ปัญหาหมูเถื่อน หรือการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ จากต่างประเทศ จนทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ได้รับความเดือดร้อน ขายไม่ได้ราคานั้นมีมานานแล้ว มีความพยายามจะปรายตั้งแต่สมัยรัฐบาล”ลุงตู่”
โดยรัฐมนตรี “เฉชิมชัย ศรีอ่อน” แต่ก็ไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรม กระทั่ง รัฐบาลใหม่ของ”เศรษฐา ทวีสิน” ประกาศจะเอาจริงกระทรวงเกษตรฯ ภายใต้การดูแลของ “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” ก็ขานรับด้วยดี ยืนยันจะเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมายทุกชนิด เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคง ทั้งทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลและกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชนรัฐมนตรีช่วย “ไชยา พรหมมา” จากเพื่อไทย ซึ่งได้รับมอบหมายกำกับดูแลกรมปศุสัตว์ ก็เดินหน้าลุยปราบปรามเต็มกำลัง เท่าที่พอจะทำได้ เอ็กเรย์ห้องเย็นทั่วประเทศ แลกมาด้วยการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 1 ราย และมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยมาเจรจาต่อรอง อาศัยอิทธิพลท้องถิ่น ผู้มีอำนาจในพื้นที่ คอยชักใยอยู่เบื้องหลังเป็นอุปสรรคขัดขวางการตรวจสอบ แต่ รัฐมนตรี “ไชยา” ก็ไม่ยอมละความพยายามที่จะแก้ปัญหา จนนำมาซึ่ง เกาเหลาชามใหญ่ กับ เจ้ากระทรวงรอยร้าวเล็กๆ ในกระทรวงเกษตรฯ มีมาตั้งแต่เริ่มเข้ากระทรวงทำงานแล้ว 2 รัฐมนตรีช่วย “ไชยา” กับ “อนุชา นาคาศัย”
ซึ่งมาจาก เพื่อไทย และรวมไทยสร้างชาติ ตามลำดับ ขณะที่ “ธรรมนัส” เจ้ากระทรวงมาจากพลังประชารัฐ ประสารัฐบาลผสม โดย 2 รัฐมนตรีช่วยออกอการงอแง โอดครวญได้รับมอบหมายงานน้อยเกินไป คนละ 4 หน่วยงาน แต่เจ้ากระทรวงเหมาไปถึง 14 หน่วย โดย “ไชยา” ดูแล กรมปศุสัตว์, กรมฝนหลวงการบินเกษตร,กรมหม่อนไหม, องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ส่วน “อนุชา” กำกับ กรมการข้าว, กรมพัฒนาที่ดิน,สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชา,ติ และองค์การสะพานปลา ซึ่งจบลงด้วยการประกาศไม่ทบทวนคำสั่งแต่ทิ้งท้ายว่าใครทำงานดี มีผลงานก็จะได้รับมอบหมายงานเพิ่ม
หลังจากทำงานยังไม่ทันครบ 2 เดือน “ไชยา” ก็โอดครวญอีกครั้ง ว่าไม่มีอำนาจบริหารงานบุคคล ทำให้การแก้ปัญหาหมูเถื่อนเดินหน้าไม่เต็มที่ เพราะสั่งย้ายใครไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าคนคนั้นเป็นอุปสรรคของการแก้ปัญหาช่วยเกษตรกร อ้างไปยันรัฐบาลเก่า ว่ายังคุมกระทรวงอยู่ ร้องขอให้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ ช่วยเจรจาซึ่งได้คำตอบกลับมาว่า ไม่มีปัญหา ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน ส่วน “ผู้กองธรรมนัส” ก็ย้ำชัดว่า เคลียร์กันแล้ว
จบน่ะ เพราะการแบ่งงบประมาณและบุคคล ไม่มีกระทรวงไหนเขาทำกัน คนที่รับผิดชอบคือรัฐมนตรีว่าการ
ดังนั้น ปัญหาที่รัฐมนตรีใหม่หลายคนยังไม่เข้าใจ คือ ความรับผิดชอบภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ จึงน่าสนใจว่าการปราบหมูเถื่อน หลังจากนี้ “ไชยา” ในฐานะผู้ปฏิบัติ กับ “ธรรมนัส” ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรง จะหาจุดลงตัวเพื่อให้เกษตรกร และประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดอย่างไร เพราะหากปราบหมูเถื่อนได้หมด เกษตรกรเลี้ยงหมูไทยคงขายได้ราคาดีขึ้น ประชาชนก็จะได้บริโภคเนื้อหมู ถูกสุขอนามัยและภัยภัยมากยิ่งขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมเกี่ยวกับหมูก็จะดีขึ้นไปด้วย เว้นแต่จะกินเกาหลา กันรอบใหม่อีก จนแก้ปัญหาไม่จบ คนที่จะเดือดร้อนก็คงหนีไม่พ้นประชาชนนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews