“ดิจิทัลวอเล็ต” กู้ 5 แสนล้าน มาแจกหมื่นให้ชาวบ้านเหมือนเข้าสู่ “คิลลิ่งโซน” มาในทรงถอยก็โดน กกต.เล่นได้ว่าไปหาเสียงไว้แล้วไม่ได้ทำ จะเข้าข่ายหลอกลวงชาวบ้านหรือไม่ ส่วนถ้าเดินหน้าไปต่อให้สุดทาง ปลายทาง นอกจากจะลงเอยที่ศาลรัฐธรรมนูญ ระหว่างทางก็อาจโดน ปปช.ที่เตือนแรง ๆ มาแล้ว 8 ข้อ สอยเอาผิดได้กลางทาง ไม่นับรวม เหล่าบรรดา “โจทย์เก่า” ที่อยู่ในแต่ละ “ฟังก์ชั่น” องค์กรตรวจสอบ ซึ่งตั้งในช่วง “กลุ่มอำนาจเก่า” ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่แม้ “รัฐบาลเพื่อไทย” จะมาแบบ “รวมการเฉพาะกิจ” เป็น”กลุ่มอนุรักษ์นิยมใหม่” พลิกขั้วมารวมกับ “พรรค 2 ลุง” และพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ทำเอา FC ทั้งสองฝ่ายที่หะแรกอยู่คนละขั้วข้าง “ช็อคฟิวส์” กันไปพักใหญ่ ไม่ต่างไปจากเหล่าบรรดาด้อมส้ม ก้าวไกล
อันส่งผลในเกิดภาพ อิหลักอิเหลื่อในบทบาททางการเมือง ของพรรคการเมืองปีกฝ่ายค้าน และรัฐบาลที่มาในทรงคล้ายกัน คือ”รวมกันเฉพาะกิจ” อย่างที่เห็น “หัวหน้าต่อ-เฉลิมชัย” จากพรรคประชาธิปัตย์เพิ่งมาจับมือกับ “ต๋อม-ชัยธวัช” ผู้นำฝ่ายค้านจากก้าวไกล เมื่อวาน (19ม.ค.) เพื่อเดินหน้าการทำหน้าที่ “ฝ่ายค้าน”ในการตรวจสอบรัฐบาล โดยเตรียมยื่นซักฟอกหลัง งบประมาณ 67 ผ่าน หลังจากที่ผ่านมาทั้ง ปชป.และ ก้าวไกลถูกจับตาบทบาทการตรวจสอบประเด็นไฮไลท์อย่างกรณี “คนชั้น 14” ที่ ปชป.ยังพอกล้อมแกล้มที่มี “ชัยชนะ เดชเดโช”เป็น ประธานกมธ.ตำรวจ เคลื่อนไหวประเด็นคนชั้น 14 แม้จะถูกวิจารณ์ว่าหวดไม่เต็มข้อเช่นเดียวกับก้าวไกลที่ถูกมองว่า “ผิดวิสัย” ที่บรรดา “ตัวตึง” ไม่ออกมาไล่จี้เรื่องนี้ จะมีก็เพียง “ต๋อม-ชัยธวัช”ที่ออกมา 2-3 ดอก แบบหนัก ๆ ส่วน “วิโรจน์” “โรม” ก็มาแบบประปราย
ที่ก็น่าสนใจว่าทั้งประเด็น “คนชั้น14” และประเด็น “ดิจิทัลวอเล็ต” ที่เป็น 2 ประเด็นไฮไลท์ ใน 7 ประเด็นที่ “สว.250” เตรียมฝากผลงานไว้ก่อนหมดวาระเดือน พ.ค.เข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปตาม ม.153 ปัญหาการบริหารของรัฐบาล แม้จะเพิ่งทำงานมา 4 เดือนโดยเป็น 2 ประเด็น ที่ถูก “บิ๊วหนัก” มาตั้งแต่ต้นจนถึงล่าสุด แม้อาจมีเรื่องอื่นมากลบบ้าง แต่ 2 เรื่องนี้ก็ยังถูกตามขยี้
โดยในส่วนของ “ดิจิทัลวอเล็ต” นั้นถัดจาก “ไฟไม่เขียว” ของกฤษฎีกาขนานไปกับท่าทีกดดัน “ข้าราชการ” จากฝ่ายการเมืองกับข่าวการโยกย้ายที่ล้อไปกับภาพ “นายกฯเศรษฐา”ปิดห้องคุย “ผู้ว่าแบงค์ชาติ” มาถึงขั้น “ไฟแดง” จากเอกสารการศึกษาโครงการนี้ของ ปปช. ที่สามารถเบรคให้การประชุม “บอร์ดใหญ่ดิจิทัลวอเล็ต” วันอังคารที่ผ่านมา(16ม.ค.) ต้องเลื่อนออกไปก่อน
ที่ปรากฎการณ์ดังกล่าวนอกจาก “รมช.คลังจุลพันธ์” จะออกมาโต้ในที พูดถึงการ “มีธง” ขวางโครงการนี้แบบแม้ยืนยันรัฐบาลดันต่อแต่ก็ต้องเลื่อนการจ่ายเงิน ให้ประชาชนออกไปจากเดือน พ.ค.67 เช่นเดียวกับ “นายกฯเศรษฐา”ที่กลับมาจากดาวอส วันนี้ ก็ยืนยันไปให้สุด แม้ยังไม่รู้ว่าหยุดที่ตรงไหน โดยยืนยัน ไม่มีทุจริตดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอนขออย่าให้พูดลอย ๆ ย้ำว่า รบ.จะเดินหน้าต่อเต็มที่ ไม่มีความคิดยุติโครงการแบบที่ “ไหม-ศิริกัญญา” บอกว่าข้อความเห็น ปปช.จะเป็นทางลงของรัฐบาล แต่ยอมรับ ต้องเลื่อนไทม์ไลน์แจกออกไปก่อน
ขณะก็น่าสนใจเช่นกันในท่วงทำนองของผู้เกี่ยวข้องในพรรคเพื่อไทยที่เริ่มออกมา ทั้งยืนยันประเด็น “ความวิกฤติ” อย่างที่ “โฆษกชัย” อ้างถึงโพลเพจ สรยุทธ์ ประชาชนเห็นด้วย 93% จากคนเกือบ 3 แสนคน ในขณะที่ “เผ่าภูมิ” รองหัวหน้าเพื่อไทยก็ออกมาตั้งคำถาม 6 คำถาม เหมือนกดดันไปที่แบงค์ชาติ โดยเฉพาะคำถามข้อสุดท้ายที่ว่า นโยบายการคลัง (รัฐบาล) และนโยบายการเงิน (ธปท.) ควรสอดประสานกันหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลเห็นความจำเป็นในการกดคันเร่งนโยบายการคลัง (ซึ่ง Digital Wallet เป็นหนึ่งในนั้น) แต่นโยบายการเงินยังคงอยู่ ในช่วงการกดเบรคหรือไม่ และการขับรถคันเดียวกัน ขาหนึ่งกดคันเร่ง ขาหนึ่งกดเบรคพร้อมกัน รถจะพังหรือไม่ ประเทศจะมีปัญหาหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews