แม้จะยังคงมีภาพเดินหน้าทำงานกับบท “เซลล์แมนประเทศไทย”ของ “นายกฯเศรษฐา”ที่เมืองดาวอส อันถือเป็น “จุดเด่น”ที่ผู้คนจำได้ ของนายกฯคนที่30 แบบที่ เจ้าตัว ตอบข้ามประเทศมายังยืนยันว่าพร้อมชี้แจงหาก สว.250 ที่ล่าชื่อได้มากกว่า84เสียงหรือ 1ใน3 สามารถยื่นเปิด“ศึกซักฟอกรัฐบาล”โดยไม่ลงมติ ตาม ม.153 โดยไม่เสียสมาธิในการทำงาน เพราะถือเป็นหน้าที่และหากตอบชัดแล้วถึงจุดหนึ่งก็ต้องพอ
แต่ภาพ สถานการณ์หลักการเมืองรัฐบาลหลายฝ่ายกลังจับตาปม ประเด็นการบริหารของรัฐบาล ที่แทนที่จะมี “ภาพบวก”ออกมาจาก “ผลงานรัฐบาล”ในรอบ 4 เดือน แต่กลับตาลปัดกลายเป็น “ผลงานรัฐบาลเศรษฐา”นอกจากจะยังไม่ปรากฏมรรคผลความคืบหน้า ชัดเจนไม่ว่าจะเป็น โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็น “นโยบายเรือธง”ของรัฐบาล หรือ การจัดการปัญหา“หมูเถื่อน” หรือ โครงการยักษ์อย่าง “แลนด์บริดจ์” แต่กลับเป็น “ผลลบ”ย้อนตลบใส่ “รัฐบาลเศรษฐา”ทั้งใน มิติ ถูกจับผิดการทำงาน ความรู้ความสามารถในการบริหาร จนอาจทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศจากนโยบายที่ดำเนินการ
อย่างที่ล่าสุด เริ่มมี “สัญญาน”ปิดล้อที่ชัดเจนมากขึ้น ผ่านท่าทำการไม่เห็นด้วยจากหลายฝ่าย กับนโยบาย “เรือธงรัฐบาล”อย่างโครงการแจกเงินดิจิทัลวอเล็ต ที่ต้องมีการกู้เงินมาแจก 5แสนล้าน แบบทำให้“รัฐบาลเพื่อไทย”อยู่ในอาการ “ไปต่อยาก” อย่างที่เมื่อวาน(16ม.ค.) “ภูมิธรรม”รองนายกฯ และ“รมช.คลัง-จุลพันธ์”ต้องออกมาขอ “เลื่อนประชุมบอร์ดดิจิทัลวอเล็ต”ออกไป เพื่อรอรายงานหรือข้อสรุปจาก ปปช.แม้วันนี้(17ม.ค.) “จุลพันธ์”จะฮึบๆ ยอมรับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” อาจมาไม่ทัน พ.ค. แต่รัฐบาลยังจะเดินหน้าต่อโดยจะมีการประชุม คกก.นโยบายอีกครั้ง นำความเห็น “กฤษฎีกา-ป.ป.ช.” เข้าไปพิจารณา และถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องสื่อสารให้ทุกหน่วยเข้าใจตรงกันว่าประเทศมีวิกฤติ
น่าสนใจคือนอกจาก “สัญญานไฟเหลือง”จาก “เลขากฤษฎีกา”ที่ยังถือว่าไว้หน้ารัฐบาล แล้ว “สัญญาน”จากเอกสารก ปปช.ที่ออกมาล่าสุด ที่ออกมาแบบ “จัดเต็ม”ทั้งจับผิดความสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมาย ในการไปเปลี่ยนเนื้อหานโยบายหาเสียง จับผิดเรื่องที่มาแหล่งเงิน และ วิธีการได้มาซึ่งเงิน รวมถึงการแจก และการบ่งชัดว่าประเทศไทยตอนนี้ ไม่ได้วิกฤติ รวมถึงชี้ช่องโหว่ที่อาจเกิดการทุจริตจากโครงการนี้ ที่ทำเอา “จุลพันธ์”ยอมรับเนื้อหาเอกสาร ตรงและแรงในการคัดค้านนโยบายนี้ ซึ่ง รัฐบาลพร้อมรับฟังทุกความเห็น ตั้งแต่ กฤษฎีกา ที่ไม่ได้เป็นการไฟเขียว หรือไฟแดง
ไม่ได้ห้าม และไม่ได้สั่งการให้เดินหน้า แต่ความเห็นของ ป.ป.ช. ค่อนข้างชัดเจนว่า โครงการนี้เดินหน้าไม่ได้ แม้ว่านโยบายนี้จะได้รับการรับรองจากประชาชนก่อนการเลือกตั้ง และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วก็ตาม ซึ่งบางกลุ่มองค์กร เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ป.ป.ช. มีความเห็นแตกต่าง ที่อาจยังมองไม่เห็นว่าประเทศกำลังตกอยู่ในวิกฤติตามที่รัฐบาลบอก
โดย “จุลพันธ์”พยายามอธิบายปมที่ปปช.บอกว่าประเทศไม่ได้วิกฤติ ว่า วิกฤตินี้ไม่ใช่เรื่องโครงสร้างทางเศรษฐกิจเท่านั้นแต่เป็นวิกฤติการเห็นอกเห็นใจพี่น้องประชาชนที่มีความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ Democracy without empathy คือทุนนิยมที่ไม่มีหัวใจจะไปเข้าใจผู้ที่เดือดร้อน มันแสดงให้เห็นมาตลอดว่าล้มเหลว รัฐบาลชุดปัจจุบันเราเดินทางไปทั่วประเทศเราเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เราไม่ได้ทำงานในห้องแอร์ วันนี้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ขณะเดียวกัน ก็น่าสนใจกับที่“สว.สมชาย แสวงการ”โพสFB เตือนในเรื่องนี้ ที่ว่า #กู้มาแจก5แสนล้าน #ดิจิทัลวอลเล็ต ดาบหนึ่ง ความเห็น กฤษฎีกา 8 หน้า ดาบสอง ความเห็น ปปช. 177 หน้า คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ทควรอ่านเอกสารจาก คกก.กฤษฎีกา และ ปปช. ให้ดี ทั้ง ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง ที่แสดงให้เห็นถึงปัญหาโครงการและข้อเสนอแนะนำนั้น เต็มไปด้วยความหวังดี และชี้ให้เห็นถึงอุปสรรค ความเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย และอาจไม่คุ้มค่า #เตือนมาด้วยความหวังดี #เลิกเถอะอย่าดันทุรัง #ได้ไม่คุ้มเสีย #เสี่ยงคุก โดยสว.สมชาย ยังเห็นว่า เนื้อหาในเอกสารปปช.เป็นการเตือนรัฐบาลว่ากำลังเสี่ยงกับโครงการนี้จะซ้ำรอยจำนำข้าว ซึ่ง กก.ดิจิทัลควรถอย และยังแนะ นายกฯเศรษฐาความอยู่ในประเทศแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าไปต่างประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews