ตัดแทรก ในจังหวะ ข่าว ฉายารัฐบาล ตามธรรมเนียมช่วงสิ้นปี ที่สื่อทำเนียบฯตั้งให้“แกงส้มผลักรวม”และ “นายกฯเศรษฐา”เป็น “เซลล์แมนสแตนด์ชิน”ไม่นับรวม ฉายาบรรดารัฐมนตรี แบบหยิกจักกัดเล็กๆ ให้ฮือฮาหน้าหนึ่ง ประมาณว่า ผู้คนในรัฐบาล หลายคนรวมถึง รมว.ที่ถูกวิจารณ์หนักสุดอย่าง รมว.ยุติธรรม ต่าง น้อมรับคำวิจารณ์ จะมีก็ “นายกเศรษฐา”ที่ออกตัว ปฎิเสธทั้ง ไม่ใช่สแตนด์อิน รอ ครอบครัวไหนมาบริหารประเทศ และไม่ได้แกงพรรคก้าวไกล
แต่เพราะประเทศรอ 10 เดือนไม่ได้ อันเป็นการ “ฉายภาพ”ปรากฎการณ์ พลิกขั้วเปลี่ยนข้าง ของ พรรคเพื่อไทยมาตั้งรัฐบาล กับ กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลเดิมของ 2 ลุง แห่ง 3 ป.อย่าง “ลุงตู่-ลุงป้อม” ภายใต้การวิเคราะห์ถึงสารพัดดีลลับรวมพรางที่ “ฮ่องกง”และ “ลังกาวี”ก่อนจะกลายมาเป็นผลลัพธ์ การกลับมาของ “ทักษิณ”และปรากฎการณ์ “คนชั้น14”ที่สร้างความลำบากใจให้กับ “นายกฯเศรษฐา”จนถึงทุกวันนี้
โดยที่ “ตัดแทรก”มาในจังหวะนี้ คือข่าว ที่ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”มีคำตัดสิน“ยกฟ้อง”ในคดีที่ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”อดีตนายกฯผู้เป็นน้องสาวของ “ทักษิณ” กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ในขณะนั้น ให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ศาลเห็นว่าขาดเจตนาพิเศษที่ทำให้ถวิลเสียหายและเป็นการโยกย้ายตามปกติ พิพากษายกฟ้อง โดย “นรวิชญ์ หล้าแหล่ง”ทนายความ บอกกับนักข่าว ว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ “น.ส.ยิ่งลักษณ์”แต่จะมีการรายงานผลให้ทราบต่อไป แต่ขณะนี้คงทราบจากข่าวแล้ว ถือว่าเป็นการเพิกถอนหมายจับในคดีนี้ด้วย
เรียกว่ากรณีคดี ของ “อดีตนายกฯปู-ยิ่งลักษณ์”แม้จะเป็นหนึ่งในคดีที่เกิดมานานเช่นกับคดี “จำนำข้าว”ที่มีบรรดารัฐมนตรีอย่าง “บุญทรง” ถูกตัดสินจำคุก แต่คดีกรณีนายถวิล ที่ไล่เรียงมาตั้งแต่คำคัดสินของศาลปกครองมายันกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ ปปช. และ อัยการ สู่ศาลฎีกา จน “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”ช่วงนั้น มีการ “ออกหมายจับ”หลังจากที่ “ยิ่งลักษณ์”มีการหนีไปต่างประเทศเมื่อปี 2560
จนกระทั่งถึงวันนี้ ถูกหลายฝ่ายจับตาว่าเส้นทางกระบวนการจะมาในแบบเดียวกับพี่ชาย คือ“น.ช.ทักษิณ”หรือไม่อย่างที่ จู่ๆเมื่อวาน(25ธ.ค.) “อ.วิษณุ”อดีตรองนายกฯที่เคยไปดูความเรียบร้อยเรือนจำก่อน “ทักษิณ”กลับมาก็ไปที่ทำเนียบ และ ได้ มีการตอบคำถามนักข่าวถึงกรณี “นายกฯปู”
กรณีหากจะ จะขอพระราชทานอภัยโทษเหมือนกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ ว่า การขอพระราชทานอภัยโทษมีลำดับคือ 1.ต้องกลับเข้ามาประเทศ 2.ต้องมามอบตัวเป็นนักโทษ แล้วจึงจะถวายฎีกาได้ ถ้าหากยังไม่ได้รับโทษก็ยังถวายฎีกาไม่ได้ จะไม่เรียกว่าฎีกา เพราะฎีกานั้นคือ สิ่งที่นักโทษเด็ดขาดเป็นผู้ถวายขึ้นไป เมื่อถามว่าขั้นตอนจะเหมือน “ทักษิณ” หรือไม่อ.วิษณุ บอกว่า ตนไม่ทราบ ส่วนจะโปรดเกล้าฯ หรือไม่ แล้วแต่พระมหากรุณาฯ
ในขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ประเด็นของ “อดีตนายกฯปู”ก็เคยปรากฏบนหน้าปัดข่าว โดย จู่ๆ “วัชระ เพชรทอง”ก็ไปยื่นร้อง กรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร(14ธ.ค.66) ขอให้ศึกษากรณีมีข่าวปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ว่า
“น.ส.ยิ่งลักษณ์”อาจลักลอบเดินทางเข้าไทย พร้อม “ทักษิณ”จริงหรือไม่
โดย ขอให้เชิญ “นายกฯเศรษฐา”สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และขอให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาข้อเท็จจริงพร้อมแถลงให้ประชาชนทราบ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า “น.ส.ยิ่งลักษณ์” ไม่เคยโพสต์ข่าวความเคลื่อนไหว ในต่างประเทศผ่านโซเชียลมีเดียตั้งแต่เดือน ส.ค.2566 ถึงปัจจุบันแต่อย่างใดซึ่งผิดปกติวิสัยของ “น.ส.ยิ่งลักษณ์”ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
