กลายเป็นถูกจับตาตรวจสอบในทุกจังหวะ ที่เมื่อมี “การสรุป” ในคดีใดคดีหนึ่ง จากบรรดา “คดีดัง” ที่สังคมจับตาความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกระบวนการจัดการในกระบวนการยุติธรรมในห้วง “รัฐบาลเศรษฐา”
ไม่ว่าจะเป็น “คดีกำนันนก” ,“คดีเสี่ยแป้ง นาโหนด” “คดีหมูเถื่อน” ที่กลายเป็น “หมูเด้ง” และ “คดีคนชั้น14” อย่างที่ทำให้วันนี้ (1ธ.ค.) ทีมโฆษกอัยการสูงสุดต้องมีการออกมาแถลงความคืบหน้าคดี “กำนันนก” “นายประวีณ จันทร์คล้าย” ที่ลูกน้องก่อเหตุยิงจ่อยิง “สารวิตรสิว”“พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว” สารวัตรตำรวจทางหลวง 7 นัดเสียชีวิตกลางงานเลี้ยง ที่ต่อมามี “ผู้กำกับเบิ้ม” ตำรวจรุ่นพี่” ฆ่าตัวตายที่ผู้บังคับบัญชายืนยันเพราะมาจากแรงกดดันว่าพา “สารวัตรสิว” เข้าไปงานเลี้ยงจนมาเกิดเหตุ โดย อัยการมีความเห็น สั่งฟ้องกำนันนกและพวกที่มีทั้งพลเรือนและตำรวจรวม 23 คน ส่วนนายตำรวจอีก 5 นาย รอดสั่งไม่ฟ้อง
โดยตำรวจ 5 นายที่ อัยการไม่สั่งฟ้อง ที่มีทั้งอดีต ผกก.สน.พญาไท อดีตผกก.สส.บก.ภ.จ.นครปฐม เพราะเห็นว่าหลังเกิดเหตุยิงในบ้านกำนันนก ตำรวจทั้ง 5 นาย พาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหรือสนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่างๆไม่ได้เพิกเฉยต่อเหตุที่เกิดขึ้น แต่ถือว่าคำสั่งยังไม่เด็ดขาด เพราะจะต้องเสนอเรื่องไปที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่ามีความเห็นแย้งหรือไม่ หากมีความเห็นแย้ง คดีจะถูกส่งไปให้อัยการสูงสุดวินิจฉัยชี้ขาด จึงจะถือว่าเป็นคำสั่งเด็ดขาด”
โดย “คดีกำนันนก” ถูกจับตาทั้งในมิติการเมือง กระบวนการยุติธรรมในแวดวงตำรวจ ที่ “ฝ่ายค้าน-ก้าวไกล” กำลังตรวจสอบเรื่อง “ส่วยสติ๊กเกอร์” โดยประสานข้อมูลกับ “สารวัตรสิว” ที่ถูกมองว่าถูกเรียกเข้าไปเคลียร์แต่ไม่ยอมกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวที่ถูกโยงสู่ภาพ “กลุ่มตำรวจ” จำนวนมากในงานเลี้ยงบ้าน “กำนันนก” ที่ไม่ใช่ครั้งแรก โดยคดีนี้มาจังหวะก่อนจะมีการ
ตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ “บิ๊กโจ๊ก” บังเอิญเข้าไปมีบทบาททำคดีเอาความผิดกับตำรวจทุกนายในงาน และต่อถูกสั่งไม่ให้ทำคดีซึ่งคดีนี้ถูกมองเชื่อมต่อมายัง “ศึกตำรวจ” จากเหตุการณ์ “บิ๊กโจ๊ก” ถูกตำรวจนำหมายค้นไปที่บ้านในคดี “ลูกน้อง” ถูกกล่าวหา ไปเกี่ยวข้องกับ “เจ้าแม่เว็บพนัน” ที่เหตุการณ์ดังกล่าวถูกมองว่าส่งผลกับการเป็น “คู่ชิง” ผบ.ตร.ทำให้ “บิ๊กต่อ” เข้าวินเป็น ผบ.ตร.
เป็น “บิ๊กต่อ” ที่เข้ามาเจอกับ “คดีเสี่ยแป้ง” ผู้ต้องขัง ที่หลบหนีจากโรงพยาบาลจนถูกนำมาล้อโยงกับ “นช.ทักษิณ” คนชั้น14 ว่าคนหนึ่ง เข้าโรงพยาบาลวันเดียวแล้วหายเข้าป่า อีกคนเข้าโรงพยาบาลมา2-3เดือน ยังไม่หายป่วย ที่ “เสี่ยแป้ง” เป็นอีกคนที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการในกระบวนการยุติธรรม จากการออกคลิปมาเพียง 3EP แฉทั้งตำรวจ อัยการที่เกี่ยวข้องกับการรับสินบนช่วยผู้ต้องหา ที่ทำให้สังคมดูจะเชื่อ ยิ่งมีทีมงานของ “รัฐมนตรี” เข้ามาร่วม “แอ๊คชั่น”
ยื่นข้อร้องเรียนช่วย ก็ยิ่งมีน้ำหนักที่ทำให้องค์กรที่ถูก “เสี่ยแป้ง” พาดพิงหนักใจ
เช่นเดียวกันกับปม คดี “หมูเถื่อน” สัปดาห์นี้ ที่ถูกล้อกลายเป็น “หมูเด้ง” กับการสั่งย้าย “อธิบดีDSI” ที่เคยถูก “นายกฯนิด”เรียกไปคุย เอาจริงกับเรื่องนี้ให้สาวถึง “ตัวการใหญ่” แต่เมื่อปรากฏภาพบุกไป “ห้างใหญ่” ว่าเกี่ยวข้องกับบริษัทที่พัวพันนำเข้าหมูเถื่อนหรือไม่ วันรุ่งขึ้นกลับกลายเป็น “อธิบดี” ที่ถูกมติครม.เด้ง ที่แม้ “นายกเศรษฐา” จะยืนยันเป็นการย้าย เพื่อไปทำงานที่เหมาะสมกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการไปลุย “ห้างใหญ่” ที่ถูกมองเป็น “กลุ่มทุนการเมือง” แต่ก็ถูกตั้งข้อกังขา ในจังหวะจะโคน
และก็เช่นเดียวกันกับภาพกระทบกระบวนการยุติธรรมที่ “คาใจ” หลายฝ่ายโดยเฉพาะ “กลุ่ม คปท.” และ “พี่ศรี” ที่วันนี้(1พ.ย.) บอกว่า กำลังร่างคำฟ้องเพื่อยื่นฟ้องกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และ รพ.ตำรวจ ต่อศาลปกครอง ฐานกระทำการ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยไม่สุจริต หรือมีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือเป็นการใช้ดุลยพินิจ โดยมิชอบ กรณีอนุญาตให้ นช.ทักษิณ ไปนอนรักษาตัวนอกเรือนจำในโรงพยาบาลตำรวจมานานกว่า 100 วัน โดยไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 เป็น “นช.ทักษิณ” ที่ถูกเรียก “คนชั้น14” ที่ “รัฐมนตรีเพื่อไทย” บอกไม่รู้ว่าใคร
ที่ยังไม่กลับเข้าเรือนจำมาตั้งแต่ 22ส.ค.จนจะครบ1ใน3ของ โทษที่สามารถยื่นขอพักโทษ ในวันที่ 22ธ.ค. แต่ก็ไม่มีใครเอ๊าะแอ๊ะทำอะไร ทั้งรัฐบาล และ ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “ฝ่ายค้าน-ก้าวไกล” ก็ถูกตั้งข้อสงสัยการที่ไม่มี “ตัวตึง” ของก้าวไกล ออกมาแตะเรื่องนี้จนถึงตอนนี้ มีเพียงพูดเฉียดๆ จาก “รังสิมันต์-โรม” วันก่อน แต่ก็เป็นเคสเรื่อง “ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม” จนถูก “ทัวร์ลง” จากทั้งบรรดารัฐมนตรีและผู้คนจากเพื่อไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews