่วประเทศ” และเปิดฉากยิงถล่มตอบโต้ไปยังปาเลสไตน์และลามไปถึงเลบานอน แถวฉนวนกาซา

 

ซึ่งเหตุการณ์นี้ สร้างความกังวลให้กับหลายประเทศทั่วโลก กับการ “ขยายลุกลาม”ไปยัง “ประเทศแบ็คอัพ”อย่างมหาอำนาจซีกโลกตะวันตก กับ มหาอำนาจซีกโลกตะวันออก ที่เคยชิมลางผ่านศึกสงครามซีเรีย-สหรัฐ ที่ยังคงยืดเยื้อและยกดับความรุนแรง จากร่องรอยประทุ

 

 

โดยในหนนี้ เหตุการณ์ที่นักวิเคราะห์กังวลเพราะเชื่อว่ามี “ประเทศแบ๊กอัพใหญ่”อยู่เบื้องหลัง และย่อมมีสถานการณ์ตกกระทบ ที่ทำให้ “กลุ่มฮามาส” ที่รู้กันดีว่ามีบางประเทศหนุนหลัง เปิดปฏิบัติการ “แหย่รังแตน”โจมตีอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (7ต.ค.)

 

 

@โดยเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว ส่งผลกระทบประเทศไทย ในฐานะที่เคยทำMOU ยุค “ลุงตู่”ที่มี “เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น”เป็น “จับกัง1”ในการส่งแรงงานไทย5พันคนไปทำงานในอิสราเอล ที่ก็เป็นแรงงานไทย ที่กำลังได้รับผลกระทบไม่แต่ที่โดนลูกหลงเสียชีวิต12บาดเจ็บและถูกจับเป็นตัวประกัน

 

 

โดยมีจำนวนหนึ่งกว่าพันที่รัฐบาลไทยทั้งกระทรวงต่างประเทศ กองทัพอากาศ กำลังเร่งประสานการอพยพกลับไทย โดยในระหว่างสถานการณ์ที่วันนี้(9ต.ค.)ยังมีความพยายาม ประสานงานผ่านสถานทูตอิสเราเอล เพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยกลับบ้านเร็วที่สุดแบบที่ ทอ.พร้อมบินทุกขณะเมื่ออิสราเอลยอม เปิดน่านฟ้า

 

 

@กระนั้น ก็มีเรื่อง “ดราม่า”ที่ สะท้อนภาพการประสานการรับมือสถานการณ์วิกฤติ ตั้งแต่ภาพการจัดการของ“ฝ่ายที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง”อย่างรัฐบาลไทย นำโดย “นายกฯนิด-เศรษฐา” กระทรวงต่างประเทศ จนถึงกลาโหมจนมาทาง “ฝ่ายค้าน”อย่าง “ทิม-พิธา” ไม่ว่าจะเป็นอาการ “หลุดคิว”จนเกือบทำให้ “งานงอก”

 

 

จากการทำงานรวดเร็วของ “รัฐบาลนิด1”ที่หลังเกิดเหตุปั๊บ ทั้ง “นายกฯนิด”และ “รมต.ต่างประเทศ “ปานปรีย์”มีการทวีต “ประณาม”การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาส ทันที จนมีเสียงติงเตือน จากหลายฝ่าย ให้ระวัง “งานเข้า”เพราะอาจถูกตีความได้ว่า“สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง”ที่มี “ประเทศแบ๊คอัพ”มหาอำนาจ

 

 

ที่ยังนัวกันอยู่ ทั้ง “ทางเปิด”และ “ทางปิด”แบบยังไม่จบสะเด็ดน้ำแถมทำท่าขยายลุกลาม เมื่อสถานการณ์ไม่จบลากยาวบานปลายไปสู่การ “เปิดหน้า”ของ“ประเทศใหญ่”ที่แบ๊คอัพ ที่ถูกมองว่าเกี่ยวข้องกลายๆ ทำให้ “ปานปรีย์”ต้องออกมาแก้ว่า ไม่ได้เป็นการระณามประเทศ ที่ปฏิบัติการรุนแรง แต่ประณาม ลักษณะการกระทำที่รุนแรง

 

 

@ขณะที่อีกด้าน “ฝ่ายค้าน” ก็มีการออกมาเทคแอ๊คชั่นของ “ทิม-พิธา”ที่ระบุผ่านFB ทวีต เมื่อวันที่ 7ต.ค.บอกทำนองเพิ่งวางสายจาก ทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย มอบหมาย “นายสุเทพ” อดีต กมธ.แรงงาน ที่ติดต่อประสานกับพี่น้องแรงงานไทย

 

 

พร้อมกันนี้ได้แสดงความเป็นห่วงและเสียใจต่อความสูญเสียและพร้อมสนับสนุนรัฐบาลในการคลี่คลายวิกฤต เพื่อความปลอดภัยของคนไทยในอิสราเอล โดยได้แนบอีเมล์ของตนเองให้ติดต่อ กรณีไม่สามารถติดต่อญาติที่อิสราเอลได้ ที่การกลับถูก “กระแสตีกลับ”ทัวร์ลง “พิธา”ทำนองยิ่งไปสร้างความสับสนวุ่นวายเพราะไม่ได้มีหน้าที่ใด

 

 

@อย่างที่ “นายชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา” อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ออกมาติงผ่านโพสFB ว่า ได้ส่ง อีเมล์ถึงนายพิธาแล้วมีเนื้อหา “โปรดให้รัฐบาลทำหน้าที่ของเขา”โดยบอกทำนองการที่ “พิธา”ไปติดต่อฑูตอิสราเอลและจะช่วยประสานงานไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

 

 

กลับทำให้คนไทยที่ Israel สับสน เพราะคุณไม่ใช่ทั้งนายกฯ หัวหน้าพรรค และ ส.ส. มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณ และเวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะหาเสียง ปล่อยให้รัฐบาล (ที่มีอำนาจรัฐและกฎหมายในมือ) ทำหน้าที่ของพวกเขา ทำให้ต่อมา “พิธา”ออกมาแจงผ่านFB การออกมาเสนอตัวประสานงานให้

 

 

แค่ทำหน้าที่ เป็น “สื่อกลางประสานเรื่อง ‘อิสราเอล’ ชั่วคราวที่ก็สามารถประสานการช่วยเหลือแรงงานไทย รวมได้ 228 กรณี คือ – คนไทยที่เชื่อได้ว่าถูกจับเป็นตัวประกัน 9 กรณี– คนไทยอยู่ในเขตสู้รบ ต้องการความช่วยเหลือ 72 กรณี – กรณีที่ญาติติดต่อไม่ได้ และไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน140 กรณี – คนไทยอยู่นอกเขตสู้รบ 7 กรณี ซึ่งได้ส่งข้อมูลเหล่านี้ให้ ทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟแล้วโดยไม่มีเจตนาสร้างความสับสน ยินดีหนุนภารกิจรัฐบาล

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube