@จังหวะ “หน้างาน”รัฐบาลนิด-เศรษฐา” ระหว่างกลางศึกสงครามอิสราเอลกับฮามาส
ซึ่งมีแรงงานไทยจำนวนมากยังอยู่ในสถานการณ์ไม่ปลอดภัยแบบที่กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่กล้ารับปากกับญาติ ที่ก็ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะลากยาวบานปลายไประดับใด หลังมีการประกาศกร้าวจากรมต.กลาโหมอิสราเอลจะลบฉนวนกาซาออกจากแผนที่ด้วยการทำลายให้ราบเป็นหน้ากอง ทำเอาสถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นจากปฏิกริยาของบรรดาประเทศมุสลิม ที่ทำท่าจะทำสงครามกับอิสราเอลและสหรัฐที่ถูกระบุอยู่เบื้องหลัง ที่หากสงครามขยายวง มีมหาอำนาจจาก2ซีกโลกเข้ามาแจมย่อมส่งผลกระทบทิศทางโลกทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจ
@โดยเฉพาะสำหรับประเทศไทย แม้จะดูเป็น “จังหวะคั่น”กลบกระแส แรงต้าน นโยบาย “เรือธง” “แจกหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต””ของรัฐบาลเศรษฐา พรรคเพื่อไทย ที่ยิ่งลากยาวยิ่ง “งานงอก”ขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับภาพการทำงานของ “นายกฯเศรษฐา”ที่ตั้งแต่เป็นนายกฯยังไม่มีวันหยุดพักการทำงานเดินสายทั้งในและต่างประเทศเทคแอ๊คชั่นทุกสถานการณ์วิกฤติแบบรวดเร็วแม้จะหลุดคิว “ประณาม”เหตุการณ์สงครามอิสราเอลไว้ไปนิดแต่ก็แก้เกมสื่อสารได้เร็ว เช่นกับการประสานการทำงานฝ่ายเกี่ยวข้อง แบบรวดเร็วทันการ แทบไม่มีจุดอ่อนให้ “ฝ่ายค้าน”โจมตี
@หากจะมีนอกจากประเด็น คนชั้น14 “นช.ทักษิณ”ที่มีหลายเรื่องให้ “ปวดตับ”นับตั้งแต่กลับมารับโทษ ในฐานะ ที่“เศรษฐา”แม้เป็น“นายกฯ”ที่ไม่อาจอธิบายตอบคำถามที่สังคมคาใจอะไร ได้เต็มปาก เพียงแต่ “หน้างาน”สถานการณ์ที่ผ่านมาที่ล้วนเป็นเรื่องร้อนๆ กลบจังหวะที่จะถูกทวงถามจาก “นักข่าว” โดยนอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีประเด็นนโยบายที่เพื่อไทยหาเสียง ไม่แต่ ปมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จบที่การ “ดึงจังหวะยาว”ไป3ปีตั้งคณะกรรมการศึกษาประชามติยังมีปม “นโยบายดิจิทัลวอเล็ต”ที่ถูก “99 นักวิชาการเศรษฐศาสตร์”อดีตผู้ว่าแบงค์ชาติ และ อดีตขุนคลัง รวมถึงเหล่าบรรดา สมาชิกวุฒิสภา หลายท่านออกมาคัดค้าน
@ไม่ว่าจะเป็น “เฉลิมชัย เฟื่องคอน”สว.ที่ขอหารือในที่ประชุมวุฒิสภา ว่าโครงการนี้ สุ่มเสี่ยงจะทำผิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายว่าด้วยการเงินและการคลังของรัฐ โดยเฉพาะ ตาม รธน.ม.162 เนื่องจากในการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ย.66 ไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่นำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ความชัดเจนว่าจะนำเงินมาจากที่ไหน ส่วน รธน.ม.62 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ถือว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำความผิดโดย พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ มาตรา 6 ต้องรักษาวินัยการเงินการคลังตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัตินี้และตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับ “เมธี ครองแก้ว” อดีต ป.ป.ช. ที่ร่วมลงชื่อกับกลุ่มนักวิชาการคัดค้าน ที่บอกว่า จากประสบการณ์ของตนที่เคยทำคดีรับจำนำข้าวสมัยเป็น ป.ป.ช.ตนว่าโครงการนี้ถ้ามีคนไปร้ององค์กรอิสระจะเป็นแน่นอน ดูแล้วมีขวางหมากเต็มไปหมด ตนยังมองไม่ออกว่าเขาจะลุยไฟไปทำไมมีสิทธิ์ติดคุกกันเยอะเลยโครงการนี้ จริงๆไม่ได้พูดเล่นๆ หากอยากจะทำก็ทำแต่รับรองเลยว่ามีผลแน่นอนแล้วก็ไปเสี่ยงดวงเอาแล้วกันว่าจะติดคุกหรือไม่อย่างไร
@กระนั้นที่ดูเหมือนรัฐบาลจะรับฟังเพียงข้อนี้ ส่วนหลักการใหญ่ ไม่ว่า “เศรษฐา”หรือ “อุ๊งอิ๊งค์”ล้วนยืนยันตรงกันว่าจะเดินหน้าไม่มีถอยแม้จะมีเสียงคัดค้านจากนักวิชาการหลายฝ่ายที่ถือเป็น “ส่วนน้อย” เพราะมี ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ อย่างที่เห็นวันนี้ ก็มีม็อบFCเพื่อไทย ถือสากมาเชียร์เพื่อไทย แต่คัดค้านนักวิชาการ ที่ออกมาเคลื่อนไหว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
