ทางเลือก “ทักษิณ” ไม่กลับคุก?
คู่ขนานกับผลงานรัฐบาลเศรษฐา ที่ถูกมองพยายามปั่นงานออกมาให้ได้ภายในสิ้นปีเป็นของขวัญปีใหม่ประชาชนในขณะที่ก็ถูกจับตา วันที่ 22 ธ.ค. นอกจากจะครบ 4 เดือนของ “นายกเศรษฐา” ในการได้รับการโหวตจากสภาเป็นนายกฯคนที่ 30 ที่เป็นวันเดียวกันกับที่ “คนชั้น14” ทักษิณ เดินทางกลับมาเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีและรับโทษ วันที่ 22 ส.ค.
ที่ถึงเวลานี้ “ทักษิณ” กลายเป็น “คนชั้น14” ที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่ถูกจับตาว่ามีการรับโทษจะเข้าเงื่อนไขการรับโทษ 1 ใน 3 ของโทษ 1 ปีเพื่อสามารถยื่นขอ “อภัยโทษ” ที่จะสามารถยื่นได้ในเมื่อครบ 4 เดือน คือวันที่ 22 ธ.ค. ในขณะที่หากจะขอ “พักโทษ” ต้องรับโทษมาแล้วกึ่งหนึ่งคือ 6 เดือน ที่จะครบ วันที่ 22 ก.พ. 67 ที่จะสามารถใช้ชีวิตนอกเรือนจำได้โดยมีเงื่อนไขที่วันก่อนนักข่าวมีการถาม “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ถึงการจะครบ 120 วันของ “ทักษิณ” ที่เลี่ยงปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
แต่ต่อมา(6ธ.ค.) มีการบอกเหมือนออกตัว ว่า กรณีของทักษิณยังไม่มี “ระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำ”แต่อย่างใดมีเพียงในส่วนของกรมราชทัณฑ์ที่จะดำเนินการ เพราะหลักการของเรานั้น สิ่งสำคัญคือเรื่องนักโทษล้นเรือนจำซึ่งก็ต้องเข้าไปแก้ปัญหาในส่วนนี้ เช่น การแยกผู้ต้องขังเด็ดขาดออกจากผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลโดยอาศัยการออกกฎกระทรวงตามมาตรา 89/1 ว่าให้เป็นดุลพินิจของศาลโดยการไต่สวนและอาจจะไม่ต้องนำผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการพิจารณาให้เข้าเรือนจำ
และทักษิณไม่เข้าเกณฑ์นี้เพราะทักษิณถือเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดแล้ว ซึ่งในกรณีแก้ปัญหานักโทษล้นเรือนจำ หากเราทำได้ก็จะสามารถลดจำนวนผู้ต้องขังได้ถึง 30,000 คนและเราก็ต้องไปดูกฎหมายระดับรอง กฎกระทรวงต่างๆ กว่า 10 ฉบับที่ยังไม่ได้พิจารณาจะต้องไปตรวจสอบทั้งหมด และเมื่อบังคับใช้จะต้องไม่ขัดต่อกฎหมายหลัก
พ.ต.อ. ทวี กล่าวด้วยว่า ในกรณีนี้จะอนุญาตให้ทักษิณนอนพักรักษาตัวต่อจนครบ 120 วันหรือไม่ตามระเบียบของกฎกระทรวง ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะต้องพิจารณาความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาคือแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์ของกรมราชทัณฑ์ และรายงานมายังปลัดกระทรวงยุติธรรมก่อนเสนอรายงานมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ซึ่งจะยึดความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นหลักว่ามีเหตุผลเพียงพอต่อการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำต่อหรือไม่ และทักษิณและครอบครัวยังไม่ได้มีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ 2 แต่อย่างใด ยังคงยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเพียงครั้งเดียว
น่าสนใจว่า คล้อยหลังจากที่ “พ.ต.อ.ทวี”พูดถึง“ระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำ”ได้ 2วัน ปรากฏว่า จู่ ๆวันศุกดร์ที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา มี นส.เวียน 2 ฉบับ เวียนจาก นายสหกาณณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดยุติธรรมรักษาการอธิบดีกรมราชทันฑ์ ถึง ส่วนราชการ กรมราชทันฑ์ กองทัณฑวิทยาเรื่อง ระเบียบราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินกาสรสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566ถึง ผู้บัญชาการเรือนจำ,ผู้อำนวยการทัณฑสถาน,ผู้อำนวยการสถานกักขัง,ผู้อำนวยการสถานกักกัน
โดยเนื้อหาหนังสือมีการแจ้งให้ทราบและให้ถือปฏิบัติ ว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ประกาศใช้ “ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขัง ในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566” โดยสาระสำคัญของระเบียบนี้เป็นการกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่มิใช่เรือนจำ ตามมาตรา 33 แห่ง พรบ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560และพัฒนาพฤตินิสัย(ต้องขังแต่ละประเภท และการอื่นตาม ม. 34 แห่ง พรบ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 จากนั้น ในวันเดียวกัน(8ธ.ค.) กรมราชทัณฑ์ยังได้ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เรื่อง ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566พร้อมแนบ สำเนาระเบียบ ที่ มีเนื้อหาเดียวกัน
น่าสนใจว่า ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ที่มีการประกาศเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 66 ซึ่ง ลงนามโดย (นายสหกาณณ์ เพ็ชรนรินทร์)นั้น สาระสำคัญของระเบียบอยู่ในข้อ 4 มีการระบุ ว่า
“ให้มีคณะทำงานคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะทำงานพิจารณาการคุมขังในสถานที่คุมขัง”ประกอบไปด้วยรองอธิบดีที่กำกับดูแล กองทัณฑวิทยาเป็นประธาน ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา ผอ.กองทัณฑปฎิบัติ ผอ.กองพฒนาพฤตินิสัย ผอ.กองบริการทางการแพทย์ และ ผอ.กองกฎหมาย
และบุคคลภายนอกที่อธิบดีแต่งตั้งจากบุคคลผู้มีความรู้ความเชียวชาญทางด้านสาธารณสุข 1 คนและด้านสังคมสงเคราะห์หรือุตสาหกรรม 1 คน เป็นคณะทำงานโดยมี ผอ.การกลุ่มงานมาตรการควบคุมผู้ต้องหา สังกัดกองทัณฑ์วิทยา เป็นคณะทำงานและเลขานุการและข้าราชการสังกัดกองทัณฑวิทยาที่ได้รับมอบหมายอีกไม่เกิน 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
เรียกว่า แม้จะมีการออกตัวจากรมว.ยุติธรรมว่า “นช.ทักษิณ”ไม่เข้าเกณฑ์ตามระเบียบดังกล่าวเพราะทักษิณถือเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด แต่ก็ยังอดถูกหลายฝ่ายจับตาไม่ได้ว่าระเบียบดังกล่าวที่ออกมามารองรับความสมบูรณ์ของ พรบ.ราชทัณฑ์ 60 และ กฎกระทรวงยุติธรรม ที่ออกมาในช่วง “รัฐบาลลุงตู่”ในช่วงเวลาเหล่านี้ สุดท้ายปลายทาง จะเป็นอีกหนึ่งในช่องทางการไม่ต้องกลับเรือนจำของ “คนชั้น14”หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews